23 มี.ค.64 - นายเทพมนตรี ลิมปพยอม นักวิชาการอิสระด้านประวัติศาสตร์และนักเทววิทยา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm แสดงความคิดเห็นต่อนายทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์ประจำสาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปกป้องนักศึกษาที่จัดแสดงงานศิลปะจัดวาง ซึ่งมีลักษณะคล้ายศพที่ถูกห่อด้วยผ้าขาว ธงชาติไร้สีน้ำเงินเขียนคำหยาบและเรียกร้องยกเลิกมาตรา 112 เป็นต้น
โดยนายเทพมนตรี ระบุว่า "ข้าพเจ้าเห็นศิลปินมาเยอะ ศิลปินส่วนใหญ่ในโลกนี้ไม่คิดเป็นขี้ข้าใคร แต่มีศิลปินบางคนที่ชอบด่าคนอื่นแล้วอ้างว่า “ตัวไม่ใช่ขี้ข้าเพียงแค่ขายจิตวิญญาณ"
จากนั้น นายเทพมนตรี ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า ศิลปิน ศิลปะ ศิลเปรอะ ประวัติศาสตร์สอนให้รู้ว่ามนุษย์แต่ละคนมีที่มาที่ไปอย่างไร การเป็นศิลปินทำงานศิลปะใช่จะรู้เรื่องการเมือง ตรรกะ เหตุผล หรือความเข้าใจอันถูกต้องเพราะมันถูกกำกับด้วยกมลสันดาน ความชอบไม่ชอบ การครอบงำ อิทธิพลบุคคล สังคม และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
แค่วาทกรรมเพียงประโยคเดียวอาจสร้างตัวตนให้โด่งดังได้เพียงชั่ววันข้ามคืน หากแต่เราต้องพิจารณาอดีตของเขา เพราะบางทีวาทกรรมที่พ่นออกมาจากปากนั้นมันแค่มายา ด้อยค่าเป็นเพียงคำโกหกที่ประดิษฐ์ขึ้นชั่วคราว
ที่สำคัญการสั่งสอนในครัวเรือนโดยเฉพาะเด็กเล็ก ย่อมส่งผลให้ลูกมีทัศนคติที่เป็นลบต่อตัวตน ในที่สุดลูกก็จะมีความเกลียดชังและถูกพิมพ์ออกไปในสันดานจนสร้างปัญหาให้สังคมประเทศชาติต่อไป
ศิลปินบางคนสอนลูกไม่เป็น และทำลายลูกจากความคิดและพฤติกรรมส่วนตัวของตน
ศิลปะอันหยาบคายก็สร้างผลงานที่ยอดแย่เสื่อมทราม มันมาจากปมปัญหาที่อยู่ในจิตใจศิลปินผู้สร้าง เขาจึงดูถูกว่าเป็นเพียงก้อนขยะ ที่นำพาชีวิตให้ตกต่ำ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |