การประท้วงที่เมืองบริสตอลของอังกฤษเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อต่อต้านร่างกฎหมายเพิ่มอำนาจตำรวจในการปราบปรามผู้ประท้วงก่อความวุ่นวาย ได้เกิดความวุ่นวายขึ้นและบานปลายเป็นเหตุการณ์รุนแรง มีรถตำรวจโดนเผาและตำรวจบาดเจ็บหนัก 2 นาย

รถตำรวจโดนวางเพลิงด้านนอกสถานีตำรวจไบรด์เวลล์ ระหว่างการประท้วงร่างกฎหมายตำรวจและอาชญากรรม เมื่อวันอาทิตย์ (Photo by Andrew Matthews/PA Images via Getty Images)

    จอห์น แอปเตอร์ หัวหน้าสหพันธ์ตำรวจอังกฤษและเวลส์ ทวีตว่า การชุมนุมที่เมืองบริสตอลเมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 มีนาคม เป็นฉากที่น่าสยดสยอง ตำรวจหลายนายได้รับบาดเจ็บหนัก, รถตำรวจถูกทำลายและสถานีตำรวจแห่งหนึ่งโดนโจมตี นี่ไม่ใช่การประท้วง แต่เป็นความรุนแรงที่ไร้เหตุผล

    ประชาชนหลายพันคนรวมตัวชุมนุมย่านใจกลางเมืองบริสตอล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อต่อต้าน "ร่างกฎหมายตำรวจและอาชญากรรม" ที่จะเพิ่มอำนาจตำรวจในการปราบปรามการชุมนุมประท้วง ชุมนุมครั้งนี้มีชื่อเรียกว่า "คิลเดอะบิล" แม้ทางการอังกฤษสั่งห้ามการรวมตัวกันของประชาชนจำนวนมาก ตามมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา

    การชุมนุมในตอนแรกดำเนินไปอย่างสงบ แต่เริ่มเกิดความรุนแรงขึ้นเมื่อผู้ชุมนุมหลายร้อยคนบุกล้อมสถานีตำรวจท้องถิ่นแห่งหนึ่ง, ผู้ชุมนุมโยนดอกไม้ไฟเข้าใส่ฝูงชน และพ่นกราฟฟิตี้บนกำแพง

    ตำรวจเอวอนและซัมเมอร์เซตแถลงว่า การชุมนุมที่เมืองบริสตอล รถตำรวจ 2 คันโดนเผาทำลาย, สถานีตำรวจแห่งหนึ่งได้รับความเสียหาย ตำรวจคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บกระดูกแขนข้างหนึ่งหัก และตำรวจอีกคนซี่โครงหัก

    พริที พาเทล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอังกฤษ ประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมืองบริสตอลว่า เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เราจะไม่ยอมทนกับความรุนแรงและความวุ่นวายจากอันธพาลกลุ่มเล็กๆ

    ดาร์เรน โจนส์ ส.ส.ท้องถิ่นจากพรรคแรงงานที่เป็นพรรคฝ่ายค้านระบุว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในการประท้วงที่เมืองบริสตอลเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง คุณออกมาชุมนุมเรียกร้องสิทธิการชุมนุมประท้วงอย่างสันติ แต่ในการชุมนุมกลับเผารถตำรวจและพ่นกราฟฟิตีใส่อาคาร.