22 มี.ค.2564 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการขับเคลื่อนมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2564 ที่กระทรวงพาณิชย์ ว่า ปี 2564 ผลผลิตโดยรวมของผลไม้คาดการณ์ว่าจะมีประมาณ 5.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 23% จากปี 2563 จึงต้องร่วมมือกันทำงานหนัก เพราะผลผลิตจะออกมาก โดยหลังจากที่ได้มีการหารือร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนแล้ว ได้ข้อสรุปมีมาตรการเชิงรุก 16 มาตรการ ในการช่วยเหลือผลไม้ไทย
สำหรับ 16 มาตรการที่จะนำมาใช้ประกอบด้วย 1.เร่งรัดการตรวจรับรอง GAP ที่เป็นเอกสารสำคัญในการส่งออกผลไม้ไทย โดยกรมวิชาการเกษตรจะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ ตั้งเป้าหมายว่าปี 2564 จะดำเนินการตรวจรับรองให้เสร็จสิ้นอย่างน้อย 120,000 แปลง 2.จะผ่อนปรนกฎระเบียบการเคลื่อนย้ายแรงงาน ปีที่แล้วสามารถขนย้ายแรงงานเพื่อเก็บผลไม้ข้ามจังหวัดได้ ปีนี้จะกำหนดมาตรการเคลื่อนย้ายแรงงานเก็บผลไม้จากภาคตะวันออกไปสู่ภาคใต้ได้ด้วย
3.กอ.รมน. จะสนับสนุนกำลังพลในการช่วยเก็บเกี่ยวและขนย้ายผลไม้ เช่น ลองกอง จากสวนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4.จะส่งเสริมการรับซื้อผลไม้ของผู้ประกอบการที่รวบรวมผลไม้ กิโลกรัมละ 3 บาท 5.สนับสนุนให้มีรถเร่ไปซื้อผลไม้เพื่อนำไปขายปลีกให้กับผู้บริโภคจำนวน 4,000 ตัน โดยกระทรวงพาณิชย์ช่วยสนับสนุนรถเร่คันละ 1,500 บาท 6.สำหรับผลไม้ที่จะส่งไปขายผ่านไปรษณีย์ไทย จะช่วยสนับสนุนลดค่าใช้จ่าย จาก 10 กิโลกรัม 95 บาท ลดเหลือ 30 บาท ส่งเสริมให้ชาวสวนขายผลไม้ผ่านไปรษณีย์ ตั้งเป้าหมายไว้ 2,000 ตัน จากปีที่แล้ว 400 ตัน
7.กระทรวงพาณิชย์จะประสานงานเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรจำหน่ายผลไม้โดยตรงได้ที่ตลาดกลาง ตลาดสด สนามบิน ห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างท้องถิ่น รวมถึงปั๊มน้ำมัน 8.ช่วยเร่งรัดผลักดันการส่งออกผลไม้ โดยช่วยสนับสนุนผู้ส่งออกผลไม้กิโลกรัมละ 2.50 บาท มีเป้าหมาย 60,000 ตัน 9.ใช้อมก๋อยโมเดล หรือเรียกว่า เกษตรพันธสัญญา ทำสัญญาล่วงหน้าให้เกษตรสามารถขายผลไม้ได้ปริมาณ 20,000 ตัน 10.การหิ้วผลไม้ขึ้นเครื่องบิน ปีนี้กระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับสายการบินทุกสายการบินและให้ความร่วมมือในการเปิดโอกาสให้ผู้โดยสารหิ้วผลไม้ขึ้นเครื่องบินได้ 25 กิโลกรัมฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย
11.กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ส่งเสริมการค้าออนไลน์ โดยจัดอบรมกลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ หรือรูปแบบอื่นๆ ให้มีความรู้ในการขายผลไม้ออนไลน์ และสนับสนุนให้ไปขายบนแพลตฟอร์มปีนี้ เพิ่มเป็น 11 แพลตฟอร์ม 12.ส่งเสริมการขายผลไม้ในตลาดต่างประเทศอย่างเข้มข้น จัดงาน THAIFEX-ANUGA ASIA 2021 วันที่ 29 ก.ย.-3 ต.ค.2564 จัดกิจกรรม Thai Fruit Golden Months ปีที่แล้วจัด 9 เมือง ปีนี้จัด 14 เมืองของจีนที่เป็นตลาดใหญ่สุดของประเทศไทย และนำผู้ประกอบการผลไม้เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในต่างประเทศ
13.ส่งเสริมการส่งออกออนไลน์ผลไม้ไทย จัดให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกจะจับคู่ธุรกิจออนไลน์ โดยทีมเซลล์แมนประเทศเป็นผู้ดำเนินการตั้งแต่เดือนมี.ค.-พ.ย.2564 เช่น จัดงาน In-Store Promotion หรือจัดตามห้างสรรพสินค้าประเทศต่างๆ เช่น อินเดียจัดในเดือนมิ.ย. และเจรจาจับคู่ธุรกิจด้วยระบบออนไลน์ 40 บริษัทส่งออกผลไม้ไทย และผู้นำเข้า 170 บริษัทจากทั่วโลกวันที่ 25 มี.ค.2564 14.ส่งเสริมการส่งออกผลไม้ไทยในต่างประเทศในรูปแบบผสมผสานที่เรียกว่าไฮบริด ปีนี้จัด 7 ครั้งกระจายทั้งปี เพื่อส่งเสริมการส่งออกผลไม้ไทย จับคู่ซื้อผลไม้จริงด้วยระบบไฮบริดในประเทศต่างๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา เอเชียใต้ อินเดียบังกลาเทศ ปากีสถาน เป็นต้น
15.เร่งการประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นให้ผลไม้ไทย โดยทำสื่อ 5 ภาษา อังกฤษ ไทย จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี และ 16.กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จะบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายโดยเคร่งครัด ทั้ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ให้ล้งรับซื้อผลไม้ ต้องติดป้ายราคารับซื้อ ณ เวลา 08.00 น. ทุกวัน เพื่อเกษตรกรจะได้รู้ล่วงหน้า พ.ร.บ.มาตราชั่งตวงวัด จับกุมผู้โกงน้ำหนักดัดแปลงเครื่องชั่งเอาเปรียบเกษตรกร พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ป้องกันการผูกขาด การฮั้วและการปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมโดยเคร่งครัด