26 มี.ค.64 - รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ว่า สถานการณ์ทั่วโลก 26 มีนาคม 2564...กำลังจะทะลุ 126 ล้านเช้านี้
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 694,156 คน รวมแล้วตอนนี้ 125,992,962 คน ตายเพิ่มอีก 10,876 คน ยอดตายรวม 2,765,314 คน
อเมริกา เมื่อวานติดเชิ้อเพิ่ม 62,365 คน รวม 30,758,692 คน ตายเพิ่มอีก 1,236 คน ยอดตายรวม 559,353 คน
บราซิล ติดเพิ่ม 100,736 คน รวม 12,320,169 คน วันเดียวตายเพิ่มสูงถึง 2,787 คน มากที่สุดในโลก ขณะนี้ยอดเสียชีวิตรวม 303,462 คน
อินเดีย ติดเพิ่ม 59,069 คน รวม 11,846,082 คน อัตราการติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
รัสเซีย ติดเพิ่ม 9,221 คน รวม 4,492,692 คน
ฝรั่งเศส รายงานเพิ่ม 111,014 คน (คาดว่าทบจากวันก่อนที่ไม่มีรายงาน) ยอดรวม 4,424,087 คน
อันดับ 6-10 เป็น สหราชอาณาจักร อิตาลี สเปน ตุรกี และเยอรมัน ส่วนใหญ่ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่นต่อวัน
แถบอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย อย่างโคลอมเบีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ ยูเครน แคนาดา รวมถึงบังคลาเทศ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพันถึงหลักหมื่น
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่หลักร้อยถึงพันกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งนอร์เวย์ สวีเดน และฟินแลนด์ สถานการณ์ระบาดดูแนวโน้มรุนแรงขึ้น
ในขณะที่แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักพัน
เกาหลีใต้ ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน เมียนมาร์ สิงคโปร์ ไทย ออสเตรเลีย และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง เวียดนาม และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
ล่าสุดระบบสาธารณสุขของประเทศปาปัวนิวกินีกำลังจะรับไม่ไหว เพราะอัตราการติดเชื้อสูงสูงสุดต่อวันสูงขึ้นกว่าเดิมมากถึง 7 เท่า
กลุ่มประเทศยุโรปกำลังเผชิญการระบาดซ้ำอย่างหนักหน่วง เฉกเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกแทบทุกทวีป ทั้งนี้มาจากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่เร็วกว่าเดิม การคลายมาตรการป้องกันตัวทั้งของรัฐและของประชาชน รวมถึงวัคซีนที่ยังมีปัญหาทั้งในเรื่องชนิดที่ใช้ และการฉีดที่ยังไม่ครอบคลุม
ในยุคการระบาดรุนแรงเช่นนี้ ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการใช้ความรู้ที่ถูกต้องมาใช้เป็นนโยบายและมาตรการในการต่อสู้กับโรคนั้นสำคัญอย่างยิ่ง
บางประเทศใช้ความเชื่อ มิใช่ความรู้ ก็ระบาดกันเละเทะ
บางประเทศใช้วิถีการเมือง เก่งโฆษณาประชาสัมพันธ์ โอ้อวดหวังคะแนนเสียง เลือกบอกเฉพาะส่วนที่จะได้หน้า แต่ปกปิดส่วนที่เสียเอาไว้ การระบาดก็เละเทะเช่นกัน
วัคซีนที่แต่ละประเทศนำมาใช้นั้น วิธีที่ประชาชนจะตรวจสอบคุณภาพได้คือ การดูข้อมูลวิชาการแพทย์ที่แท้จริง ดูในรายละเอียดว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง มีปัญหาด้านความปลอดภัยไหมมากน้อยเพียงใด มีงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อย่างชัดเจนไหมเพราะนั่นหมายถึงการผ่านกระบวนการกลั่นกรองวิชาการจากระดับนานาชาติ มิใช่ผ่านแค่ความเห็นของคนใดคนหนึ่งหรือก๊กใดก๊กหนึ่ง และหมั่นติดตามความก้าวหน้าขององค์ความรู้จากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยตรวจสอบระหว่างแหล่งข้อมูลต่างๆ ด้วย
สรรพคุณวัคซีนที่ดีคือ ป้องกันการติดเชื้อได้ ป้องกันเจ็บป่วยได้ ลดความรุนแรงหรือการเสียชีวิตได้ สู้กับสายพันธุ์ต่างๆ ที่กลายพันธุ์ได้ และมีสถิติรายงานเรื่องความปลอดภัยที่ชัดเจนตรวจสอบได้
อย่าหลงเชื่อแต่เพียงคำโฆษณา สัญญาว่าจะมี บอกว่าจะเปิดโอกาส แต่เราทุกคนต้องรู้ว่า ในความเป็นจริงของทุกประเทศนั้น วัคซีนโรคโควิด-19 เป็นวัคซีนที่อนุญาตให้ใช้กรณีฉุกเฉิน ซึ่งกระบวนการหลักต้องเป็นกลไกรัฐของแต่ละประเทศที่จะต้องเร่งจัดหาจัดซื้อนำเข้ามา โดยภาคส่วนอื่นไม่สามารถทำได้เอง ดังนั้นต่อให้วัคซีนใดๆ จะขึ้นทะเบียนได้ แต่จะต้องติดขัดกฎระเบียบอื่นๆ เช่น ความรับผิดชอบต่อกรณีเกิดอาการแพ้หรือผลไม่พึงประสงค์ รวมถึงกระบวนการทำสัญญาซื้อขายแต่ละขั้น
ดังนั้น ตัววัดที่เป็นรูปธรรมคือ การได้มาซึ่งวัคซีนหลากหลายชนิด ที่มีสรรพคุณสูง มาอยู่ในมือประชาชนในประเทศได้จริง
หากมีแต่ทะเบียน แต่ตัววัคซีนเหล่านั้นยังไม่มี นั่นก็เหมือนภาพลวงตากลางทะเลทราย
นี่คือสัจธรรมที่วัดสมรรถนะ ความจริงใจ ความโปร่งใส และความมุ่งมั่นของกลไกปกป้องสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของประชาชนทุกประเทศทั่วโลกครับ
สำหรับไทยเรานั้น คงต้องเอาใจช่วยให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีสรรพคุณที่ดีได้อย่างถ้วนทั่วโดยเร็ว
สถานการณ์ระบาดของเรายังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ขอให้ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด
ด้วยรักและปรารถนาดีเสมอ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |