เมียนมากู่ไม่กลับ วันสถาปนากองทัพสังหารประชาชนไปอีกร่วม 50 ราย "มิน อ่อง หล่าย" อ้างการก่อการร้ายทำลายความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในชาติเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันสถาปนากองทัพเมียนมา ว่ากองทัพเมียนมาได้จัดพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่ ท่ามกลางการประท้วงของประชาชนทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจ ภายในพิธีสวนสนามมีพลเอกอาวุโสอเล็กซานเดอร์ ฟอร์มิน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศรัสเซีย พร้อมคณะทูตรวม 8 ประเทศ รวมทั้งจีนด้วย โดย พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพเมียนมา ให้การต้อนรับ
    พิธีสวนสนามเกิดขึ้นท่ามกลางการใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงในกรุงเนปยีดอ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าบุกค้นบ้านและจับกุมแกนนำผู้ประท้วงเพื่อสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนออกมาชุมนุม สื่อกระบอกเสียงของคณะรัฐประหารเตือนผู้ชุมนุมอาจถูกยิงเข้าที่ศีรษะและหลังได้ และจงอย่าตายอย่างสูญเปล่า ขอให้เรียนรู้จากการตายอย่างน่าอดสูของผู้ชุมนุมก่อนหน้า
    พล.อ.อาวุโสมิน อ่อง หล่าย อ้างว่า การก่อการร้ายซึ่งทำลายความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยในชาติเป็นสิ่งยอมรับไม่ได้ ระบอบประชาธิปไตยที่เมียนมาปรารถนาคงจะเป็นประชาธิปไตยที่ขาดวินัยหากผู้คนไม่ปฏิบัติตามหลักกฎหมาย
    มีรายงานว่าจำนวนผู้เสียชีวิตในวันสถาปนากองทัพเมียนมา มีอย่างน้อย 50 ราย จากเมืองมัณฑะเลย์ สะกาย และย่างกุ้ง เป็นผลจากการปราบปรามด้วยกำลังรบของเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ชาวเมียนมาพยายามรวมตัวกันบนท้องถนนเพื่อชุมนุมต่อต้านการยึดอำนาจ
    ที่รัฐฉาน เจ้าหน้าที่เปิดฉากสาดกระสุนเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมกัน มีร่างผู้เสียชีวิตหลายรายอยู่ตามท้องถนน เนื่องจากแพทย์ท้องถิ่นระบุไม่สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากพื้นที่ได้เพราะสถานการณ์มีความเสี่ยงสูง หน่วยกู้ภัยบางนายพยายามลากร่างของผู้บาดเจ็บออกมาแต่ถูกระดมยิงใส่
    มีรายงานจากชายแดนด้าน จ.ระนอง ว่าภายในย่านเศรษฐกิจหัวท่า เมืองเกาะสอง ภาคตะนาวศรี กลุ่มผู้ชุมนุมชาวเมียนมาต่างออกมาประท้วงยึดถนนสายต่างๆ แต่ต้องพบกับการต่อต้านอย่างหนัก จากกลุ่ม Kawthaung Boycott ซึ่งเป็นกองกำลังความมั่นคงที่ทางรัฐบาลทหารเมียนมาจัดตั้งขึ้น เดินหน้าปราบปรามนักเคลื่อนไหว ผู้ชุมนุมประท้วง และพันธมิตรทางการเมืองของนางอองซาน ซูจี รวมทั้งประชาชนที่ออกมาเห็นต่างอย่างหนัก
    มีการใช้อาวุธสลายการชุมนุม จนทำให้ผู้ประท้วงต่างวิ่งหลบหนีมาตามตรอกซอยต่างๆ ล่าสุดมีรายงานผู้บาดเจ็บแล้วร่วม 20 ราย โดย 1 รายได้ถูกอุ้มไปรักษาภายในบ้านเรือนของประชาชน ส่วนทางด้านโรงพยาบาลและสถานีอนามัยประจำเมือง ถูกรัฐบาลทหารเมียนมาสั่งห้ามไม่ให้รักษาผู้บาดเจ็บ บางจุดที่ประชาชนมีการสร้างบังเกอร์ปิดถนน และมีการขึ้นธงดำ หมายถึงสัญลักษณ์ แสดงว่าจุดพิกัดนั้นกำลังอ่อนแอ
    นอกจากนี้ ในเขตภาคตะนาวศรี เมืองมะริด และเมืองเกาะสอง หัวเมืองท่าสำคัญทางใต้ รายงานผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 4 ราย ที่เกาะสอง ที่ผ่านมาทหารออกมาเผาบังเกอร์ ที่กลุ่มผู้ต่อต้านการรัฐประหาร นัดชุมนุมครั้งใหญ่ทั่วประเทศในเช้าวันเสาร์ โดยผู้ชุมนุมใช้สื่อออนไลน์ ทั้งการโพสต์ภาพ นัดหมาย แจ้งพิกัดผลประโยชน์ใกล้ชิด จีนตกเป็นเป้าในการประท้วงเมียนมา
    สำหรับยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากเหตุประท้วงครั้งล่าสุดอยู่ที่ 328 ราย โดยยังไม่รวมยอดล่าสุดที่กำลังเพิ่มขึ้นในวันนี้ แต่กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนคาดว่าจำนวนที่แท้จริงอาจจะมีมากกว่านี้
    ปยีตองซูลุดดอว์ สภาเงาแห่งเมียนมา (ซีอาร์พีเอช) แถลงประณามผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ต่อการสวนสนามในพิธีรำลึกวันสถาปนากองทัพเมียนมา หลังการปราบปรามอย่างนองเลือดนานกว่า 7 สัปดาห์แล้ว ว่าไม่สามารถปล่อยให้กองทัพเฉลิมฉลองการสังหารประชาชนชาวเมียนมาได้
    ดร.ซาซา ผู้ประสานงานกิจการสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ของปยีตองซูลุดดอว์ กล่าวว่า เราไม่ควรปล่อยให้เหล่านายพลกลุ่มนี้เฉลิมฉลองหลังเพิ่งเข่นฆ่าพี่น้องร่วมชาติของเรามา พวกมันคือศัตรูของประชาธิปไตย เราจะไม่มีวันยอมแพ้จนกว่าประชาธิปไตยมาจะได้มา จนกว่าประชาธิปไตยแบบสหพันธรัฐจะได้รับการสถาปนา และจนกว่าพี่น้องของเราจะเป็นไท.