เป็นเรื่อง เป็นราว เป็นข่าวเมาธ์ว่อนโซเชียล เอกสารบัญชีข้อมูลรับรองการดำเนินการรับโอนข้าราชการทหารมารับราชการข้าราชการตำรวจ ในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.)
จำนวน 41 ราย!!!
ที่ถูกแชร์ไปทั่วแวดวง "สีกากี" ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
พร้อมๆ คำเหน็บแนมแกมประชด ในทำนองข้าราชการตำรวจทั่วไปอยากจะย้ายมาอยู่สังกัด สตม. ต้องผ่านการทดสอบความรู้ความสามารถภาษาอังกฤษตามหลักเกณฑ์ ต้องไปเพิ่มเติมความรู้ เพิ่มคุณวุฒิ จึงจะสามารถมาอยู่ในสังกัด สตม.ได้
และคำถามคาใจ...."ทหาร" ที่โอนย้ายมาเป็นตำรวจ "ตม." มีการใช้มาตรฐานเดียวกันหรือไม่ และเหตุใดถึงโอนย้ายมาอยู่ ตม.ง่ายๆ ต่างจากตำรวจหน่วยอื่นที่กว่าจะเข้ามาอยู่ ตม.ยากเย็นแสนเข็ญ
กลายเป็นประเด็นดรามา
กลายเป็นประเด็นน้อยเนื้อต่ำใจ
เกิดการระส่ำระสายภายในองค์กร "ตำรวจ" มีการวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่น "กรมปทุมวัน"
แต่...ดูเหมือนว่า ดรามาร้อนๆ การรับโอน "ทหาร" มาเป็นตำรวจสังกัด "ตม." กลับไม่ได้รับการชี้แจงจาก "ผู้บังคับบัญชา" ทั้งระดับ ตร.และ สตม.
ทั้งที่จริงๆ แล้ว การรับโอน "ทหาร" ทั้ง 41 ราย ซึ่งเป็นทหารเรือชั้นประทวนมาเป็นตำรวจ ตม. ตำแหน่ง ผบ.หมู่ อยู่ประจำด่านต่างๆ ทั่วประเทศนั้น
ไม่ใช่เรื่อง "มุบมิบ" ไม่ใช่เรื่อง "ซ่อนเร้น" ไม่ใช่เรื่อง "อภิสิทธิ์" ใดๆ
ที่สำคัญไม่น่าจะเป็นประเด็นดรามาให้ "ตำรวจ" ระส่ำระสาย
หากย้อนไปช่วงต้นเดือนมกราคม 2563 พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 ในฐานะรองโฆษก สตม. ที่ช่วงนั้นออกมาชี้แจงประเด็นโครงการเรือตรวจการณ์ สตม.จัดซื้อ 27 ลำ ใช้งบ 348 ล้านบาท ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเรือดังกล่าวไม่ได้ใช้ประโยชน์จริงตามวัตถุประสงค์ที่เขียนไว้ในโครงการ
ตม.จังหวัดหลายแห่งที่รับมอบเรือไปแล้วนำไปจอดไว้บนบกที่โรงเก็บไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์
บางแห่งไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.ขับเรือเป็น
พ.ต.อ.เชิงรณ ก็ยืนยันเรือตรวจการณ์ได้ใช้ประโยชน์ เพิ่มความสามารถ ในด้านงานปัญหาค้ามนุษย์ ป้องกันปราบปรามคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายในพื้นที่ตลอดแนวชายแดน และพื้นที่เป้าหมายที่ติดทะเล
ครั้งนั้น พ.ต.อ.เชิงรณ ก็ยังบอกเอาไว้ "นอกเหนือจากการจัดซื้อเรือยนต์แล้ว เรายังมีการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ประจำเรือยนต์ตรวจการณ์ จนได้รับประกาศนียบัตรนายท้ายเรือ สตม.ยังมีแผนการในการจัดอบรมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีแผนที่จะรับโอนทหารเรือที่มีความรู้ความสามารถมาบรรจุเป็นข้าราชการตำรวจในสังกัดสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอีกด้วย"
ชัดเจนแจ่มชัด...เพียงแต่ครั้งนี้ทีมงานโฆษก สตม.ไม่รีบออกมาอธิบายให้ความกระจ่างต่อทุกฝ่าย ก็เลยกลายเป็นประเด็นดรามาในแวดวงสีกากี และเป็นประเด็นสร้างความเสียหายต่อ "สตม."
"บิ๊กอู๊ด" พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. น่าจะจับ "ทีมโฆษก สตม." มาตีก้นสักป้าบ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |