เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 28 มี.ค.2564 พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ เปิดเผยว่า พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า ได้รับรายงานว่า มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก  หลบซ่อนอยู่บริเวณ บ้านซองกาเรีย ซอย รร.ลาซาลสังขละบุรี และที่ชายป่า ข้างศูนย์เกษตรที่สูง อ.สังขละบุรีจ.กาญจนบุรี 

ทั้งนี้ พ.อ.สิทธิพร จุลปานะ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ พร้อม พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รองผบ.ฉก.ลาดหญ้า นำกำลัง  มว.ลว.ที่ 3 จุดตรวจร่วมน้ำเกริ๊ก ร่วมกับ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ,ชป.ข่าว กกล.สุรสีห์ เข้าตรวจสอบบริเวณสวนส้มโอ ภายในซอย รร.ลาซาลสังขละบุรี พบแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา นอนพักหลบอยู่ที่กระท่อมร้าง จึงทำการแสดงตัวเข้าจับกุม  ตรวจสอบพบว่ามีจำนวนทั้งหมด 14 คน เป็นชาย 8 คน หญิง 6 คน  

จากนั้นกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบ บริเวณชายป่า ข้างศูนย์เกษตรที่สูง ห่างจากถนน323 ประมาณ 100 เมตร พบแรงงานต่างด้าว นอนพักอยู่ตามโคนกอไผ่ จึงเข้าจับกุม แต่วัยรุ่นชายคนนำพา2คน ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า ไม่สามารถจับกุมตัวได้ทัน ตรวจสอบพบ มีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา จำนวนทั้งหมด 16 คน เป็นชาย 10คน หญิง6คน 

เบื้องต้น ทั้งหมดให้การว่า มาจาก จ.เมาะละแหม่ง,จ.ปะโค,จ.ตะโถ,จ.ตาบูเซยัด จ.มุด่ง จ.พะอัน ประเทศเมียนมา และนัดรวมตัวกันที่ อ.พญาตองซู โดยมีชายวัยรุ่น ไม่ทราบชื่อ 2 คน นำทางเดินลอบเข้ามาฝั่งไทย เส้นทางรถไฟเก่าข้างวัดพิมละม่อม  และเดินลัดเลาะมาตามป่า จนถึงบริเวณที่ถูกจับกุม จึงนอนพักรอรถมารับ ไปส่งตามจังหวัดต่างๆ เสียค่าหัวเป็นเงินคนละ 12,000-17,000 บาท  

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ทำการตรวจวัดอุณหภูมิ ขั้นต้นไม่พบผู้ใดอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา และนำตัวส่ง สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการรตรวจเชื้อโควิด-19 ที่ รพ.สังขละบุรี และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป 

ขณะเดียวกันทหารมว.ลว.ที่ 4 (จต.ร่วมเขาหนีบ) ฉก.ลาดหญ้า ร้อย.ทพ111, ร้อย.ตชด.136, ฝ่ายปกครอง อ.เมืองกาญจนบุรี และ จนท.สรรพสามิต ลาดตระเวณบริเวณ เส้นทางธรรมชาติพื้นที่ บ.พุน้ำร้อน ม.12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี  พบนายเอกชัย สวัสดี  อายุ 28 ปี ขับขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125  สีดำ ทะเบียน  1กญ 8178กาญจนบุรี โดยมี นายต้าซอย (ไม่มีนามสกุล) อายุ 42 ปีชาวเมียนมา นั่งซ้อนท้าย ตรวจค้นพบบุหรี่ต่างประเทศ เลี่ยงภาษี ยี่ห้อ TEXAS จำนวน 25 คอตตอล (250ซอง)บรรจุในกระสอบ จึงนำตัวส่งจนท.สรรพสามิต เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป