24 มี.ค.64 - นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ กล่าวถึงกรณีนายสมชาย เเสวงการ ส.ว. ขู่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความ การกระทำของรัฐสภาที่มีมติให้แก้ไขเนื้อหามาตรา 9 ของร่างกฎหมายประชามติว่า ว่า สิ่งที่รัฐสภาแก้ไขไป มีผลทำให้เสียงของประชาชนดังขึ้นกว่าเก่า การทำประชามติไม่ต้องขึ้นกับแค่ดุลพินิจของครม.เป็นหลักอีกต่อไป ข้ออ้างว่ารัฐสภากระทำขัดรัฐธรรมนูญ เพราะเพิ่มอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจเหนือฝ่ายบริหารนั้น ก็ยิ่งทำให้เห็นเนื้อในของผู้ที่พยายามไม่เข้าใจหลักของการถ่วงดุลอำนาจ ซึ่งครม.และรัฐสภา คานอำนาจทัดเทียมกันใน 3 เสาหลักของการเมืองไทย และควรจะดีใจที่ต่อจากนี้เสียงของประชาชนจะกังวานกว่าเก่า แต่กลับอ้างข้างๆคูๆ เช่น กลัวว่าถ้าให้ต้องทำประชามติทุกเรื่อง ตามที่ภาคประชาชนเข้าชื่อเสนอ จะเกิดความโกลาหลต้องทำประชามติในทุกเรื่อง ก็เป็นข้ออ้างที่ไร้สาระ จะกลัวอะไรในเมื่อไม่ใช่แค่คน 1-2 คน เข้าชื่อแล้วชงทำประชามติได้ทันทีเสียเมื่อไหร่ แต่ต้องใช้ชื่อของประชาชนในจำนวนที่มากพอจะชี้ให้เห็นและสะท้อนเสียงของผู้คนว่าเรื่องนั้นๆสังคมอยากให้เกิดการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหรือไม่
นายอิสระ กล่าวอีกว่า สำหรับนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ที่บอกว่า หากตกลงกันไม่ได้อาจนำไปสู่การยุบสภา เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ให้ประชาชนได้ตัดสินใจใหม่นั้น ตนไม่ได้มองแค่ว่ากรณีนี้มีคนแพ้แล้วพาล แต่เข้าใจธรรมชาติของคนที่มีตำแหน่งได้โดยห้อยโหนอำนาจมาเป็น10 ปี จึงไม่คุ้นกับการฟังเสียงชาวบ้าน และแน่นอนท่านพูดได้เต็มปาก เพราะยุบสภาอย่างไร ก็ไม่ได้มีผลอะไรกับตำแหน่งของนายวันชัย ทั้งนี้ เขาควรเป็นคนจำพวกสุดท้ายในประเทศ ที่มีสิทธิ์อ้างคำว่าคืนอำนาจให้ประชาชน เพราะอำนาจของท่านไม่ได้มาจากประชาชนแม้แต่นิดเดียว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |