มะกันปลุก ‘จตุภาคี’ Quad เพื่อสกัดจีนทุกมิติ


เพิ่มเพื่อน    

       ผู้นำ Quad หรือ "จตุภาคี" ประชุมสุดยอดออนไลน์กันครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

            เป็นการส่งสัญญาณสำคัญหลายประเด็นที่มีผลกระทบต่อไทยอย่างแน่นอน

            เพราะผู้เข้าร่วมประชุมคือ

            ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน

            นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โยชิฮิเดะ สุกะ

            นายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี

            นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย สกอตต์ มอร์ริสัน

            ถือเป็นการประชุมสุดยอดครั้งแรกตั้งแต่กลุ่มนี้ตั้งขึ้นมาเมื่อปี 2007 มีชื่อเต็มว่า Quadrilateral Security Dialogue  อันหมายถึงการปรึกษาหารือกันด้านความมั่นคงของ 4 ประเทศนี้ที่มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงในเอเชีย

            สหรัฐฯ ริเริ่มกลไกนี้ก็เพื่อต้องการจะสกัดอิทธิพลของจีน โดยเห็นว่าอินเดียกับญี่ปุ่นมีปัญหากับจีนในหลายๆ มิติ

            ส่วนออสเตรเลียก็เป็นพันธมิตรเก่าแก่ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ถึงกับถูกมองว่าเป็น "ฐานส่วนหน้า" ของสหรัฐฯ ในย่านนี้ด้วยซ้ำ

            การประชุมสุดยอดของ 4 ผู้นำวางวาระไว้หลายหัวข้อ เช่น โควิด-19 และวัคซีน รวมถึงเศรษฐกิจหลังโควิด

            แต่เป้าหมายที่ชัดเจนก็คือการต้านอิทธิพลของจีน

            เช่นพูดถึงเรื่องทะเลจีนใต้และ "เสรีภาพแห่งการเดินเรือ" ของทะเลหลวง

            มีการพูดถึงการซ้อมรบของ 4 ประเทศในน่านน้ำแถวนี้

            ที่น่าสนใจไม่น้อยกว่าเรื่องความมั่นคงและแสนยานุภาพทางทหารคือ "การทูตวัคซีน" หรือ Vaccine diplomacy

            จีนกับอินเดียเป็นคู่รักคู่แค้นกันมายาวนาน

            จีนกับอินเดียวันนี้แข่งกันใช้การทูตวัคซีนเพื่อชนะใจเพื่อนบ้าน

            จีนผลิตวัคซีนโควิดของตัวเองหลายยี่ห้อ และส่งไปให้มิตรประเทศหลายแห่ง (รวมถึงเสนอให้นักกีฬาที่จะเข้าแข่ง  Tokyo Olympics)

            ขณะเดียวกันอินเดียก็ผลิตวัคซีนโควิดเหมือนกัน

            ยิ่งไปกว่านั้นอินเดียยังสร้างความฮือฮาดวยการผลิต  "วัคซีน 100 รูปี" (50 บาท) ออกมาได้แล้ว อีกทั้ง AstraZeneca ก็ให้อินเดียช่วยผลิตวัคซีนของตนเช่นกัน

            การประชุมสุดยอด Quad ครั้งนี้จึงมีการพูดถึงการให้ญี่ปุ่นอำนวยความสะดวกด้วยระบบตู้เย็นเพื่อการผลิตวัคซีนจากอินเดีย

            ให้สหรัฐฯ และออสเตรเลียสนับสนุนด้านการเงิน

            โดยมีฐานการผลิตอยู่ที่อินเดียเพราะ 60% ของวัคซีนทั่วโลกมีฐานผลิตอยู่ที่อินเดีย

            ขยายผลออกไปให้อินเดียกลายเป็นประเทศที่ผลิตวัคซีนต่อต้านโควิดใหญ่ที่สุดของโลก

            และให้อินเดียกระจายวัคซีนตัวนี้ไปยังพื้นที่เป้าหมาย  เช่น เอเชียใต้ ประเทศกำลังพัฒนา และประเทศในมหาสมุทรอินเดีย

            นั่นก็หมายถึงเมียนมาด้วย

            ต้องไม่ลืมว่าอินเดียมีความสนิทสนมกับกองทัพเมียนมาอีกด้วย

            ดร.ปิติ ศรีแสงนาม เท้าความว่าบังกลาเทศซื้อเรือดำน้ำจากจีนและก็มีท่าเรือของจีน (ส่วนหนึ่งของ One Belt One  Road)

            รัฐบาลเมียนมายุคอองซาน ซูจีก็ญาติดีกับจีนไม่น้อย เพราะโครงการ One Belt One Road เช่นกัน

            แต่สำหรับอินเดียแล้ว มหาสมุทรอินเดียคือสนามหลังบ้าน

            ถ้าจีนมีเรือดำน้ำอยู่ในบังกลาเทศ

            ที่น่าสนใจคือ จีนไม่ได้ขายเฉพาะตัวเรือดำน้ำ แต่ขายแผนที่มหาสมุทรด้วย

            "เวลาส่งมอบเรือดำน้ำเสร็จ เหมือนที่ไทยกำลังจะได้เรือดำน้ำจากจีน กองทัพจีนก็จะมาช่วยกองทัพไทยในการสำรวจพื้นที่ใต้ทะเลของประเทศไทย เพื่อดูว่าตรงไหนมีโขดหิน ตรงไหนตื้นลึกเพียงใด..."

            จีนกำลังจะได้แผนที่ใต้ทะเลของบังกลาเทศ

            จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อินเดียเอาเรือดำน้ำเก่ามาปรับปรุงและส่งให้เมียนมาเป็นของขวัญ

            นอกจากนี้เมียนมาก็จะซื้อเรือดำน้ำจากรัสเซียด้วย

            ดร.ปิติเชื่อว่าเราจะได้เห็น "แรงปะทะ" ในทะเลแถบนี้อย่างชัดเจน

            หากดูยุทธศาสตร์ความมั่นคงของอเมริกาที่ออกมาในปี  2017 ซึ่งแม้จะเป็นช่วงของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ก็ยังส่งผลถึงโจ  ไบเดน

            ยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ เรื่องนี้มี 4 ข้อหลักๆ และ 3 ใน  4 ข้อนั้นระบุเป้าหมายคือ

            จำกัดเขตและปิดล้อมจีน!

            ข้อแรกคือ ภัยคุกคามในรูปแบบ Comprehensive  Security

            หมายถึงการปกป้องดินแดนของสหรัฐฯ เอง

            เอ่ยถึงเกาหลีเหนือ, อิหร่าน, ญิฮาด, ภัยไซเบอร์

            ข้อสองคือ ภัยคุกคามทางเศรษฐกิจและพุ่งเป้าไปที่จีน

            ข้อสามคือ การปกปักรักษาสันติภาพ...และพุ่งเป้าไปที่จีนเช่นกัน (บวกรัสเซีย)

            ข้อที่สี่ระบุว่า สหรัฐฯ ต้องเป็นผู้มีอิทธิพลสูงสุดของโลกและภัยคุกคามก็คือจีนอีกนั่นเอง.

            (พรุ่งนี้: เมื่อมี Quad จีนจะตอบโต้อย่างไร?)


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"