ประเทศไทยกำลังปลดล็อกก้าวสู่โลกดิจิทัล ดังนั้นธุรกิจประกันและการเงินจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ ตอบสนองความต้องการที่มากขึ้น ภาคธุรกิจจำเป็นต้องสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการผ่านดิจิทัลมากขึ้น ดังนั้น Thai Group หรือเครือไทย โฮลดิ้งส์ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจด้วย 6 กลยุทธ์ นำเสนอและพัฒนาระบบอีโคซิสเต็มได้อย่างครบรอบด้าน ทั้งบริการและผลิตภัณฑ์สู่แพลตฟอร์มดิจิทัล พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรรับโมเดลธุรกิจใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างสูงสุด ให้ผลลัพธ์ที่ออกมามีความสอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ มุ่งสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำธุรกิจการเงินในประเทศไทย และขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2568
นาย ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เครือไทย โฮลดิ้งส์ เปิดเผยว่า เครือไทย โฮลดิ้งส์ ดำเนินธุรกิจด้านประกันและการเงิน ประกอบด้วย อาคเนย์ประกันภัย อาคเนย์ประกันชีวิต อาคเนย์แคปปิตอล อาคเนย์มันนี่ และไทยประกันภัย ก็ได้รับผลกระทบและต้องปรับตัวสู่ยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบนิวนอร์มอล (New Normal) จึงต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่ม และพัฒนาผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าให้มากที่สุด ด้วย 6 กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ
ประกอบด้วย การมุ่งสร้างการเติบโตอย่างเข้มแข็ง ผ่านการปรับพอร์ตธุรกิจประกันชีวิต, สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ, สร้างประสบการณ์ที่ดีของพนักงานด้วยการพัฒนาทักษะและสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน, พัฒนาการใช้งานบิ๊กดาต้าเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค, สร้างกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยี และปรับโครงสร้างองค์กรรับโมเดลธุรกิจใหม่
นายฐากรกล่าวว่า เป้าหมายการขยายตลาดนั้น ในกลุ่มธุรกิจประกันภัยและประกันชีวิต จะมุ่งสร้างผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง เน้นการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ด้วยนวัตกรรมประกันภัยที่ทันสมัย ใช้ดิจิทัลและดาต้าขยายฐานลูกค้าใหม่ จากปัจจุบันที่มีลูกค้าอยู่ประมาณ 4 ล้านราย ตลอดจนสร้างการรับรู้ของแบรนด์อาคเนย์ประกันภัย อาคเนย์ประกันชีวิต ผ่าน Winning Product และการดูแลลูกค้าให้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไร้ความกังวลใจ
ขณะที่ ธุรกิจการเงินจะเน้นสร้างประสิทธิภาพ ลดต้นทุน สร้างกำไร พร้อมวางโครงสร้างพื้นฐานและหาพันธมิตรทางธุรกิจที่ดี โดยมั่นใจว่าจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของธุรกิจในภาพรวมให้ติดอันดับ 1 ใน 5 ของตลาด เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจการเงินในประเทศไทย และขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2568
“เป้าหมายของเรา Thai Group คือ การทำให้ทุกบริการด้านการเงินประกันเข้าไปอยู่ทุกๆ ที่ที่ลูกค้าอยู่ รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มคนมากขึ้น เป็นผู้สร้างนวัตกรรมและพัฒนาบริการด้านการเงินแบบครบวงจร สามารถเชื่อมโยงไปสู่ธุรกิจไฟแนนซ์ให้เป็นแพลตฟอร์มเดียวกัน” ฐากรกล่าว
ชูคอนเซ็ปต์ 'เสี่ยงน้อย จ่ายน้อย'
ด้านนายอัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบันอยู่ในภาวะการแข่งขันสูง โดยเฉพาะในด้านของราคา ดังนั้น TQM จึงออกมาเป็นยุทธศาสตร์ ‘สบายใจ 3F’ ได้แก่ Fair: เสี่ยงน้อย จ่ายน้อย และเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละกลุ่มลูกค้า Fulfill: เติมเต็มความสบายใจด้วยโปรดักต์ประกันที่มีความคุ้มครองครบตามความต้องการ Friend: ให้บริการด้วยใจเสมือนเพื่อนที่จะอยู่เคียงข้างไม่ทิ้งกัน
นางนภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า TQM ได้นำมาต่อยอดสู่กลยุทธ์การพัฒนาโปรดักต์ประกันภัย ทั้งนี้ ในแคมเปญแรก ‘แฟร์’ เกิดขึ้นด้วยความเข้าใจถึงสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเข้าใจคนใช้รถที่มีความต้องการที่แตกต่างกัน จึงได้สร้างสรรค์ประกันรถยนต์ออกมาตามกลุ่มลูกค้าด้วย 3 โปรดักต์ ได้แก่ ‘ประกันสำหรับรถสีขาว’ เพราะรถสีขาวมองเห็นชัดจึงมีความเสี่ยงน้อยในการเกิดอุบัติเหตุ TQM จึงให้ลูกค้าได้จ่ายถูกกว่าด้วยส่วนลดสูงสุดอีก 5%
‘ประกันรถต่างจังหวัด’ ขับในจังหวัดเส้นทางเดิมๆ มีความคุ้นชินจึงมีความเสี่ยงน้อยกว่ารถในกรุงเทพฯ TQM จึงให้รถทะเบียนต่างจังหวัดได้ทำประกันที่ถูกกว่าด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 3,000 บาท และ ‘ประกันรถขับน้อย’ ประกันที่ออกแบบมาเพื่อกลุ่มมีรถแต่ไม่ค่อยได้ใช้ ใช้รถโดยสารสาธารณะมากกว่า หรือมีรถหลายคัน TQM จึงออกแบบความคุ้มครองและราคาตามการใช้ ทั้งแบบตามระยะทางการใช้งาน และตามระยะเวลาการใช้งาน ผสานกับเทคโนโลยีที่จะเข้ามาช่วยในการช่วยติดตามการใช้งานและเตือนเมื่อใกล้หมด เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้ายิ่งขึ้น
ในแคมเปญ ‘แฟร์’ TQM ได้ผนึกกับพันธมิตรในการขับเคลื่อนให้โปรดักต์เข้าถึงลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยร่วมกับ MCOT เป็นสื่อกลางในการกระจายและสื่อสาร ‘ประกันรถต่างจังหวัด’ ไปยังลูกค้าต่างจังหวัด ประกอบกับ TQM มีทีมขายต่างจังหวัดอยู่ทั่วประเทศที่พร้อมรองรับและให้บริการลูกค้าได้เป็นอย่างดี และร่วมกับ AIS ใน ‘ประกันรถขับน้อย’ ในการนำเทคโนโลยี IOT เข้ามาช่วยจับวัดระยะทาง ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ทันสมัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ให้สามารถทำประกันชั้น 1 ได้แบบแฟร์ แฟร์
เมืองไทยประกันภัยกำไรพุ่งเกือบ 39%
นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมืองไทยประกันภัย หรือ MTI เปิดเผยว่า ผลการดำเนินปี 2563 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 14,725 ล้านบาท สูงขึ้นจากปี 2562 คิดเป็น 10.3% กำไรสุทธิ 590.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.8% เป็นผลมาจากกลยุทธ์การกำหนดสัดส่วนผลิตภัณฑ์ ระหว่างการประกันภัยรถยนต์และการประกันภัยทั่วไปอย่างเหมาะสม มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์ ทั้งภาคสมัครใจและภาคบังคับ ที่มีการเติบโตกว่า 13.8%
นอกจากนี้ มีงานประกันภัยสุขภาพที่ขยายตัวสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค รวมทั้งการประกันอัคคีภัยและประกันภัยทรัพย์สินที่ยังเติบโตได้ดีแม้สถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวย แต่บริษัทเน้นนโยบายการรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างดีที่สุด สิ่งสำคัญที่สุดที่บริษัทมีการเติบโตในสภาวะเช่นนี้ได้นั้น เกิดจากการบริหารจัดการที่ดี สามารถเตรียมความพร้อมรับมือในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี รวมไปถึงการบริหารจัดการด้านประกันภัยต่อ และที่ขาดไม่ได้คือ การปรับตัวอย่างรวดเร็วและความร่วมมือของพนักงานเมืองไทยประกันภัยทุกคน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |