ผู้บัญชาการทหาร12ประเทศรุมประณามกองทัพเมียนมา


เพิ่มเพื่อน    

ทั่วโลกรุมประณามกองกำลังความมั่นคงเมียนมาฆ่าหมู่ประชาชนในวันกองทัพเมียนมาเสาร์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารสูงสุด 12 ประเทศประณามการใช้กำลังร้ายแรงกับพลเรือนไร้อาวุธ เอเอพีพีระบุมีคนตายวันเดียวกว่า 90 รวมถึงเด็ก 6 คน แต่สื่อท้องถิ่นชี้ตายอย่างน้อย 114 สถานทูตสหรัฐเตือนอเมริกันระมัดระวัง

ผู้ประท้วงชูป้ายเรียกร้องประชาคมนานาชาติช่วยเหลือเมียนมา ที่จัตุรัสทราฟัลการ์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2564 (Photo by Pietro Recchia/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

    รายงานเอเอฟพีกล่าวว่า แถลงการณ์ร่วมของผู้บัญชาการทหารสูงสุด 12 ประเทศมีออกมาเมื่อวันอาทิตย์ ภายหลังกองกำลังความมั่นคงเมียนมาปราบปรามผู้ประท้วงทั่วประเทศเมื่อวันเสาร์ที่ 27 มีนาคม ซึ่งตรงกับวันกองทัพเมียนมา สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ซึ่งเป็นกลุ่มสังเกตการณ์ในเมียนมา กล่าวว่า ทหารใช้กระสุนจริงในการปราบปรามภายใน 9 ภูมิภาค รวมถึงนครย่างกุ้ง ถึงช่วงค่ำวันเสาร์มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 423 คนแล้ว

    "กองกำลังของรัฐบาลทหารยิงปืนกลในเขตที่อยู่อาศัย ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตจำนวนมาก รวมถึงเด็ก 6 คนที่มีอายุระหว่าง 10-16 ปี" เอเอพีพีกล่าว "ข้อเท็จจริงที่ระบอบทหารที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพ่งเล็งเป้าหมายที่เด็กนั้นเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอย่างร้ายแรง"

    รอยเตอร์อ้างสำนักข่าวออนไลน์เมียนมานาวว่า การปราบปรามเมื่อวันเสาร์มีคนโดนฆ่าตาย 114 คน ผู้ตายรวมถึงที่เมืองมัณฑะเลย์ 40 คน หนึ่งในนั้นเป็นเด็กหญิงวัย 13 ปี, ที่ย่างกุ้งอย่างน้อย 27 คน และมีรายงานเด็กอายุ 13 ปีโดนฆ่าตายที่ภูมิภาคสะกาย นอกจากนี้ยังมีรายงานผู้เสียชีวิตตั้งแต่ที่รัฐกะฉิ่นซึ่งเป็นเขตเทือกเขาภาคเหนือ ลงมาถึงเมืองตะนาวศรีในภาคใต้ติดทะเลอันดามัน

    การปราบปรามนองเลือดที่สุดนับแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เรียกเสียงประณามจากนานาชาติอีกครั้ง โธมัส เวย์เดา เอกอัครราชทูตสหรัฐ โพสต์ทางโซเชียลมีเดียว่า การนองเลือดครั้งนี้น่ากลัวมาก ประชาชนชาวเมียนมาพูดอย่างชัดเจนว่า พวกเขาไม่ต้องการอยู่ภายใต้ระบอบทหาร

    สถานทูตสหรัฐประจำย่างกุ้งทวีตเมื่อวันอาทิตย์ เรียกร้องคนอเมริกันจำกัดการเคลื่อนย้าย "หากคุณต้องเดินทางขอให้ใช้ความระมัดระวัง และให้มั่นใจว่าคุณสามารถสื่อสารกับคนที่คุณรักได้ขณะเดินทาง" ทวีตของบริการพลเมืองสหรัฐกล่าว หนึ่งวันก่อนหน้านี้สถานทูตสหรัฐเพิ่งเปิดเผยว่า ศูนย์วัฒนธรรมอเมริกันในนครย่างกุ้งตกเป็นเป้ากระสุนด้วย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

    ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของ 12 ประเทศนำโดยสหรัฐ ออกแถลงการณ์ร่วมกันซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ประณามกองทัพเมียนมาที่เข่นฆ่าพลเรือนไร้อาวุธ โดยระบุว่า ทหารอาชีพต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากล และมีหน้าที่ปกป้อง ไม่ใช่ทำร้าย ประชาชนที่พวกเขารับใช้

    "เราเรียกร้องให้กองทัพเมียนมายุติความรุนแรง และทำงานเพื่อฟื้นฟูความเคารพและความเชื่อถือกับประชาชนชาวเมียนมา ซึ่งได้สูญเสียไปจากการกระทำของกองทัพเอง" แถลงการณ์ฉบับนี้ลงนามโดยผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพสหรัฐ, อังกฤษ, แคนาดา, เยอรมนี, กรีซ, อิตาลี, เดนมาร์ก, เนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

    ทอม แอนดรูว์ ผู้จัดทำรายงานพิเศษขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวเรียกร้องว่า ถึงเวลาที่ทั่วโลกต้องดำเนินการ หากไม่ผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น ก็ให้ทำผ่านการประชุมฉุกเฉินระหว่างประเทศ รัฐบาลทหารเมียนมาสมควรต้องถูกตัดขาดจากเงินทุน เช่นรายได้จากน้ำมันและก๊าซ และตัดขาดจากการเข้าถึงอาวุธ

    ศพของผู้เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์บางรายได้รับการจัดพิธีแล้วเมื่อวันอาทิตย์ ขณะเดียวกัน มีรายงานจากสื่อเมียนมาว่า ชาวเมียนมายังคงออกมาชุมนุมประท้วงอีกในหลายเมือง เช่น พะโคและโมนยวา หรือในเมืองเล็กๆ อย่างโมกองในรัฐกะฉิ่น

    ที่รัฐกะเหรี่ยงในภาคตะวันออกติดชายแดนไทย ซา มู นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยง กล่าวว่า กองทัพเมียนมาเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีเมื่อคืนวันเสาร์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นยู) เผยว่า ได้บุกยึดค่ายของทหารเมียนมา ฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ 10 คน การโจมตีทางอากาศต่อกองพันที่ 5 ของเคเอ็นยู ทำให้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน บาดเจ็บอย่างน้อย 8 คน


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"