“ From past to present;

Present shall bring you back;

Time shall bring you here;

And it is you who bonds with those two worlds”

“Moments with you, that’s when I wish I could stop time”

ตอนหนึ่งจากบทพระนิพนธ์ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พ.ศ. 2563

       ภายใต้ความวิจิตรตระการตาของสถาปัตยกรรมแบบนีโอเรอเนซองส์ของพิพิธภัณฑ์ Kunsthistorisches (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์คุนสท์) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย นักโบราณคดีสาวลูกครึ่งออสเตรียและอียิปต์ นามว่า NEFRERETTA (เนเฟรเรทต้า)     ผู้เป็นภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์นี้ ในเสื้อแจ็คเก็ตซาฟารีผ้าโบรเคดสีดำทองที่เข้าคู่กับกางเกงฮาเร็มสีทอง ได้เดินผ่านคอลเลคชั่นงานศิลป์ชั้นเอกของโลกจากศิลปินอย่าง Titian, Vermeer, Raphael และ Gustav Klimt เพื่อเข้าไปทำงานในห้องแสดงอารยธรรมอียิปต์ ณ ห้องแห่งนี้เอง ซึ่งรายล้อมไปด้วยโบราณวัตถุ   ต่าง ๆ จากดินแดนลุ่มแม่น้ำไนล์ ไม่ว่าจะเป็น โลงศพมัมมี่ รูปปั้นต่าง ๆ ไปจนถึงคัมภีร์มรณะ ทำให้หญิงสาวผู้นี้รู้สึกตกอยู่ในภวังค์ราวกับว่าเธอกำลังเดินผ่านประตูผ่านมิติ ซึ่งทำให้เธอได้เห็นเรื่องราวของพระราชธิดาของกษัตริย์อียิปต์ ซึ่งละม้ายคล้ายตัวเธอ และอีกเรื่องราวซึ่งก็คือตัวของเธอเองในโลกปัจจุบัน ซึ่งนี่เอง คือจุดเริ่มต้นของ ‘NEFRERETTA’ คอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง-ซัมเมอร์ 2021 ภายใต้  แบรนด์ “SIRIVANNAVARI” และ S’Homme ที่เอาโครงเสื้อเป็นไอคอนของแบรนด์มาผสมผสานกับรายละเอียดของอารยธรรมแบบอียิปต์ เพื่อลุคที่ดูลึกลับและชวนให้น่าค้นหาในความหมายของคอลเลคชั่น        

        สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีพระดำรัสว่า “ สำหรับคอลเลคชั่นล่าสุดนี้ ข้าพเจ้าได้นำเอาเรื่องราวจากบทกวีที่ข้าพเจ้าแต่งไว้มาถ่ายทอดลงในเสื้อผ้าทั้งหมด โดยได้นำเอาเอกลักษณ์ของศิลปะและอารยธรรมของอียิปต์มาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บแบบเซมิกูตูร์ (Semi Couture) ของแบรนด์ แล้วเพิ่มเสน่ห์ด้วยกลิ่นอายแบบ Outer Space เพื่อให้เสื้อผ้าดูล้ำยุค โก้หรู และน่าติดตาม ซึ่งบ่งบอกถึงคาแรคเตอร์ของตัวละครอย่าง NEFRERETTA”

                สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระดำรัสต่ออีกว่า “ ด้วยความที่ NEFRERETTA เป็นลูกครึ่งออสเตรียกับอียิปต์ ดังนั้น รสนิยมของผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงมีความเป็นยูโรเปียนที่โก้หรูอยู่ ข้าพเจ้าจึงสร้างสไตล์ของผู้หญิงคนนี้ด้วยการนำรายละเอียดแบบอียิปต์มาผสมผสานเพื่อให้มีความแตกต่างไม่ซ้ำใคร แต่ยังคงความเป็นตัวตนของเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี อย่าง สีทอง สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ สีดินเผาเทอร์ราคอตต้า (Terracotta) การใช้เครื่องประดับต่าง ๆ หรือการนำสัญลักษณ์ของอียิปต์มาสร้างสไตล์ ไปจนถึงการออกแบบรูปทรงดอกบัวอียิปต์ขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ใหม่ของฤดูกาล โดยนำเอาไปสอดแทรกอยู่ในส่วนต่างๆ ของคอลเลคชั่น อาทิ ชุดเชิ้ตเดรสแบบซาฟารีสีคาเมลประดับแขนเสื้อโอเวอร์ไซส์ ชุดเดรสผ้าบุหงาที่อัดพลีตแบบ Asymmetrical เสื้อผ้าบุหงาที่ปักลายดอกบัวอียิปต์แบบใหม่ด้วยหินเทอร์ควอยซ์และลูกปัด ชุดเดรสที่ปักดิ้นทองลายนกอินทรี ไปจนถึงกระเป๋าถือรูปทรงพีระมิด”

       สำหรับคอลเลคชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบประจำฤดูกาล สปริง-ซัมเมอร์ 2021 ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 60 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI 53 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษของ S’Homme 7 ลุค

       คอลเลคชั่นเสื้อผ้าสุภาพสตรีของ SIRIVANNAVARI มีความโดดเด่นที่หลากหลาย ตั้งแต่เสื้อแจ็คเก็ตซาฟารีผ้าโบรเคด (Brocade) สีทองเข้าคู่กับกางเกงขาสั้น เสื้อบุสติเยร์ (Bustier) ลายพิมพ์สีขาวดำประดับด้วยแขนเสื้อโอเวอร์ไซส์ผ้าบุหงาอัดพลีตที่ใส่คู่กับกางเกงไบเกอร์เมทาลิคสีทอง เสื้อลายพิมพ์ภาพ ฝีพระหัตถ์จับเดรปตัวสั้น (Draped Midriff crop top) ที่มาคู่กับกางเกงอัดพลีตลายเดียวกัน ชุดค็อกเทล  เดรสคัทเอ้าต์ผ้าโบรเคดดำทอง ชุดเดรสผ้าไหมซาตินสีงาช้างจับเดรปแบบไม่สมมาตรคาดทับด้วยเข็มขัดหนังถักเมทาลิกทอง ไปจนถึงชุดราตรียาวสีงาช้างปักลายดอกบัวทั้งตัวและโดดเด่นด้วยรายละเอียดของการเย็บและปักผ้าบุหงาช่วงคอ รวมไปถึงคอลเลคชั่นชุดว่ายน้ำสีนีออนฉูดฉาด และชุดคลุมบาธโร้บ 

      สิ่งพิเศษอีกหนึ่งอย่างในคอลเลคชั่นนี้ก็คือ งานปักชั้นเยี่ยมจาก SIRIVANNAVARI Atelier and Academy โดยซีซั่นนี้ ได้นำเสนองานปักหลายรูปแบบมาตกแต่งบนบริเวณต่างๆ ของเสื้อผ้า อาทิ การปักหินเทอร์ควอยซ์ ลูกปัด คริสตัล และดิ้นทองบนผ้าบุหงา (ผ้า Tulle) และผ้าโบรเคด ให้เป็นลวดลายเอกลักษณ์ต่าง ๆ เช่น ลายดอกบัวฝีพระหัตถ์ ลายนกอินทรี ลายแมว ลายผึ้ง ลายรวงข้าว ดอกไม้ ตัวอักษรไฮโรกลิฟิก (Hieroglyphic) และลายโมทีฟแบบอียิปต์

      เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ก็คือลายพิมพ์ภาพกราฟิกฝีพระหัตถ์ ซึ่งสำหรับซีซั่นนี้องค์ดีไซเนอร์ทรงนำเอาภาพวาดฝีพระหัตถ์ลายต่าง ๆ มาประกอบเป็นภาพคอลลาจ ให้เป็นลายพิมพ์ประจำซีซั่นนี้ อาทิ ดอกบัว ตัวอักษรไฮโรกลิฟิก (Hieroglyphic) ซึ่งเป็นตัวอักษรอียิปต์โบราณ ภาพนกฮูก เสือ นกยูง และลายศิลปะแบบอียิปต์ โดยลายกราฟิกฝีพระหัตถ์นี้ได้ปรากฏให้เห็นตลอดคอลเลคชั่น อาทิ ชุดเดรสผ้าไหมชีฟองลายกราฟิกประจำซีซั่นจับเดรปแบบไม่สมมาตรคาดทับด้วยเข็มขัดหนังถักเมทาลิกทอง ชุดราตรียาวสีเขียวมะนาวที่ตกแต่งด้วยผ้าชีฟองลายพิมพ์ประจำซีซั่น    อัดพลีต ไปจนถึงคอลเลคชั่นผ้าพันคอ และรองเท้าเอสพาดริลส์ (Espadrilles) ลายกราฟิก

      คอลเลคชั่นเครื่องประดับจิวเวลรี่เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่สำคัญที่จะมาเติมคาแรคเตอร์ของหญิงสาวให้สวยเต็มร้อยในช่วงซัมเมอร์ โดยองค์ดีไซเนอร์ทรงนำเอาลายสัญลักษณ์ของแบรนด์ อาทิ โลโก้ตัว S     ตัวผึ้ง รูปดาว นกยูง มาผสมผสานกับลายกราฟิกของอียิปต์ อาทิ เซ็ตโชคเก้อร์และกำไลโลหะทองประดับหินลาพิสลาซูลีสีน้ำเงิน (Lapis lazuli) และหินคาร์เนเลี่ยนสีส้ม (Carnelian) ที่สลักชื่อแบรนด์เป็นตัวอักษรไฮโรกลิฟิก ต่างหูรูปตา (Eye of Horus) คริสตัลประดับชาร์มลายนกยูง แหวนนิ้วคู่ (Two-finger ring) ตัวเรือนทองที่ประดับด้วยหินลาพิสลาซูลีและหินคาร์เนเลี่ยน ไปจนถึงสร้อยโชคเก้อร์ประดับเหรียญสัญลักษณ์ที่โดดเด่นด้วยเทคนิคการลงยาสีนีออนสดใส อาทิ สีเขียวมะนาวและสีส้มปะการัง

      คอลเลคชั่นเครื่องหนังในซีซั่นนี้มีความโก้หรูและสนุกสนานเป็นอย่างมากโดยเห็นได้จากกระเป๋าถือหนังจระเข้สีเขียวมรกต สีฟ้าเทอร์ควอยซ์ และสีชมพู Fuchsia หรือจะเป็นกระเป๋าถือหนังงูไพธอน (Python) ในเฉดสีเมทาลิกหลากหลาย กระเป๋าพอเช็ตต์หนังไซส์นาโนหุ้มด้วยโซ่ถัก กระเป๋าถือรูปทรงพีระมิดที่ทำจากโลหะทอง กระเป๋าคล้องคอใส่ AirPod ไปจนถึงกระเป๋าคาดเอวที่ประกอบด้วยกระเป๋าห้อยใบเล็กใบน้อยหลากหลายขนาดแบบสาวนักโบราณคดี และเข็มขัดหนังเมทาลิกถักผสมกับโซ่เงินโซ่ทอง ในขณะที่คอลเลคชั่นรองเท้าก็มีความโก้หรูไม่แพ้กัน ดูน่าสนใจด้วยเทคนิคการตัดเย็บหนังชั้นสูงจากอิตาลีอันมีความละเอียดอ่อนโดยผสมผสานหนังลูกวัวเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่รองเท้าเอสพาดริลส์ตัดเย็บจากผ้าใบลายกราฟิกประจำซีซั่น รองเท้าส้นสูงที่ตัดเย็บจากหนังสานสีทองและดำประดับโซ่ทองดูเก๋ด้วยส้นรองเท้าประดับโลโก้ ‘S’ วางซ้อนกัน รองเท้าส้นสูงสลิงแบ็ค (Sling back) ตัดเย็บจากหนังทองโดดเด่นด้วยการใช้หนังสีฟ้ามาสานเป็นตะเข็บ และเพิ่มความพิเศษด้วยพื้นรองเท้าสีชมพู Fuchsia ซึ่งเป็นสีประจำแบรนด์  อีกทั้งยังมีรองเท้าส้นเข็มที่ตัดเย็บด้วยผ้าซาตินสีสดใสอย่างสีเหลือง และสีชมพูให้เลือกสรรอีกด้วย

       นอกจากนี้ ไฮไลต์อีกอย่างอยู่ที่คอลเลคชั่นแว่นตากันแดดรูปทรงเอกลักษณ์ โดยมีกรอบแว่นที่เป็นทรงแปดเหลี่ยมและผลิตจากอาซิเตตชั้นดี ซึ่งประดับเหรียญประทับโลโก้นกยูงที่ขาแว่น โดยมีให้เลือก 4 เฉดสีด้วยกัน คือ สีฟ้า Powder Blue, Cerulean Blue, Royal Blue และสีแดง Bordeaux  ที่มาพร้อมกับ โซ่ทองคล้องแว่นเพื่อความเก๋และความสะดวกในการใช้งานของหญิงสาว

       สำหรับคอลเลคชั่นสุภาพบุรุษสปริง-ซัมเมอร์ 2021 ของ S’Homme (เอส ออม) นั้น มีความโก้หรูสไตล์แมสคิวลีน ซึ่งนำเอาโครงเสื้อแบบคลาสสิกมาดัดแปลงโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ ทำให้มีสไตล์ที่ดูโมเดิร์นและโก้หรูมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่การปรับโครงสร้างเสื้อให้เข้ารูป ทำให้ไหล่ดูกว้างขึ้นและเอวดูเล็กลง ดังเห็นได้จากชุดสูทที่ตัดเย็บจากผ้าแจ็คการ์ด (Jacquard) ทอลายรวงข้าวสีเขียวฟ้าน้ำทะเล (สี Teal) เสื้อซาฟารี แจ็คเก็ตลายทางสีน้ำเงินบนพื้นเขียวลูกแพร์ (Pear green) ที่สวมทับเสื้อเชิ้ตลายพิมพ์กราฟิกประจำซีซั่นและกางเกงผ้าลินินสีเขียวมะกอก เสื้อโค้ตผ้าวูลสีน้ำตาลที่สวมคู่กับเสื้อและกางเกงสีขาว ไปจนถึงชุดสูทดับเบิ้ลเบรสท์ (Double breasted jacket)  ที่นำผ้าแจ็คการ์ดสีมิดไนต์บลูมาตัดเย็บในแพตเทิร์นแบบไม่สมมาตร โดยนำมาสวมทับเสื้อเชิ้ตทักซิโด้

      ในขณะที่คอลเลคชั่นรองเท้าของ S’Homme ก็นำเสนอทั้งรองเท้าแตะที่ตัดเย็บจากหนังสานสีทอง รองเท้าเอสพาดริลส์ที่ตัดเย็บจากผ้าใบลายกราฟิกทรงออกแบบ และรองเท้าโลเฟอร์ (Loafer) หนังกลับที่ประดับด้วยโลหะประทับลายนกยูง ส่วนคอลเลคชั่นกระเป๋านำเสนอกระเป๋าสุดหรูอย่าง พอเช็ตต์หนังจระเข้สีดำ น้ำตาล และเขียว หรือจะเป็นกระเป๋าหนังประดับซิปคู่สุดชิค นอกจากนี้แล้ว คอลเลคชั่นล่าสุด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อย่างครบครัน ตั้งแต่แฟชั่นจิวเวลรี่ อาทิ แหวน สร้อยคอ และเข็มกลัดประดับเสื้อสูท (Pinsuit) ไปจนถึงพ็อกเก็ตสแควร์

     สามารถชม ‘NEFRERETTA’ คอลเลคชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง-ซัมเมอร์ 2021         ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’Homme ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน