โค้งสุดท้ายเทศบาลเดือด! ล้อมรถข่มขู่กกต.นราธิวาส


เพิ่มเพื่อน    

  โค้งสุดท้ายเลือกตั้งเทศบาลเดือด! กกต.ลงตรวจป้ายหาเสียงที่ อ.ตากใบ โดนทีมงานผู้สมัครนายกเทศมนตรีกรูเข้าล้อมรถ ขู่ลั่น "มึงรู้จักกูไหม กูเพิ่งออกจากคุกมา มึงเจ็บตัวแน่"   ด้านทีมผู้สมัครหมายเลข 3 ขึ้นโรงพักแจ้งดำเนินคดีข่มขู่คุกคาม ขณะที่ กกต.เปิดศูนย์รับศึกเลือกตั้ง วอน ปชช.ส่งเบาะแสหากพบเห็นสิ่งผิดปกติ ทุจริต ตำรวจสั่งคุมเข้มหลังพบหลายพื้นที่แข่งขันดุ

    โค้งสุดท้ายการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม 2564 นี้ บรรยากาศหาเสียงเลือกตั้งเริ่มดุเดือดขึ้น โดยเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 25 มี.ค. ชุดสืบสวนสอบสวนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ลงพื้นที่ตรวจสอบป้ายหาเสียงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส หลังพบว่ามีป้ายหาเสียงของผู้สมัครนายกเทศมนตรี หมายเลข 1 นายซันตารา นูซันตารา เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด ซึ่งตามประกาศ กกต.นั้น ป้ายหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองตากใบต้องติดตั้งไม่เกิน 75 แผ่น
     โดยในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ กกต.ลงพื้นที่ตรวจสอบป้ายหาเสียงเลือกตั้งที่บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอตากใบนั้น ทีมงานของผู้สมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองตากใบรายหนึ่งได้ขับรถกระบะสีแดง กระจกดำ ติดตามรถของเจ้าหน้าที่ กกต. และได้ลงจากรถคันกล่าวจำนวน 5-6 คน วิ่งกรูเข้ามาลักษณะล้อมรถของ กกต. โดยมีชายคนหนึ่งพูดเสียงดังลักษณะไม่พอใจใส่ทีมบริหารของผู้สมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรี หมายเลข 3 ซึ่งนั่งอยู่ในรถของ กกต.ด้วย และพูดข่มขู่ว่า “มึงรู้จักกูไหม กูเพิ่งออกจากคุกมา มึงเจ็บตัวแน่” พร้อมทั้งได้เปิดประตูรถจะเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วย แต่พรรคพวกได้ห้ามปรามไว้
    ซึ่งในขณะเกิดเหตุนั้นมีทีมบริหารทั้งผู้สมัครเลือกตั้งรองนายกเทศมนตรีและเลขานุการนายกเทศมนตรี หมายเลข 1 ร่วมอยู่ด้วย และคอยห้ามปราบทีมงานไม่ให้ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย และระวังการทำผิดกฎหมาย
    จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.นราธิวาสจะเคลื่อนรถออกไป มีรถกระบะสีแดงกระจกมืดจอดขวางบนถนนหน้าที่ว่าการอำเภอตากใบ และมีคนลงจากรถมาเรียกเจ้าหน้าที่ กกต.ไปคุย โดยนายอารี เจ้าหน้าที่สืบสวน กกต.นราธิวาส ลงไปเจรจาและพยายามพูดให้ใจเย็น ขอให้อย่าขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ อย่าทำอะไรที่ไม่เหมาะสม เพราะตนอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่และใช้รถราชการ จึงทำให้กลุ่มคนดังกล่าวขึ้นรถถอยกลับไป โดยไม่มีเหตุใดๆ เกิดขึ้นนอกจากการปะทะคารม
     ทั้งนี้ การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองตากใบจะมีขึ้นในวันที่ 28 มี.ค.นี้ โดยมีผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองตากใบจำนวน 3 ทีม คือ หมายเลข 1 นายซันตารา นูซันตารา (อดีตนายกเทศมนตรี), หมายเลข 2 นายนิริดวาล สาแม (นักธุรกิจ) และหมายเลข 3 นายคอยรูซามัน มะ (อดีตผู้ลงสมัครนายก อบจ.นราธิวาส)
      ต่อมาผู้สมัครหมายเลข 3 นายคอยรูซามัน มะ และทีมผู้สมัครสมาชิกเทศบาลเมืองตากใบ ได้เดินทางไปยัง สภ.ตากใบ และได้แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มที่ใช้พฤติกรรมล้อมรถ และกลุ่มตนอยู่ในรถขณะโดนล้อม ตาม 392 และ 393 ซึ่งเจ้าหน้าที่บันทึกปากคำและบันทึกแจ้งความไว้ที่ สภ.อ.ตากใบแล้ว
    ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เปิดศูนย์ประสานงานสืบสวนและไต่สวนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เพื่อใช้ในการติดตามสถานการณ์และป้องปรามการทุจริตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี รวมทั้งส่งเสริมให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีส่วนร่วมในการรายงานสถานการณ์ เมื่อพบเห็นการทุจริตหรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสและรายงานสถานการณ์ได้ ทั้งข้อความภาพ เสียง หรือวิดีโอ ผ่านทางแอปพลิเคชันตาสับปะรด และแจ้งเหตุได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0-2141- 8860, 0-2141-8579 และ 0-2141-8858 โทรสาร 0-2143-8522
    ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 28 มี.ค.2564 เวลา 08.30-16.30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ กกต.จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนที่พบเห็นการทุจริตหรือการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งร่วมแจ้งเบาะแสการทุจริตเลือกตั้ง เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุจริต โปร่งใส และเที่ยงธรรม
     พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานการประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล เพื่อเตรียมความพร้อมในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี โดยจัดให้มีการเฝ้าระวังด้านการข่าวและการสืบสวนสอบสวนกลุ่มที่ไม่ประสงค์ดีอาจมาก่อเหตุสร้างสถานการณ์ และดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งระหว่างผู้สมัคร เกิดเหตุประทุษร้ายต่อร่างกายหรือการตัดคู่แข่งทางการเมือง จัดชุดป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้ง สอดส่องไม่ให้มีการกระทำความผิดในช่วงโค้งสุดท้าย
     นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวหลังเข้ายื่นหนังสือต่อ กกต.เพื่อให้วินิจฉัยกรณีอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) สามารถสมัครรับเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นได้หรือไม่ ว่า อสม.หลายคนได้เข้ามาสมัครสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่กำลังจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขจะได้รับค่าตอบแทนเดือนละ 1,000 บาท และได้รับสิทธิพิเศษอีกมากมาย รวมทั้งสิทธิในการเสนอเพื่อรับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ด้วย ไม่ต่างอะไรกับข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ แต่ใน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 ได้กำหนดว่า ข้าราชการ พนักงานของรัฐ จะมาสมัครเป็นสมาชิกหรือผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นไม่ได้ แต่ที่ปรากฏทั่วประเทศตอนนี้คือ อสม.ไปสมัครเป็นสมาชิกและผู้บริหารท้องถิ่นกันเยอะ ซึ่งก็จะเกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบกันระหว่างผู้สมัครทั่วไปที่ไม่ได้เป็น อสม.
    นอกจากนี้ ยังขอให้ กกต.ตรวจสอบกรณีผู้สมัครนายกเทศมนตรีนำรูปของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครมาขึ้นคู่กับป้ายหาเสียงของตน ว่าเข้าข่ายผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65(1) (5) หรือไม่ โดยพบกรณีดังกล่าวในพื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์
    นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริง พรรคก้าวไกลยังไม่ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และนายพิธายังคงขับเคลื่อนในการเมืองระดับชาติอยู่ ในสนาม กทม.ได้ตัวบุคคลแล้ว แต่ยังไม่ถึงช่วงเวลาแคมเปญเปิดตัวช่วงนี้ จะยังให้ความสำคัญในส่วนของสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ที่เปิดรับสมัครจากทุกส่วน และใกล้ครบ 50 คนแล้ว เพียงแต่มีคนเข้าคนออก เนื่องจากมีพรรคเล็กๆ ที่เปิดใหม่และพร้อมจะผู้สมัคร ส.ก.เช่นกัน จึงมีการดึงตัวกัน ซึ่งเราต้องการจะเปิดตัว ส.ก.ให้ครบ 50 เขตก่อน หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.
    “ผู้ว่าฯ กทม.เป็นคนจากภายนอก อาจจะไม่ใช่คนดัง มีชื่อเสียง  แต่เชื่อว่าเราสู้แคนดิเดตผู้สมัครที่เป็นวิศวกรและอดีตนายตำรวจใหญ่ได้แน่นอน เพราะคนที่จะลงในนามพรรคก้าวไกล เป็นบุคคลที่มีครบทุกมิติในการบริหาร และมีทีมรองผู้ว่าฯ กทม.ที่พร้อมเปิดตัวพร้อมกัน เป็นทั้งวิศวกรและผู้บริหารครบทุกมิติ ตามสโลแกน ใหม่ ชัด โดน คือเป็นคนใหม่ ชัดเจนทางอุดมการณ์ทางการเมือง และโดนใจประชาชนชาวกรุงเทพฯ แน่นอน” นายณัฐชากล่าว.
   


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"