23 มี.ค.64 - น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณี น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แสดงความเห็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นใบเสร็จรับรองว่าเป็นผู้ปฏิวัติเพื่อสร้างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจว่า เป็นตัวอย่างของการฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียด และใช้ความเชื่อมากกว่าความรู้ เจตนาสร้างประเด็นทางการเมือง ทั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์ แสดงความจริงใจว่าไม่ขัดข้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และไม่ได้แทรกแซงสั่งการควบคุมเสียงของรัฐสภาที่ทำหน้าที่นิติบัญญัติ เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าคณะรัฐมนตรีทำหน้าที่บริหาร ทุกอย่างเป็นไปตามข้อกฎหมาย ไม่มีเผด็จการทางรัฐสภาเหมือนสมัยอดีต และพล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นสุภาพบุรุษ เข้าใจประเด็นสำคัญที่ฝ่ายค้านต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมุ่งตั้งเป้าหมายที่การเลือกนายกรัฐมนตรี จึงพร้อมให้มีการแก้ไขและไม่ได้ยึดติดในอำนาจ ไม่มีการเตรียมให้คนในครอบครัวมาสืบต่ออำนาจเหมือนอดีตนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีโอกาสอยู่แผ่นดินไทย
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า นอกจากทักษะการพิมพ์แล้ว โฆษกพรรคเพื่อไทยควรไปเรียนเพิ่มพัฒนาทักษะการอ่านและการฟัง อย่าสักแต่จะพูดแล้วทำตัวเป็นฤาษีแปลงสารเพราะอ่านและฟังไม่เข้าใจ การสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมเช่นนี้เป็นการสร้างประเด็นขึ้นมาเพื่อดิสเครดิตพล.อ.ประยุทธ์ และที่โฆษกพรรคเพื่อไทยจงใจสื่อสารให้มีคำว่า “ปฏิวัติ” ขึ้นมาในข่าวนั้น จะเห็นได้ว่ามีการรับช่วงไปขยายความในประเด็นนี้กันในฝั่งของพรรคเพื่อไทย พยายามสร้างบรรยากาศให้ประเทศไทยเป็นเหมือนกับประเทศเพื่อนบ้าน ต้องการโยนฟืนใส่ไฟให้กับกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมืองบนท้องถนน ทั้งที่สถานการณ์แตกต่างกัน และปัจจุบันประเทศไทยก็อยู่ห่างไกลการปฏิวัติรัฐประหารอย่างสิ้นเชิง” น.ส.ทิพานัน กล่าว
เธอ กล่าวต่อว่า โฆษกพรรคเพื่อไทยตระหนักดีว่ารัฐบาลมีความมั่นคง ประชาชนยอมรับและชื่นชมในผลงานจนได้รับคะแนนนิยมและมีแนวโน้มจะอยู่จนครบวาระ และพล.อ.ประยุทธ์มีส่วนสำคัญในการประคับประคองรัฐบาลให้แข็งแกร่ง แม้จะผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจมาหลายครั้งแล้ว ก็ยังไม่สามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้เลย อีกทั้งผลโพลของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลหลังศึกอภิปรายก็พบว่าเสียงของประชาชนส่วนใหญ่ให้พล.อ.ประยุทธ์ได้คะแนนพอใจมากที่สุด
"นางสาวอรุณีคงรู้ตัวดีว่าฝ่ายค้านโดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยเองอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะถูกยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ให้ไต่สวนกรณีโหวตเห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาะ 3 ว่าอาจเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เพราะแม้กระทั่ง ส.ส.ในพรรคถึง 26 คนยังสวนมติพรรคโดยไม่ยอมออกเสียงเพราะไม่อยากฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากป.ป.ช.ชี้มูลส่งต่อไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่ามีความผิด พรรคเพื่อไทยก็อาจต้องสูญพันธุ์จากสภาฯ พรรคเพื่อไทยจึงดิ้นหาช่องทางที่จะดิสเครดิตจุดแข็งของรัฐบาลแบบแปลงสารบิดเบือน" น.ส.ทิพานัน กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |