"ร.ท.ฐิติทัตน์" เข้าให้การพนักงานสอบสวนกองปราบฯ แจงปืน 23 กระบอกมีทั้งของตนและเพื่อนนำมาฝาก ยันที่ครอบครองมีใบอนุญาตทุกกระบอก ปัดไม่รู้เห็น "แม่" เปลี่ยนชื่อบัญชีให้แม่บ้านรับโอนเงิน 25 ล้านบาท คาดแม่ฐิติทัศน์เป็นผู้จัดการเรื่องทั้งหมด จ่อเข้าพบ พงส. 24 พ.ค.นี้ 

     ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) วันที่ 21 พฤษภาคม ร.ท.ฐิติทัตน์ นิพนธ์พิทยา นายทหารสังกัดศูนย์รักษาความปลอดภัย (ศรภ.) พร้อมด้วยนายสมภพ ระงับทุกข์ ทนายความส่วนตัว เข้าพบ  พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. และให้การต่อพนักงานสอบสวน กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 265/154 หมู่บ้านสีวลีรามคำแหง ถนนราษฎร์พัฒนา แขวงและเขตสะพานสูง  กทม. ซึ่งเป็นบ้านของ ร.ท.ฐิติทัตน์ หลังเจ้าหน้าที่ บก.ป.สืบทราบว่า น.ส.นุชรา สิทธินอก แม่บ้านเกี่ยวข้องกับการรับโอนเงินจากพระชั้นผู้ใหญ่กว่า 25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา
    โดยการตรวจค้นบ้านครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ยังพบอาวุธปืนที่อยู่ในตู้เซฟ 3 ใบ จำนวนกว่า 23 กระบอก และเครื่องกระสุนกว่า 1,000 นัด ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ที่เข้ามากำกับดูแลเรื่องอาวุธปืน ยืนยันว่า 10 ใน 23 กระบอกนั้นชื่อผู้ครอบครองไม่ใช่ ร.ท.ฐิติทัตน์ ที่เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มในการครอบครองอาวุธปืน 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาให้ปากคำครั้งนี้ ร.ท.ฐิติทัตน์แต่งชุดทหารมากับรถตู้ที่มีเจ้าหน้าที่ทหารติดตามมาด้วย เมื่อถึงกองปราบฯ ได้เดินเข้าอาคารเข้าพบ พล.ต.ต.ไมตรี โดยไม่ให้ผู้สื่อข่าวติดตามขึ้นไปแต่อย่างใด 
      ด้านนายสมภพกล่าวว่า ร.ท.ฐิติทัตน์มาครั้งนี้เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและชี้แจงการเข้าตรวจค้นทรัพย์สินในบ้านพัก ยืนยันลูกความอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารใบทะเบียนปืน ซึ่ง ร.ท.ฐิติทัตน์ได้บอกว่ามีใบครอบครองปืนทุกกระบอก และมีไว้เพื่อการฝึกฝนเท่านั้น ส่วนจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องที่วัดโอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.นุชรา สิทธินอก ซึ่งเป็นแม่บ้านที่ดูแลบ้านของ ร.ท.ฐิติทัตน์หรือไม่นั้น เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน
       มีรายงานข่าวระบุว่า จากการสอบถามเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน 23 กระบอกของ ร.ท.ฐิติทัตน์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธว่าไม่มีเจตนาทำผิด โดยใน 23 กระบอกมีทั้งอาวุธปืนที่เป็นของตนเองและที่เพื่อนนำมาฝากไว้ แต่ยืนยันว่าในส่วนที่ตนครอบครองนั้นมีใบอนุญาตทุกกระบอก ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 
    ในส่วนประเด็นเกี่ยวกับการทุจริตเงินที่จะนำมาใช้ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนานั้น ร.ท.ฐิติทัตน์ ยังคงยืนยันกับตำรวจว่าไม่มีส่วนรู้เห็น หรือเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินจำนวน 25 ล้านบาทที่วัดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้โอนไปยังบัญชีของ น.ส.นุชราแต่อย่างใด รวมถึงประเด็นที่มีการเปลี่ยนชื่อปลายทางบัญชีจากชื่อมารดาของ ร.ท.ฐิติทัตน์ เป็นชื่อของ น.ส.นุชรา และข้อสงสัยเกี่ยวกับการกรณีที่มีการใช้บ้านพักของ ร.ท.ฐิติทัตน์ ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยมิสทินไปจดตั้งเป็นบริษัท ซึ่งเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวทั้งหมด ร.ท.ฐิติทัตน์เองยังคงอ้างว่าไม่เคยทราบเรื่องมาก่อน พร้อมกับอ้างว่าไม่สามารถติดต่อมารดาได้ โดยปกติมารดาจะมีบ้านอยู่ที่ต่างจังหวัดอีกหลังหนึ่ง และจะไปๆ มาๆ กับที่บ้านในซอยมิสทินเป็นประจำ เบื้องต้นจึงมีการตั้งข้อสังเกตว่ามารดาของ ร.ท.ฐิติทัตน์น่าจะเป็นผู้จัดการเรื่องราวทั้งหมด
     รายงานแจ้งอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้รับการประสานจากมารดาของ ร.ท.ฐิติทัตน์  ว่าจะขอเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงกรณีที่ถูกอ้างว่าเกี่ยวข้องกับเงินทุจริตของวัดในวันที่ 24  พ.ค.นี้.