26 มี.ค.64 - ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม Wevo ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่ ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2564 ที่ห้างเมเจอร์ฯ รัชโยธิน วันเดียวกับเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่ม REDEM หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก และไม่ได้รับการประกันตัวในชั้นฝากขัง โดยคำร้องมีเนื้อหารายละเอียดขอให้ศาลเรียกพนักงานสอบสวนและผู้ต้องหามาไต่สวนด้วย
คำร้องขอประกันตัวระบุสาระสำคัญสรุปได้ว่า นายปิยรัฐ ผู้ต้องหาที่ 1 ถูกจับกุมโดยยังไม่ได้เข้าร่วมการชุมนุมใดๆ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีนี้ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2564 พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนก็ไม่มีพยานหลักฐานใดยืนยันแน่ชัดว่าผู้ต้องหาที่ 1 กระทำการในลักษณะอั้งยี่และซ่องโจร คงมีเพียงแต่การกล่าวหาโดยลอยๆ เท่านั้น ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้ต้องหาที่ 1 เพียงเดินทางไปรับประทานอาหารที่ห้างเมเจอร์ฯ รัชโยธินเท่านั้น ปรากฏตามใบเสร็จค่าอาหารจำนวน 962 บาท รับประทานเสร็จในเวลา 17.52 น.
ต่อจากนั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบพยายามเข้ามาควบคุมตัว โดยไม่มีหมายจับ ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่แจ้งว่ากระทำความผิดอันใด ไม่มีหมายค้น ขอค้นตัว ผู้ต้องหาที่ 1 ก็ให้ความยินยอมแต่โดยดี หากดูตามคลิปวิดีโอจะเห็นได้ว่า ไม่พบสิ่งของใดๆ ไว้ในครอบครองตามที่ถูกกล่าวหา แต่เมื่อชุดปฏิบัติการพิเศษเดินทางมาถึงได้พยายามปัดกล้องไม่ให้ถ่ายภาพเหตุการณ์เอาไว้ คลิปวิดีโอถูกตัดออกไป ผู้ต้องหาที่ 1 กับเพื่อนถูกควบคุมตัวพร้อมถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดและถูกยึดสิ่งของต่างๆ
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนก็ยังไม่ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดหรือขอข้อมูลกล้องวงจรปิดแต่อย่างใด ต่อมาบุคคลผู้ถูกควบคุมตัวก็ได้ไปขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดกับห้างเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมบุคคลต่างๆ ตั้งแต่เวลา 17.43 - 17.45 น. ซึ่งเป็นระยะเวลาช่วงเดียวกันกับที่ผู้ต้องหาที่ 1 ยังอยู่ในห้างและกำลังจะจ่ายเงินค่าอาหารตามใบเสร็จเวลา 17.52 น. อันแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ได้มีพฤติการณ์ต่างๆ อันเป็นความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ทั้งนี้ ตามสำเนาบันทึกการตรวจยึดของกลางจากผู้ต้องหาที่ 1 ก็ระบุเพียงแค่ว่าตรวจยึดได้เสื้อคล้ายเกราะเท่านั้น ไม่ใช่เสื้อเกราะ ไม่มีมีสิ่งของต่างๆ ตามที่พนักงานสอบสวนได้บรรยายไว้ในคำร้องขอฝากขังอยู่ในความครอบครองของผู้ต้องหาที่ 1 แต่อย่างใด
จากการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 ยืนยันว่า เพิ่งเคยถูกดำเนินคดีในความผิดฐานอั้งยี่ ซ่องโจร ไม่ได้มีพฤติการณ์ลักษณะซ้ำๆ ข้อเท็จจริงที่พนักงานสอบสวนกล่าวอ้างมาในคำร้องขอฝากขังจึงน่าจะคลาดเคลื่อน สำหรับคดีอื่นๆ ที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดนั้น ไม่ได้ลักษณะคดีและข้อหาข้อเท็จจริงต่างๆ เหมือนกับคดีนี้ เป็นแต่เพียงการแสดงออกและการใช้สิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น ยังไม่มีคดีใดที่ศาลพิพากษาลงโทษ จึงถือว่าผู้ต้องหาเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ จึงขอให้ศาลได้โปรดตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ต้องหา หากพนักงานสอบสวนคัดค้านการปล่อยชั่วคราว ขอศาลได้โปรดเรียกพนักงานสอบสวนและผู้ต้องหามาไต่สวนเหตุว่ามีมูลเหตุจริงเท็จเพียงใด เพื่อประกอบการใช้ดุลพินิจของศาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการยื่นคำร้องแล้ว ศาลเห็นควรให้เบิกตัวนายปิยรัฐ ผู้ต้องหาที่ 1 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และหมายเรียกพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน มาศาลเพื่อไต่สวนคำร้องร่วมกัน ในวันที่ 31 มี.ค. นี้ เวลา 10.00 น. ซึ่งเมื่อศาลไต่สวนทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว ก็จะมีคำสั่งอนุญาตให้นายปิยรัฐได้ประกันตัวหรือไม่ต่อไป
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |