26 มี.ค.64 - นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ร่วมณรงค์หาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการหาเสียงระดับเทศบาล ให้กับ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เบอร์ 4 รวมถึงผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครเชียงใหม่ ทั้งสี่แขวง บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนให้การต้อนรับอบอุ่นไม่ว่าจะเป็นที่ กาดประตูเชียงใหม่, กาดประตูก้อม, กาดวโรรส, กาดต้นลำไย, กาดศิริวัฒนา ขณะที่การขึ้นรถแห่ไปทั่วทั้งสี่แขวงในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่มีพ่อแม่พี่น้องประชาชนออกมายืนโบกไม้โบกมือให้การต้อนรับตลอดสองข้างทาง กระทั่ง เวลา 18.00 น. นายธนาธร พร้อมด้วยนายธีรวุฒิ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ครั้งสุดท้าย ที่บริเวณลานด้านหน้าโรงแรม Best Western มีประชาชนมาร่วมรอฟังเนืองแน่น
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตนเองเป็นคนเชียงใหม่โดยกำเนิด เติบโต ร่ำเรียน และทำงานก็อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่แห่งนี้ เห็นความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ตั้งแต่เกิดจนโต มีความรู้สึกว่างบประมาณที่เทศบาลนครเชียงใหม่ได้รับ 1,600 ล้านบาทต่อปี หากอยู่ครบวาระสี่ปีก็มากกว่า 4,000 ล้านบาท แต่ถามว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชียงใหม่มีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือไม่ ถนนหนทาง การระบายน้ำ การคมนาคมขนส่งสาธารณะ โรงเรียนของเทศบาล ศูนย์บริการสาธารณสุขของเทศบาล หรือสิ่งต่างๆ ที่เป็นงานของเทศบาลที่ต้องให้บริการกับประชาชนดีหรือไม่ ซึ่งตนเองคิดว่าสามารถทำได้ดีกว่านี้ ใหม่กว่านี้ และความเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องประชาชนดีขึ้นกว่านี้ได้ ถ้าหากได้ผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์ มีความตั้งใจจริง นี่เองที่เป็นสาเหตุให้ตนลาออกจากอาชีพราชการงานประจำที่ทำมากกว่า 20 ปี เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในนามคณะก้าวหน้า เพราะเชื่อมั่นในอุดมการณ์ ในแนวแนวนโยบายของคณะที่สืบทอดมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นพรรคอนาคตใหม่ และครั้งนี้เชื่อว่าประชาชนชาวเชียงใหม่จะให้โอกาส ให้เราได้เข้าไปบริหารงบประมาณก้อนนี้ ซึ่งตนสัญญาว่าทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้จะเปิดเผย โปร่งใส ไม่มีทุจริตคอรัปชั่น คุ้มค่ากับการที่พ่อแม่พี่น้อง ปฏิเสธเงิน 300 บาท 1,000 บาทหรือ 3,000 บาท ที่เขานำมาซื้อเสียง อย่างแน่นอน
ด้าน นายธนาธร กล่าวว่า เทศบาลมีหน้าที่ให้บริการประชาชน ดูแลเรื่องที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนของเทศบาล โรงพยาบาลของเทศบาล ตลาดของเทศบาล งานบริการสาธารณะ หรือแม้แต่งานประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับการเมืองทั้งสิ้น การเมืองกับชีวิตของเราเป็นเรื่องเดียวกัน เทศบาลนครเชียงใหม่เป็นหนึ่งในเทศบาลนครที่ใหญ่มาก ปีหนึ่งงบ 1,600 ล้านบาท เงินก้อนนี้มาจากภาษีของพวกเรา และนี่คือเรื่องการเมือง เพราะนายกเทศมนตรีเป็นคนทำแผนเสนอ และสมาชิกสภาเป็นคนอนุมัติแผน และเราประชาชนเป็นคนเลือกทั้งผู้บริหาร และสมาชิกสภา ถ้าเราไม่สนใจการเมือง ก็แปลว่าเราไม่สนใจว่าภาษีของเราจะถูกเอาไปใช้โดยใคร และถูกเอาไปใช้ทำอะไร ดังนั้น อยากเชิญชวนทุกคนมาสนใจการเมือง วันที่ 28 มีนาคมนี้ เป็นโอกาสดีที่เราจะได้มาเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่ไม่มีมาแล้วกว่า 8 ปี
นายธนาธร กล่าวอีกว่า จากความสำคัญของการเลือกตั้งเทศบาลนี้เอง ที่นำมาสู่โจทย์ที่ว่าเราจะออกแบบเมืองอย่างไรให้สอดคล้องกับความเป็นไปของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น เหล่านี้เองที่นำมาสู่การตัดสินใจของเราว่าอยากจะมีผู้บริหารเทศบาลนครเชียงใหม่แบบไหน ซึ่งเชียงใหม่มีทรัพยากรที่มีศักยภาพมาก ดอยสุเทพ แม่น้ำปิง ประเพณีวัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงทรัพยากรที่สำคัญอย่างมากคือผู้คนที่หลากหลายในเมืองเชียงใหม่ ที่ทำให้เทศบาลนครเชียงใหม่แตกต่างจากที่อื่นๆ ซึ่งตนหมายถึงกลุ่มคนที่ออกมาเรียกร้องการพัฒนาเมืองโดยไม่ต้องรอภาครัฐ กลุ่มคนต่างๆ ที่ออกมาเรียกร้องรณรงค์ให้รัฐสนใจในประเด็นต่างๆ เพราะพวกเขาอยากเห็นบ้านเมืองของตนเองดีขึ้น
"สำหรับผม นายกเทศมนตรีคนต่อไปของเทศบาลนครเชียงใหม่ ควรเป็นคนเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก เป็นคนที่สามารถดึงภาคประชาคมต่างๆ ของเชียงใหม่หลอมรวมให้เป็นพลังได้ เพราะเรามีศักยภาพอยู่แล้ว และคนที่มีคุณสมบัติอย่างนี้ คือคุณธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีของเรา เพราะจากการที่ได้สัมผัส เขาไม่ใช่คนหยิ่งยโสโอ้อวดทะนงตน ไม่ได้เป็นคนที่ยึดติดกับความคิดตนเอง แต่เป็นคนเปิดใจ เข้าได้กับทุกคน เป็นผู้นำที่มีลักษณะประนีประนอม ที่จะสามารถดึงศักยภาพของเชียงใหม่ออกมา หลอมรวมผู้คนให้เป็นปึกแผ่นเพื่อขับเคลื่อนเชียงใหม่ให้เติบโตรุดหน้าไปได้ ดังนั้น อยากให้ลองให้โอกาสผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ 4 ดูสักครั้ง เพื่อมาเปลี่ยนแปลงเชียงใหม่ให้ดีขึ้น ผมเชื่อว่าเชียงใหม่มีศักยภาพที่จะดีกว่านี้ได้" นายธนาธร กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |