กรณีเรือยักษ์เกยตื้นที่คลองสุเอซกลายเป็นประเด็น "ปลุกให้ตื่น" ว่าด้วยความไม่แน่นอนของห่วงโซ่การขนส่งของโลก ที่เรียกว่า logistics supply chain ที่มีผลกระทบต่อผู้คนทุกประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
การระบาดของโควิด-19 สร้างความสั่นสะเทือนเรื่องความเปราะบางต่อระบบ logistics ของโลกมาแล้ว
พอเกิดกรณีเรือ Ever Given ซึ่งเป็นเรือสินค้าขนาด 220,000 ตัน "ขวางคลอง" สุเอซ ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความเสี่ยงที่คนในโลกไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นได้
เรือลำนี้ออกเดินทางจากท่าเรือหนิงโปทางตะวันออกของจีนเมื่อ 4 มีนาคม และกำหนดถึงปลายทางที่ท่าเรือเมือง Rotterdam ของเนเธอร์แลนด์วันที่ 31 มีนาคม แต่มาเกิดเหตุเกยตื้นเสียก่อนเมื่อวันที่ 24 มีนาคม
เกิดคำถามว่า ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดในช่องแคบมะละกาบ้าง จะมีผลกระทบต่อเราหนักมากน้อยเพียงใด
หรือถ้าหากมีการสู้รบกันในตะวันออกกลางจนถึงขั้นต้องปิดคลองสุเอซหรือช่องแคบฮาร์มุซ เส้นทางขนส่งของโลกจะมิกลายเป็นอัมพาตหรือ?
ทันทีที่เกิดเรื่องที่คลองสุเอซ (ความยาว 193.3 กิโลเมตร) ที่มีอายุการใช้งานมา 150 ปีแล้ว การขนส่งทางเรือผ่านคลองสุเอซ ประเทศอียิปต์ก็มีอันต้องชะงักทันที
เพราะไม่เคยเกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงเพียงนี้
และไม่มีอุปกรณ์ขนาดใหญ่พอที่จะกู้เรือให้กลับมาลอยน้ำ
คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญเส้นหนึ่งของโลก
เกิดความกลัวกันเพิ่มเติมว่า เรือสินค้ากว่าร้อยลำอื่นๆ ที่ต้องเข้าคิวกันยาวเหยียดอาจกลายเป็นเป้าถูกโจมตีได้หรือไม่
เพราะทุกวันนี้ก็ยังมีบรรยากาศตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และอิหร่านอยู่
ใครถือโอกาสสร้างเรื่องให้วุ่นวายขึ้นมาก็อาจกลายเป็นความโกลาหลระดับโลกได้
เรือ Ever Given ซึ่งบริษัท Evergreen Marine Corp ของไต้หวันเป็นผู้ดูแล จดทะเบียนขึ้นธงของประเทศปานามาขนส่งสินค้าระหว่างเอเชียและยุโรป
เรือลำนี้วิ่งเข้าคลองสุเอซเมื่อวันอังคารที่ 24 มีนาคม แล้วเกิดเหตุเกยฝั่ง ต่อมามีการขยับของตัวเรือจนขวางลำคลอง ปิดเส้นทางของเรือลำอื่นๆ จนหมดสิ้น
การแก้ปัญหาก็ใช้วิธีปกติ คือใช้เรือโยงหลายลำเข้าช่วยดันเรือให้พลิกกลับสู่แนวปกติ
อย่างน้อยถ้าขยับเรือลำนี้ได้บ้างก็อาจจะเปิดช่องให้เรือขนส่งอีกหลายลำผ่านไปได้บ้าง
ภาพถ่ายทางอากาศมองเห็นจากฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแดงพบว่ามีเรือรออยู่เป็นจำนวนมาก
หะแรกมีข่าวว่ากว่าจะแก้ปัญหาได้อาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 15 วัน
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงโลกก็จะปั่นป่วนพอสมควร เพราะการรับส่งสินค้าจะวุ่นวายไปหมด
เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นจากโควิดก็จะเสื่อมทรุดลงไปอีกรอบ
คลองสุเอซมีสัดส่วนการขนส่งสินค้าประมาณ 10-12 เปอร์เซ็นต์ของทั้งโลก
อีกทั้งมีความสำคัญต่อการขนส่งน้ำมันสำหรับตลาดโลกไม่น้อย
บริษัท เบิร์นฮาร์ด ชูลต์ ชิปเมเนจเมนต์ (Bernhard Schulte Shipmanagement) เป็นผู้รับผิดชอบเรือ Ever Given
รายงานบอกว่าลูกเรือทั้ง 20 คนปลอดภัย
เรือขนส่งคอนเทนเนอร์ยักษ์นี้มีความยาวเกือบ 400 เมตรและกว้าง 59 เมตร
บริษัทดูแลการแล่นเรือลำนี้บอกว่า สาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากการที่ตัวเรือถูกลมแรงพัดกระหน่ำตั้งแต่แล่นจากทะเลแดงเข้ามาในคลอง
ย้อนกลับไปตรวจประวัติก็พบว่านี่เป็นเหตุร้ายครั้งที่ 2 ของเรือ Ever Given
เมื่อปี ค.ศ.2019 เรือลำเดียวกันนี้วิ่งชนเรือเฟอร์รีขนส่งผู้โดยสารที่จอดเทียบในแม่น้ำเอลเบ ในเมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี
คราวนั้นผลการสอบสวนแจ้งว่า สาเหตุมาจากกระแสลมที่แรงมากจนมีผลกระทบต่อการทรงตัวของเรือ
ภาพที่ชวนคิดหลายภาพจากคลองสุเอซครั้งนี้คือ ขนาดที่ใหญ่โตของเรือกับอุปกรณ์ที่ส่งไปช่วยกู้เรือที่เมื่อวางเทียบกันแล้วต่างกันเหมือนหนูกับราชสีห์ทีเดียว
ตอนแรกใช้เรือโยงช่วยดัน เมื่อไม่สำเร็จก็มีการใช้รถแบ็กโฮตักดินในการขุดพื้นทรายใต้หัวเรือเพื่อช่วยให้ลำเรือหลุดออก
แต่เกือบจะไม่ได้ผลอะไรเท่าไหร่
ตัวเลข ณ วันศุกร์ที่ผ่านมาบอกว่า มีเรืออย่างน้อย 30 ลำจอดรออยู่ที่บริเวณทะเลสาบ Great Bitter Lake ของอียิปต์ ขณะที่เรืออีกกว่า 40 ลำรออยู่ที่ฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเรืออีก 30 ลำรออยู่ที่ฝั่งทะเลแดง
ข่าวอีกกระแสหนึ่งแจ้งว่า เรืออย่างน้อย 170 ลำไม่สามารถเดินทางผ่านช่องนี้ได้
นักวิเคราะห์หวั่นว่า เรือที่ลอยลำรออยู่ในทะเลแดงอาจกลายเป็นเป้าถูกโจมตีจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เป็นคู่กรณีในความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน
ผมเชื่อว่าอุบัติเหตุครั้งนี้จะนำไปสู่การ "สรุปบทเรียน" ครั้งสำคัญของทุกฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ, การขนส่ง, การเมือง และความมั่นคงอย่างแน่นอน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |