แกนนำสามนิ้วแค่ "เบี้ย"


เพิ่มเพื่อน    

          ไม่ใช่บูลลี่นะ.....

                การชุมนุมของม็อบสามนิ้ว น่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการชุมนุมในประเทศไทย ที่แกนนำม็อบไม่รู้สถานะของตัวเอง

                ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนกันแน่ 

                สามนิ้วประกาศชัยชนะมาครั้งแล้วครั้งเล่า

                แต่ล้วนเป็นชัยชนะเทียม เพื่อปลอบใจกันเองหลังแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมันทั้งสิ้น 

                ชัยชนะที่มักพูดถึงบ่อยที่สุดคือ อ้างว่า ไม่มียุคไหนที่สามารถพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ได้มากเท่ายุคนี้อีกแล้ว

                จริงครับสามนิ้วโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์มากที่สุดเป็นประวัติการณ์

                หากเปรียบเทียบกับการให้ร้ายสถาบันในยุคที่บ้านเมืองมีภัยคุกคามจากคอมมิวนิสต์ กับยุคสามนิ้วแล้ว

                อดีตเทียบกับปัจจุบันไม่ได้เลย

                ก็มาจากหลายสาเหตุครับ

                แต่หลักๆ เลยคือ ยุคสื่อสารออนไลน์ ใครๆ ก็เข้าถึงข้อมูลได้แค่เอานิ้วไถโทรศัพท์

                ยิ่งข้อมูลเท็จก็ยิ่งอยากเสพ

                แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือ เครือข่ายคอมมิวนิสต์ในอดีต ซึ่งปัจจุบันอยู่ในแวดวงวิชาการ นักการเมือง รวมทั้งสื่อ กลุ่มนี้อยู่เบื้องหลัง คอยสนับสนุนม็อบสามนิ้วในหลายบทบาท

                มันเหมือนแผนเปลี่ยนแปลงการปกครองต่อเนื่อง หลังถูกสลายด้วยนโยบาย ๒๖/๒๓  ในช่วงรัฐบาลป๋าเปรม

                เมื่อม็อบยุคนี้เป็นม็อบที่โจมตีสถาบันมากที่สุด                                                  

                ก็เท่ากับมีการทำผิดกฎหมายมากที่สุด

                มันก็เป็นไปตามสัดส่วน

                ทำผิดกฎหมายมาก ก็ต้องมีคนเข้าคุกมาก

                ฉะนั้น ณ วินาทีนี้ไม่ต้องถามแล้วว่าม็อบสามนิ้ว และนักการเมือง นักวิชาการที่สนับสนุนอยู่เบื้องหลังนั้นมีเป้าหมายอะไร

                ชัดเจนคือเปลี่ยนแปลงการปกครอง ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์

                เมื่อยิ่งชัด คนอยากเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งคลั่ง

                คนที่ยังก้ำกึ่งเลือกที่จะถอย

                นั่นเป็นเหตุว่าทำไม ม็อบสามนิ้วถึงสาละวันเตี้ยลงไปเรื่อยๆ

                ไม่ได้คิดเองเออเองครับ

                สามนิ้วก็รู้ดีว่านับวันแฟนคลับยิ่งถอยห่าง

                เฟซบุ๊ก Panusaya Sithijirawattanakul ของ รุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล โพสต์ข้อความข้ามกำแพงเรือนจำ รำพึงรำพันถึงชาวสามนิ้วที่หายไป

            .....รุ้งรู้ว่าตั้งแต่ที่รุ้งเข้ามาเรือนจำ คนออกมาชุมนุมไม่มากเหมือนปีที่แล้ว อยากบอกทุกคนว่า ทุกคนมีเหตุผลของตัวเองที่จะออกมาหรือไม่ ไม่ว่าจะด้วยอุดมการณ์ ออกมาเพราะชื่นชมแกนนำ หรือเห็นด้วยกับข้อเรียกร้องของการเคลื่อนไหว

            สถานการณ์ตอนนี้ไม่ดีเลย มีคนต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำทีละคนๆ พรุ่งนี้ก็อาจจะมีเพื่อนของเราเข้ามาเรือนจำอีก ถ้าพวกเขาไม่ได้รับการประกันตัว

            ถ้าทุกคนไม่ออกมา ไม่ว่าด้วยความกลัว ความใจเย็น วันต่อไปก็อาจจะเป็นคนใกล้ตัวคุณที่จะต้องเข้าเรือนจำ

            อย่าให้ความกลัวหยุดการเคลื่อนไหว ทำให้คุณลังเลในการออกมาชุมนุมกับเพื่อนๆ ของเรา

            กระบวนประชาธิปไตยต้องไปต่อ และต้องไปต่อเรื่อยๆ แม้จะมีคนหายไประหว่างทาง

            แต่ถ้าคุณมีใจคิดถึงพวกเรา อยากให้พวกเราได้ออกไป และไม่ต้องการให้ใครเข้ามาในนี้อีก วันนี้ทุกคนต้องออกไปชุมนุมกับเพื่อนๆ มีเพื่อนชวนเพื่อน ชวนพ่อ แม่ ชวนครอบครัว จับมือร่วมกับเพื่อนเรา ให้เขาได้รู้ว่าถึงคุณจะจับอีกกี่คนก็หยุดเจตจำนงของประชาชนไม่ได้

            รุ้ง ปนัสยา (โพสต์โดยพี่สาวน้องรุ้ง)..........

                ก็น่าเห็นใจครับ เพราะวินาทีนี้ โพสต์ของรุ้ง ไม่แน่ใจว่าวัตถุประสงค์แรกเพื่อให้ตัวเองพ้นคุก หรือเพื่อสิทธิ เสรีภาพ ประชาธิปไตย กันแน่

                เพราะดูจากอารมณ์ที่ซ่อนอยู่ในตัวหนังสือ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว ไม่รู้จะได้ออกจากเรือนจำเมื่อไหร่

                แต่ทั้งหมดทั้งมวลโพสต์นี้ผลร้ายจะย้อนกลับไปหา "รุ้ง" เอง 

                เพราะ "รุ้ง" ทำผิดเงื่อนไขประกันตัวทั้งที่ตัวเองยังอยู่ในเรือนจำ

                มันก็ชัดเจนนะครับ "รุ้ง" กำลังปลุกระดมให้มีการชุมนุม

                สิ่งที่ "รุ้ง" อ้างถึง ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ หรือเจตจำนง ล้วนคือสิ่งที่แกนนำสามนิ้วทำมาโดยตลอด และเป็นเหตุให้ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ

                ละเมิด ม.๑๑๒

            การชักชวนให้เพื่อนชวนพ่อแม่ ครอบครัวมาชุมนุม ประเด็นหลักก็หนีไม่พ้นโจมตีสถาบัน ไล่รัฐบาลเป็นเรื่องรอง

                ก็เป็นไปตามที่ชาวสามนิ้วภาคภูมิใจ คือเป็นยุคที่สามารถพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ 

            ฉะนั้นการขอประกันตัว ไม่ว่าอีกกี่ครั้ง ก็ยังเข้าอีหรอบเดิม ไม่ได้ประกันตัว เพราะ "รุ้ง" ไม่ได้แสดงให้เห็นเลยว่าหากได้ประกันตัวแล้ว "รุ้ง" จะไม่กลับไปทำผิดซ้ำ

                ในแง่กฎหมาย นักวิชาการ นักการเมือง ที่อยู่เบื้องหลังชาวสามนิ้วต่างรู้ดี หากยังให้แกนนำสามนิ้วส่งสารจากเรือนจำในลักษณะนี้ต่อไปเรื่อยๆ

                โอกาสได้ประกันตัวแทบไม่มี

                แต่ไม่มีการบอกกล่าวให้งดเว้น

                นั่นหมายความว่าผู้บงการวางหมากเอาไว้หมดแล้ว 

                หลอกเด็กไปติดคุกไม่พอ

                ยังเหี้ยมเกรียม ใช้เหยื่อเหล่านี้สร้างสถานการณ์จากในคุก

                การพูดเรื่องตายในคุกจึงต้องระวังให้มาก

                เพราะหากมีใครตายขึ้นมาสักคน จะเป็นหัวเชื้อปลุกการชุมนุมได้เป็นอย่างดี

                สังเกตง่ายๆ นะครับ การสื่อสารออกมาจากเรือนจำนั้น ไม่ได้สะเปะสะปะ ต่างคนต่างทำ แต่ทำกันเป็นระบบพอควร

                ที่สำคัญพวกที่อยู่ข้างในทำอะไรไม่ได้ นอกจากเขียนข้อความมัดคอตัวเองไปวันๆ เพราะประสานงานกับใครเขาไม่ได้ ทุกอย่างต้องผ่านทนายความ

                คนอยู่ข้างนอกต่างหากเป็นคนจัดคิว

                จดหมาย "อานนท์" ออกมา 

                "เพนกวิน" ตาม

                พอ ๒ คนแรกลง ก็ถึงคิว "รุ้ง"

                จบ "รุ้ง" "โตโต้" ก็มา

                ต่อด้วย "ไมค์ ระยอง"

                จนครบลูป แล้ววนใหม่         

                อีกไม่กี่วันถึงคิว "แอมมี่" โพสต์

                ฉะนั้น หากชาวสามนิ้วจะตามหาว่าใครอํามหิต ลองละสายตาไปจากรัฐบาลบ้าง

                ลองมองดูที่คนใกล้ๆ ตัว 

                อาจได้เจอไอ้โม่งซึ่งไม่ต้องการให้แกนนำสามนิ้วออกจากคุก

                การชุมนุมวันที่ ๒๔ มีนาคม โหรงเหรง แสดงให้เห็นแล้วว่าต้องปรับแผน

                และแผนนับจากนี้ ไม่เหมือนเก่า

                จะเป็นการสร้างสถานการณ์จากในคุกแทน.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"