ตำรวจ 3 กองร้อยขอคืนพื้นที่หมู่บ้านทะลุฟ้าตั้งแต่ 6 โมงเช้า รวบ 68 ผู้ชุมนุมไป ตชด.ภาค 1 ผงะ! พบทั้งกัญชาแห้ง-ถุงยาง-เซ็กซ์ทอย บช.น.แถลงปฏิบัติตามกฎหมายเพราะมีผู้ร้องเรียน “ก้าวไกล-จาตุรนต์-เอ็นจีโอ” แห่ประณามเรียกร้องปล่อยตัว รวมตัวทวงคืนหมู่บ้านก่อนเจอสลายการชุมนุมอีกรอบ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม ตำรวจควบคุมฝูงชนกำลังพล 3 กองร้อย เข้ากระชับพื้นที่บนถนนพระราม 5 หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่ตั้งหมู่บ้านทะลุฟ้า พร้อมประกาศขอพื้นที่การจราจรคืน โดยให้เวลา 3 นาที แต่พบว่ามีเพียง 4-5 คนเท่านั้นที่เดินทางกลับ ในขณะที่ตัวแทนผู้ชุมนุมต่อรองขอเวลาเพิ่มเพราะมีสัมภาระจำนวนมาก แต่ตำรวจไม่ยินยอมและเคลื่อนกำลังพลเข้ากระชับพื้นที่ทันที โดยจัดกำลังพลปิดหัว-ท้ายบนถนนพระรามที่ 5 เลียบคลองผดุงกรุงเกษม จากเชิงสะพานชมัยมรุเชฐไปจนถึงสะพานอรทัย
ตลอดการปฏิบัติหน้าที่ ตำรวจประกาศให้สื่อมวลชนอยู่หลังแนวกำลังตำรวจ เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งขอให้ผู้ชุมนุมยุติการบันทึกภาพวิดีโอหากต้องการพูดคุยเจรจา ก่อนจะประกาศให้ผู้ชุมนุมทุกคนนั่งลง และทยอยคุมตัวผู้ชุมนุมในพื้นที่ทั้งชายและหญิงขึ้นรถควบคุมตัวผู้ต้องขังทั้งหมด ซึ่งมีทั้งเยาวชนไปจนถึงผู้สูงอายุ รวมแล้ว 70 คน ไปกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ปทุมธานี
ขณะที่ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เข้าตรวจสอบพื้นที่ภายหลังที่ปฏิบัติการขอคืนพื้นที่สำเร็จ โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (อีโอดี) พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ เพื่อความปลอดภัยและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในพื้นที่ ก่อนเปิดเส้นทางให้ประชาชนสัญจรตามปกติ โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวถึงผลการตรวจค้นเบื้องต้น ว่าพบยาเสพติดเป็นกัญชาและกระท่อมจำนวนหนึ่ง ส่วนปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ ยืนยันเป็นปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ภายใต้การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และที่ผ่านมาได้ประกาศเตือนแล้วหลายครั้ง
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. แถลงการขอคืนพื้นที่ว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนหลายครั้ง มีการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ บุกรุกสถานที่ราชการบางส่วน มีการลักทรัพย์ของราชการ ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า น้ำประปา ทุบทำลายสิ่งของราชการและประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย มีการต่อท่อสิ่งปฏิกูลลงพื้นที่คลองพื้นที่สาธารณะ ก่อให้เกิดความสกปรกต่อพื้นที่โดยรวม ซึ่งผลจากการปฏิบัติการควบคุมกลุ่มผู้ชุมนุมได้ 70 คน นำตัวส่งพนักงานสอบสวน ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 จังหวัดปทุมธานี ตามความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินและ พ.ร.บ.ควบคุมโรค นอกจากนี้ยังมีความผิดอื่นๆ เช่น ยาเสพติด
พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ระบุว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนมาโดยตลอด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการลักลอบใช้ไฟฟ้านครหลวง โดยต่อจากเสาไฟฟ้าต้นแรกจากสะพานชมัยมรุเชฐ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการสร้างห้องน้ำชั่วคราวจำนวน 5 ห้องต่อท่อสิ่งปฏิกูลลงไปในท่อระบายน้ำ
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ตั้งแต่มีการชุมนุมตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. เจ้าหน้าที่ได้ประกาศให้ออกจากพื้นที่มาแล้วหลายครั้ง ส่วนพระสงฆ์ที่มาชุมนุมนั้น พบว่าเป็นพระสงฆ์จริง จึงได้นิมนต์ไปทำการสึก ก่อนนำตัวไปดำเนินคดี
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวในเรื่องนี้ว่า ถือว่าเป็นการทำตามกฎหมาย ซึ่งการชุมนุมของหมู่บ้านทะลุฟ้านั้น น่าสังเกตว่ามาเรียกร้องประชาธิปไตยหรือตามข้อเรียกร้อง 4 ข้อ หรืออยากใช้สถานที่เป็นที่มั่วสุมกันหรือไม่ เพราะการเข้าขอคืนพื้นที่ มีทั้งถุงยางอนามัย กัญชาอัดแท่ง ใบกระท่อม มีดอาวุธ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปยัดหลักฐานเท็จ หรือป้ายสีให้กับผู้ชุมนุมเด็ดขาด
ขณะที่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวในเรื่องนี้ว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มุ่งเน้นเอาใจนายที่จะมีการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ในวันอังคารที่จะถึงนี้มากกว่าการปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานสากล จึงขอเรียกร้องให้ให้ประกันตัวกับผู้ถูกจับกุมทั้งหมดในชั้นพนักงานสอบสวนโดยทันที
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวเช่นกันว่า การจู่โจมสลายหมู่บ้านทะลุฟ้าเป็นการทำเกินกว่าเหตุ รัฐบาลตกผลึกกับการใช้มาตรการปราบผู้เห็นต่างโดยไม่คำนึงถึงหลักนิติธรรมอย่างไม่มีวันผ่อนปรนใดๆ อีกแล้ว ปราบกวาดล้างผู้เห็นต่างอย่างบ้าระห่ำ รัฐบาลจึงกำลังนำพาสังคมไทยไปสู่หายนะที่ยากต่อการกอบกู้มากขึ้นทุกที
เวลาประมาณ 14.20 น. กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก เผยแพร่แถลงการณ์ชี้แจงภาพอุปกรณ์รณรงค์สิทธิทางเพศที่ถูกยึดจากการสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยยอมรับว่า เป็นอุปกรณ์สำหรับรณรงค์เรื่องเสรีภาพส่วนบุคคลและเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นในการเข้าถึงความสุขทางเพศของประชาชน เฟมินิสต์ปลดแอกสนับสนุนการยกเลิกมาตรา 287 ให้เซ็กซ์ทอยถูกกฎหมายเพื่อให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงความสุขทางเพศได้อย่างปลอดภัย
ส่วนสมัชชาคนจนออกแถลงการณ์เรื่องดังกล่าวว่า ขอประณามการใช้กำลังอันป่าเถื่อน ลุแก่อำนาจ เข้าสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า และจับกุมผู้ชุมนุมครั้งนี้ และขอให้ปล่อยตัวผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมโดยทันที ประชาธิปไตยที่กินได้ การเมืองที่เห็นหัวคนจน
ภาคีเซฟบางกลอยออกแถลงการณ์เรื่อง ประณามการใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบในการสลายการชุมนุมโดยสงบเช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้ปล่อยตัวเพื่อนเราทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไข โดยไม่แจ้งข้อหาเพื่อปิดปาก และให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้วิธีการควบคุมตัวตามกระบวนการยุติธรรมที่เป็นหลักสากล
ต่อมาในเพจเฟซบุ๊กกลุ่ม People Go Network ได้โพสต์นัดรวมตัว ระบุว่า ด่วน! วันนี้ เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ที่หมู่บ้านทะลุฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รวมพลังเพื่อนพ้องน้องพี่ มาร่วมกันทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า เพื่อร่วมกันประณามการสลายและจับกุมที่ไม่เป็นธรรม
และในเวลา 15.00 น. กลุ่มมวลชนได้เดินทางมาร่วมกันทวงคืนหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยนายนันทพงศ์ ปานมาศ เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ได้ตั้งเวทีโดยใช้ก้อนฟางอัดแท่ง พร้อมปราศรัยว่า ยืนยันมาเพื่อเรียกร้อง 3 ข้อ ปล่อยเพื่อเรา, เขียนรัฐธรรรมนูญใหม่ และยกเลิก 112 ตามสิทธิ แต่วันนี้ตำรวจจับเพื่อนเราไป 68 คน มีทั้งเด็กและพระสงฆ์ วันนี้ต้องปล่อยเพื่อเราทั้งหมด เรายืนยันว่าจะอยู่ตรงนี้จนกว่าเพื่อนเราจะได้รับการปล่อยตัว
จากนั้นมีการสลับการอ่านแถลงการณ์จากกลุ่มต่างๆ ทั้งกลุ่มราษฎรใต้ และภาคีเครือข่ายเฟมินิสต์ปลดแอก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนรักษาการณ์อยู่ประมาณ 1 กองร้อยดูแลบริเวณถนนพระราม 5
ในเวลา 16.00 น. นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบรท์ แกนนำราษฎรนนทบุรี ขึ้นปราศรัยถึงการจับสึกพระ 2 รูปว่า พระไม่ได้ถืออาวุธ ไม่ได้มาปราศรัยยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ตนเป็นคนมุสลิมขอประณามความเลวทรามต่ำช้าที่สุด ขอให้เรียกร้องชาวพุทธประณามสำนักพุทธศาสนา ไม่เหมือนพระรูปหนึ่งยั่วยุให้มีการฆ่ากันไม่รู้กี่ศพกว่าจะจับสึกได้
ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยประมาณ 100 คน
เวลา 17.00 น. อดีตผู้นำหมู่บ้านทะลุฟ้าได้ประกาศว่า เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจอาจเข้าสลายการชุมนุมรอบ 2 จึงขอผู้ชุมนุมนั่งชู 3 นิ้ว จะไม่มีการตอบโต้หรือยั่วยุให้เกิดความรุนแรง ถ้าใครไม่พร้อมขอให้ถอยออกจากพื้นที่ หรืออีกกรณีถ้าผู้ชุมนุมไม่ยอมรับกติกานั่งนิ่งชู 3 นิ้วโดยไม่มีการตอบโต้ ก็ขอให้ออกจากพื้นที่ชุมนุม เพราะการทำกิจกรรมของหมู่บ้านทะลุฟ้าจะไม่มีการใช้ความรุนแรง ถ้าใครต้องการความรุนแรงไม่ใช่สมาชิกหมู่บ้านทะลุฟ้า
เวลาไล่เลี่ยกัน ที่ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าอโศก แนวร่วมกลุ่มราษฎร นำโดย น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ เดินทางมาปราศรัยโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวผู้ชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้า โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด แต่น่าสังเกตว่า มวลชนที่มาร่วมครั้งนี้เป็นไปอย่างบางตาไม่ถึง 20 คน
ในเวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประกาศให้ผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเนื่องจากขัด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยให้เวลา 15 นาทีให้สลายการชุมนุมและเดินทางกลับบ้าน หากไม่ยุติการชุมนุมเจ้าหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมาย โดยขณะที่กองกำลังควบคุมฝูงชนได้ตั้งกำแพงบนถนนพิษณุโลกข้างทำเนียบรัฐบาล
และในเวลา 18.10 น. บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง แกนนำราษฎรนนทบุรี นำมวลชนประมาณ 20 คนมานั่งขวางเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าสลายการชุมนุมบริเวณหมู่บ้านทะลุฟ้า ขณะเดียวกันมีหญิงวัยกลางคนที่อ้างว่าเป็นอดีตข้าราชการครูที่ได้รับเครื่องราชฯ ได้เข้าไปคุกเข่าอ้อนวอนเจ้าหน้าที่ให้ยุติการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะที่เจ้าหน้าที่นับถอยหลังและเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายทันที โดยผู้ชุมนุมได้นอนลงและชู 3 นิ้ว ซึ่งเมื่อตำรวจมาถึงก็ได้เข้าล้อมผู้ชุมนุมที่นอนลงซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 20 คน ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาอุ้มผู้ชุมนุมไปยังรถขังผู้ต้องหาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |