สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานมอบแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็ม "มทภ.4" ชี้ฝีมือแนวร่วมรุ่นเก่าต้องการแสดงตัวตน โวรู้ตัวคนร้ายแล้ว มั่นใจจับไม่ยาก "บิ๊กป้อม" แย้มจะมีบึ้มมากขึ้นช่วงเดือนรอมฎอน สั่ง จนท.คุมเข้มสถานการณ์

    ความคืบหน้าเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังกลุ่มคนร้ายลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารหลายแห่งในจังหวัดยะลา นราธิวาส และปัตตานี จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย รวมทั้งยังก่อเหตุยิงถล่มฐาน นปพ.ธารโต จ.ยะลา ได้รับความเสียหายเมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา 
    ช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 21 พ.ค.61 เวลา 07.30 น. พ.ต.อ.กีรติ แวยูโซะ ผกก.สภ.เมืองปัตตานี ได้รับแจ้งพบวัตถุต้องสงสัยวางอยู่บนแป้นตัวเลขตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน สาขาถนนหนองจิก ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี ตั้งอยู่หน้าโรงแรมซีเอส ปัตตานี จึงประสานชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าไปตรวจสอบ  พร้อมกันพื้นที่ไว้เพื่อความปลอดภัย 
    จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในกล่องเหล็ก  โดยระเบิดทำงานแล้วแต่ไม่สมบูรณ์ จึงนำไปตรวจสอบพบระเบิดมีน้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาไว้ที่ 19.00 น. เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และหารอยนิ้วมือแฝงเพื่อติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
    ทั้งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคงสรุปสถานการณ์เหตุลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มในพื้นที่ จ.ปัตตานี  เกิดขึ้นจำนวน 10 จุดใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองปัตตานี เขตเทศบาล จำนวน 6 จุด คือ 1.ตู้เอทีเอ็มธนาคารกสิกรไทย ถ.ยะรัง ต.อาเนาะรู 2.ตู้เอทีเอ็มธนาคาร ธ.ก.ส. ถ.ยะรัง ต.อาเนาะรู และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ น.ส.สมพิศ สกุลจิตร และ น.ส.สมจิต ศรีสมบัติ ทั้งสองอาการปลอดภัย 3.ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม ตั้งอยู่หน้าศูนย์เศรษฐกิจและสังคม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สาขาปัตตานี ถ.พิพิธ ต.อาเนาะรู 4.ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน หน้าวิทยาลัยเทคนิคปัตตานี ถ.หนองจิก ต.รูสะมิแล 5.ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ ถ.หนองจิก หน้าโรงแรมซีเอสปัตตานี และ 6.กู้ระเบิดแสวงเครื่องได้ที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารออมสิน สาขาหนองจิก ต.รูสะมิแล หน้าโรงแรมซีเอสปัตตานี อ.สายบุรี จำนวน 2 จุด คือ ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนศาสนาศึกษา ม.1 ต.ตะบิ้ง และตู้เอทีเอ็มกรุงไทย ในปั๊มน้ำมันพีที  ม.10 ต.เตราะบอน อ.หนองจิก 1 จุด คือ ตู้เอทีเอ็ม ธ.ก.ส. สาขาหนองจิก ม.2 ต.ตุยง และ อ.ยะรัง 1 จุด  คือ ตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หน้าร้านสะดวกซื้อ ม.3 ต.เขาตูม
    เวลา 13.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ น.ส.สมจิตร ศรีสมบัติ ราษฎรที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายก่อกวนด้วยการวางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่จังหวัดปัตตานีจำนวน 10 จุด เมื่อวันที่ 20 พ.ค.61 และเข้ารับการรักษาพยาบาล ณ โรงพยาบาลปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี
    ขณะที่ พ.ต.อ.สุธน สุขวิเศษ รองผู้บังคับการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปัตตะ มะดาวา ผกก.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส, พ.ต.ท.ประจวบ นิ่มเรือง หัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส, เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และพนักงานสอบสวน สภ.บาเจาะ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลามในช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 
    จุดเกิดเหตุอยู่ริมถนนเพชรเกษม สายบาเจาะ-ปัตตานี ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น เลขที่ 246/1  ม.6 ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ โดยมีนายณรงค์ เจ๊ะแว อายุ 47 ปีเป็นเจ้าของ ซึ่งเคยเปิดเป็นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณ ชื่อห้างทองกริซทองคำ โดยตู้เอทีเอ็มซึ่งตั้งไว้ด้านซ้ายมือของร้านถูกระเบิดได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ รถยนต์โตโยต้า ทะเบียน กข 6984 นราธิวาส และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า แกรนด์ฟีลาโน่ สีเทา ทะเบียน 1 กข 1714 นราธิวาส ของชาวบ้านที่จอดไว้บริเวณด้านข้างและด้านหน้าของจุดเกิดเหตุได้รับความเสียหาย
    จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบที่บริเวณฐานปฏิบัติการชั่วคราวของเจ้าหน้าที่ทหารพรานหน่วยนาวิกโยธิน ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคหลังเก่า ซึ่งห่างจาก สภ.บาเจาะไปประมาณ 700 เมตร โดยคนร้ายแฝงตัวมาทางด้านหลังของฐาน แล้วใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงก่อกวนใส่ฐาน ซึ่งไม่มีทรัพย์สินได้รับความเสียหายและไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
    ต่อมาไปตรวจสอบพื้นที่ อ.ระแงะ ซึ่งคนร้ายได้ลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารออมสิน ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายยี่งอ-รือเสาะ หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลมะรือโบตก ม.5 ต.มะรือโบตก ซึ่งตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ 
    พ.ต.อ.สุธนกล่าวว่า ระเบิดที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบเดียวกับที่ชายวัยรุ่น 2 คน โยนทิ้งไว้ริมถนนบ้านบาโงมาแย ม.2 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี ขณะขี่รถจักรยานยนต์จะผ่านจุดตรวจ ในขณะที่ ร.ต.อ.จีระวุฒิ เอียดเต็ม รอง สวป.สภ.สากอ อ.สุไหงปาดี และพวก นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัด ที่บริเวณบ้านยะลูตง ม.8 ต.สากอ อ.สุไหงปาดี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าคนร้ายจะนำเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี ที่ได้นัดแนะกันลงมือในช่วงคืนของวันเดียวกัน
    ด้าน พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 กล่าวว่า ลักษณะการก่อเหตุคนร้ายไม่ได้มุ่งไปในการทำร้ายคน เพียงแต่มีคนได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด เชื่อว่าน่าเป็นการแสดงถึงตัวตนของกลุ่มคนร้ายเท่านั้น ซึ่งเหตุระเบิดตู้เอทีเอ็มเงียบหายไปนาน 5-6 ปี โดยกลุ่มที่มาก่อเหตุต้องการแสดงศักยภาพว่าได้กลับมาอีกแล้ว เป็นการกระทำของแนวร่วมรุ่นเก่า ขณะนี้รู้ตัวแล้วรอรวบรวมพยานหลักฐาน คิดว่าไม่ยาก กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้
    หน่วยงานด้านความมั่นคงรายงานว่า จากภาพวงจรปิดที่จับภาพคนร้ายแต่งกายในลักษณะที่เหมือนผู้หญิงนั้น เพื่อต้องการตบตาเจ้าหน้าที่ โดยบางจุดเป็นคนเดียวกัน เนื่องจากธนาคารที่เกิดเหตุอยู่ใกล้กัน ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุนั้นพบผู้ต้องสงสัยได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนไปมา ก่อนที่มือระเบิดจะนำระเบิดมาวางไว้แล้วรีบหนีไป และเกิดระเบิดขึ้นประมาณ 5-10 นาที
    "ข้อมูลเบื้องต้นเชื่อเป็นฝีมือกลุ่มนายอิสยาซะห์ หะแย กับกลุ่มของนายมูฮำหมัด กาซอ สองมือระเบิดที่มีหมายจับคดีความมั่นคง และเคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้งในพื้นที่ จ.ปัตตานี โดยมีสมาชิกแนวร่วมในพื้นที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 17-20 ปีมาร่วมก่อเหตุ เพื่อแสดงถึงสภาพจิตใจในการเตรียมพร้อมที่จะร่วมก่อการใหญ่" หน่วยข่าวด้านความมั่นคงระบุ
    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่า จะมีการก่อเหตุระเบิดมากขึ้นในช่วงเดือนรอมฎอน เราก็แก้ไขปัญหาต่อไปเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย ส่วนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็รอให้เขาตั้งคนมาพูดคุยใหม่ 
    "ให้หน่วยในพื้นที่ดำเนินการในการควบคุมพื้นที่ให้ได้ ครั้งนี้เป็นการทำลายตู้เอทีเอ็ม เป็นเรื่องเศรษฐกิจในการเบิกเงินของประชาชน ทางธนาคารก็ต้องแก้ปัญหาเพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน" พล.อ.ประวิตรกล่าว 
    ถามว่าเป็นการสะท้อนเครือข่ายผู้ก่อเหตุสามารถก่อเหตุได้พร้อมกันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขอเป็นช่วงเดือนรอมฎอนที่มีการกำหนดชัดเจน ไม่ใช่ว่าสั่งการเมื่อวานและมาก่อเหตุในวันนี้ โดยผู้ก่อเหตุใช้โซเชียลมีเดียในการนัดแนะ.