24 มี.ค. 2564 นายทิตนันทิ์ มัลลิกะมาส เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% ต่อปี เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง พร้อมทั้งปรับลดประมาณการการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในปี 2564 เหลือ 3% จากเดิมที่ 3.2% และในปี 2565 ปรับประมาณการเหลือ 4.7% จาเดิมที่ 4.8% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่า จะอยู่ที่ 5.5 ล้านคน เหลือ 3 ล้านคน
“การบอกว่าเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 3% เป็นการฟื้นตัวแล้วคงไม่ใช่ การฟื้นตัวยังไม่เข้มแข็ง ยังจำเป็นต้องได้รับแรงสนับสนุนทั้งจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ทั้งนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง ซึ่งประเทศอื่น ๆ ฟื้นตัวได้ดีกว่าไทย ไทยยังช้า เพราะผลจากภาคบริการและภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี ครึ่ง หรือกลับมาฟื้นตัวได้เหมือนก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ช่วงกลางปี 2565” นายทิตนันทิ์ กล่าว
นายทิตนันทิ์ กล่าวอีกว่า การลดลงของจีดีพี สาเหตุหลักมาจากนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาช้าลง ซึ่งเป็นผลมาจากการระบาดของโควิด-19 ระลอก 2 รวมทั้งยังกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2564 จะขยายตัวได้ลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2563 แต่อย่างไรก็ดี จากมาตรการภาครัฐ ทั้ง โครงการคนละครึ่ง, โครงการ ม33 เรารักรัก และโครงการเราชนะ เป็นแรงกระตุ้นพอสมควร และทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/2564 จะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว แต่ก็เป็นผลกระตุ้นในระยะสั้น
นอกจากนี้ กนง.ยังได้ปรับประมาณการส่งออกไทยในปี 2564 โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ 10.0% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 5.7% เป็นผลจากการส่งออกที่ขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2563 และที่ผ่านมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อสินค้าส่งออกของไทยในทุกกลุ่มสินค้า
“กนง.ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้เดิม จากนักท่องเที่ยวลดลงและการระบาดระลอกใหม่ แต่ได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกและมาตรการที่ออกมาเพิ่มเติม แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากการกระจายวัคซีน และการกลับมาของนักท่องเที่ยว ส่วนระบบการเงินยังมีความเปราะบางจากการระบาดระลอกใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มครัวเรือนที่มีรายได้น้อยและเอสเอ็มอี สภาพคล่องโดยรวมยังอยู่ในระดับสูงแต่กระจายตัวไม่ทั่วถึง อัตราแลกเปลี่ยนได้รับแรงกดดันจากดุลบัญชีเดินสะพัดลดลง โดยคาดว่าเกินดุลอยู่ที่ 1.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากคาดเดิมที่ 11.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะเงินทุนผันผวน” นายทิตนันทิ์ กล่าว
อย่างไรก็ดี กนง.เห็นว่า ความต่อเนื่องของนโยบายภาครัฐและการประสานนโยบายระหว่างหน่วยงานมีความสำคัญในระยะต่อไป มาตรการด้านการคลังต้องพยุงเศรษฐกิจไม่ขาดช่วง โดยเฉพาะการเร่งเบิกจ่าย มาตรการเยียวยาในระยะสั้นยังคงมีความจำเป็น แต่การจะให้เศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง ต้องดูเรื่องการปรับโครงสร้างและภาคการผลิต นโยบายรัฐต้องปรับเปลี่ยนให้เพียงพอในการสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวยั่งยืนเพิ่มขึ้น
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |