ซูเปอร์โพลเผยจุดต่างม็อบ 3 นิ้วในพม่ากับไทย แฉบางคนร่วมมือต่างชาติหนุนม็อบก่อความรุนแรง


เพิ่มเพื่อน    



26 มี.ค.64 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง จุดต่างม็อบ 3 นิ้วในพม่า กับไทย กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,333 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22 – 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา

ที่น่าพิจารณาคือ ความเห็นของประชาชนต่อจุดต่างม็อบ 3 นิ้วในพม่า กับ ไทย พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.7 ระบุ ในพม่า ความรุนแรงและการสูญเสียชีวิตของประชาชนมาจากเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ในประเทศไทย ม็อบ 3 นิ้วเป็นผู้เริ่มทำผิดกฎหมาย ใช้ความรุนแรง ระเบิดปิงปอง ระเบิดเพลิง เผาทรัพย์สินจากเงินภาษีของประชาชนและใช้ความรุนแรง ทำร้ายสถาบันหลักของชาติและทำลายจิตใจของผู้อื่นผู้ศรัทธาจงรักภักดี ในขณะที่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.6 ระบุ ม็อบ 3 นิ้วในพม่าได้แก่ เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ แตกต่างจาก ม็อบ 3 นิ้วในไทย นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.4 ระบุ ในพม่า นักการเมือง เรียกร้องให้ปล่อยตัว นางอองซาน ซูจี อดีตผู้นำประชาธิปไตย แต่ในประเทศไทย นักการเมืองบางพรรค บางคน นักวิชาการบางคน และม็อบ เรียกร้องให้ปล่อยคนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง คุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ทำลายทรัพย์สินเงินภาษีประชาชน

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.3 ระบุ ในประเทศไทย คนไทยมีเสรีภาพใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข ขออย่าทำผิดกฎหมาย มีความเสมอภาคมากกว่าหลายประเทศและภราดรภาพไปไหนมาไหนเป็นคนแปลกหน้าก็เรียกพี่เรียกน้อง ลุงป้าน้าอา ปู่ย่าตายายกัน ไม่แบ่งแยกเชื้อชาติ ไม่เหยียดสีผิว ดีกว่าหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 95.8 ระบุ ในพม่า รัฐบาลพม่าวันนี้มาจากรัฐประหารโดยทหาร แต่ในประเทศไทย รัฐบาลไทยวันนี้มาจากประชาชนผ่านการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 มีความเห็นว่า ถ้าตำรวจไม่จัดการเด็ดขาดกับม็อบ ม็อบจะทำตัวเหนือกฎหมาย ใช้ระเบิด ไม่ใช้สันติวิธี ม็อบคุกคามผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น เผาทำลายทรัพย์สินส่วนรวมเงินภาษีของประชาชน ทำบ้านเมืองวุ่นวาย ซ้ำเติมวิกฤตทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชนมากขึ้นไปอีก แนะให้ชุมนุมในที่ที่สงบไม่กระทบการเดินทางผู้อื่นของผู้เห็นต่าง ในขณะที่ ร้อยละ 15.4 มีความเห็นว่า ตำรวจไม่ควรจัดการม็อบด้วยความรุนแรง เพราะจะทำให้เกิดความรุนแรงบานปลายเข้าทางขบวนการปลุกปั่นให้คนไทยในชาติแตกแยก เข้าทางพวกต้องการโหมไฟทำลายล้างประเทศชาติบ้านเมือง และคนในม็อบบางคนถูกยั่วยุเข้าร่วมม็อบด้วยความรู้ไม่เท่าทัน

ที่น่าเป็นห่วง คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.5 มีความเห็นว่า คนหนุนม็อบคือ คนเสียผลประโยชน์ เสียอำนาจ ต้องการให้บ้านเมืองวุ่นวายเพื่อตนเองได้ประโยชน์ หากินกับความวุ่นวายของบ้านเมือง มีบางส่วนหนุนด้วยความไม่รู้และถูกปลุกปั่นมาจากโลกโซเชียล ในขณะที่ร้อยละ 16.5 มีความเห็นว่า คนหนุนม็อบไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย มาม็อบเพราะต้องการแสดงออก มีความต้องการที่แตกต่างกันไป

ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 99.1 ระบุ ชาวต่างชาติ องค์กรต่างชาติ เอื้อประโยชน์ให้แกนนำและญาติพี่น้องของแกนนำม็อบไทย ต้องการจะเข้ามาแทรกแซงจัดระเบียบประเทศไทย จะกอบโกยผลประโยชน์ชาติไทย หลังการสูญเสียและคนไทยอ่อนแอไร้อำนาจต่อรองเพราะคนไทยแตกแยกกัน เหมือนที่พวกเขาทำในหลายประเทศทั่วโลกมาแล้ว ในขณะที่ เพียงร้อยละ 0.9 เท่านั้นที่ คิดว่า ไม่มีชาวต่างชาติจะเข้ามากอบโกยอะไร

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นชัดเจนว่าคนไทยส่วนใหญ่แยกแยะออกเห็นความแตกต่างระหว่างม็อบ 3 นิ้วในพม่า กับ ม็อบ 3 นิ้วในไทย ดังนั้นข้อมูลผลสำรวจเป็นตัวยืนยันส่งสัญญาณไปยังขบวนการของชาวต่างชาติองค์กรต่างชาติที่มาหากินผลประโยชน์ในประเทศไทยระดมทุนต่าง ๆ ในประเทศไทย พวกต่างชาติเหล่านี้กำลังทำตัวเสมือน “กินบนเรือน ขี้บนหลังคา” มาทำมาหากินในบ้านของเขาแล้วยังมาทำไม่ดีจะมาเผาบ้านของเขาอีก ดังนั้นคนไทยทุกคนจึงต้องรู้เท่าทัน และ รู้ รัก สามัคคี เพราะข้อมูลที่ค้นพบชี้ชัดมาตลอดว่า กระแสต่าง ๆ ถูกปั่นมาจากต่างประเทศโดยเฉพาะในโลกโซเชียลที่มีการปลุกระดมทำคนไทยแตกแยกกันจากต่างประเทศมีบางคนแอบแฝงว่าอยู่ต่างประเทศมาทำร้ายบ้านของตนเองก็มี

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวต่อว่า มีนักการเมืองบางพรรค และนักศึกษาบางคนใฝ่ฝันจะได้รับผลประโยชน์จากต่างชาติในรูปแบบต่าง ๆ จึงร่วมมือกับพวกเขาสนับสนุนม็อบใช้ความรุนแรง ทำลายบ้านของตนเอง เพื่อเปิดช่องให้พวกเขาเข้ามากอบโกยผลประโยชน์ชาติของประเทศไป ที่น่ากลัวคือ เยาวชนคนรุ่นใหม่จำนวนหนึ่งไม่ใช่ส่วนใหญ่ของประเทศกำลังถูกสร้างทัศนคติที่เป็นพิษต่อประเทศของตนเอง ถูก บอท (Bot) เอไอ (AI) และคนในขบวนการส่งข้อมูลไปยังมือถือของเด็กและเยาวชนสร้างทัศนคติและพฤติกรรมทำลายชาติ ทำคนในชาติแตกแยกโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น เสนอแนะให้ใช้ยุทธศาสตร์ “ชาติสร้างเยาวชน” เอาทุกคนมาเป็นพวกปกป้องผลประโยชน์ชาติ รักษาสถาบันหลักของชาติด้วยความกตัญญูรู้คุณแผ่นดิน

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"