‘ปชป.’ยํ้าหนุนแก้มาตรา256


เพิ่มเพื่อน    

  นิด้าโพลเผย ปชช.ร้อยละ 58 อยากให้มี รธน.ฉบับใหม่หรือแก้ไขทั้งฉบับโดยมี ส.ส.ร.เป็นผู้ยกร่าง "ส.ว.วันชัย" ย้อนกลับ ส.ส.ที่เห็นแก่อำนาจและตำแหน่ง รมต.มากกว่า ทำให้ร่างรธน.ล้มคว่ำแล้วโยนขี้ให้ ส.ว.และนายกฯ จวกยับตีสองหน้า เป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีตัวจริง ท้า ภท.-ปชป.ถอนตัวรัฐบาลก็ล้มคลืน "ปชป." โต้ ส.ว. สังคมรู้กันหมดใครจริงใจ ยันหนุนแก้ ม.256 สะเดาะกลอนให้รื้อ รธน.ง่ายขึ้น "พท." แนะทุกฝ่ายจับเข่าคุยแก้รายมาตราถึงจะสำเร็จ "ศรีสุวรรณ" นัดยื่น ป.ป.ช.เอาผิดสมาชิกรัฐสภาโหวตวาระ 3

    เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่” ระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคม 2564 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษาและอาชีพทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,313 หน่วยตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.49 ระบุว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ) รองลงมา ร้อยละ 25.13 ระบุว่าไม่ประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (จะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ทั้งฉบับ), ร้อยละ 6.48 ระบุว่าไม่ไปลงประชามติ, ร้อยละ 5.94 ระบุว่าไปลงประชามติ ไม่เลือกข้อใด (Vote NO) และร้อยละ 3.96 ระบุว่าไม่แน่ใจ
    เมื่อถามถึงบุคคลที่ควรเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญ หากมีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 59.86 ระบุว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ที่มาจากการเลือกตั้งทั่วประเทศ รองลงมา ร้อยละ 21.86 ระบุว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.), ร้อยละ 17.75 ระบุว่า ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหาจากมหาวิทยาลัย, ร้อยละ 11.88 ระบุว่าสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.), ร้อยละ 10.97 ระบุว่า ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหาจากรัฐบาล, ร้อยละ 9.75 ระบุว่า ส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิที่มาจากการสรรหาจากรัฐสภา และร้อยละ 8.38 ระบุว่าไม่ทราบ/ไม่แน่ใจ/ไม่ตอบ
    นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กว่า หลังรัฐธรรมนูญถูกคว่ำไป ทั้ง ส.ส. นักการเมือง นักวิชาการ ใครต่อใครก็รุมด่านายกรัฐมนตรี ส.ว. ว่าเป็นคนขัดขวาง ไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ บ้างก็ว่า ส.ว.เป็นพวกไดโนเสาร์รอวันสูญพันธุ์ และก็มีการเคลื่อนไหววางแผนล้ม ส.ว.หรือตัดแขนตัดขาตัดอำนาจ ส.ว. ผมว่าผิดเป้าผิดประเด็น แท้ที่จริงแล้วควรจะกล่าวหาด่าว่า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนด้วยกันเองที่ไม่มีความจริงใจ ไม่ยืนหยัดแข็งขันต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยอมสยบกับอำนาจและเกาะกับอำนาจหวังจะมีอำนาจต่อไป แล้วก็โยนความผิดให้กับ ส.ว.และนายกฯ ประเภทเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น อีกทั้งยังเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปี เกาะอยู่กับอำนาจ แท้ที่จริงคนพวกนี้ต่างหากเล่าที่ไม่ยอมออกจากอำนาจ แค่ไดโนเสาร์เต่าล้านปี ขยับนิดเดียวอำนาจก็เปลี่ยน การเมืองก็เปลี่ยน รัฐธรรมนูญก็แก้ได้
        "ถ้า ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชน ซึ่งอ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย ทุกคนทุกพรรคยืนหยัดอยู่กับประชาชนอย่างแท้จริงรวมตัวกันให้ได้ ยังไงๆ พลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แม้จะมีเสียง ส.ว. 250 ก็ไม่ได้มีความหมาย นั่นหมายความว่า ส.ส.และพรรคการเมืองบางพรรค บางคน บางพวก อยากมีอำนาจ อยากได้อำนาจ และอยากเกาะอยู่กับอำนาจ แล้วก็ไปโทษ ส.ว. และการดำรงอยู่ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ก็อยู่ด้วย ส.ส.และพรรคการเมือง ไม่เกี่ยวกับ ส.ว.เลย แค่พรรคการเมืองพรรคใดพรรคหนึ่งถอนตัว รัฐบาลก็ล้มครืน แต่ไม่กล้า ไม่แสดงออก ไม่แข็งขัน เพราะกลัวหลุดจากอำนาจ เพราะกลัวไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แล้วก็โยนขี้ให้ ส.ว. ร่วมกล่าวหาโจมตีผสมไปกับทั้งในสภาและนอกสภาว่า ส.ว.เป็นตัวขัดขวาง"
ท้า ภท.-ปชป.ถอนตัว
         นายวันชัยระบุอีกว่า การแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่สำเร็จและล้มคว่ำมาโดยตลอดนั้น มาจากพรรคการเมืองและนักการเมืองที่เห็นแก่อำนาจ เห็นแก่ตำแหน่งรัฐมนตรี มากกว่าเห็นแก่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำทีว่าอยากแก้ อยากมีรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ใจหนึ่งก็อยากอยู่กับอำนาจ และเกาะอยู่กับผู้มีอำนาจนานๆ ใจลึกๆ ที่แท้จริงของพรรคการเมืองและนักการเมืองเหล่านี้อยากอยู่ในอำนาจมากกว่าอยากแก้รัฐธรรมนูญ เป็นพวกตีสองหน้า แล้วโยนความผิดให้กับ ส.ว. ต่อแต่นี้ควรเลิกด่า ส.ว.ได้แล้ว เพราะ ส.ว.ไม่มีอำนาจไปกดดันใดๆ ที่จะให้รัฐบาลอยู่หรือไป หรือให้รัฐบาลทำอะไรได้ คนที่จะกดดันได้อย่างแท้จริงก็คือพรรคการเมืองอย่างภูมิใจไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์นั่นแหละ เพราะเป็นไดโนเสาร์ที่เกาะอยู่กับอำนาจอย่างแท้จริง ซึ่งกำลังจะกลายพันธุ์
    นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราว่า หลังจากที่รัฐธรรมนูญฉบับร่างแก้ไขเพิ่มเติมเพิ่งตกไป  ได้มีการคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างไม่เป็นทางการว่า เมื่อยังมีนโยบายในการแก้ไข รธน. ควรจะหารือถึงการแก้ไขรายมาตราต่อไป ขณะนี้เข้าใจว่าในแต่ละพรรคได้มีการศึกษาเบื้องต้นกันแล้ว แต่ยังต้องฟังจากภาคีเครือข่ายอื่นๆ ด้วยว่าจะมีการหาทางออกอย่างไร ในส่วนของพรรค ปชป. ยังยึดหลักการสำคัญในการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญเป็นประเด็นหลัก เพื่อให้เป็นฉบับที่ประชาชนมีส่วนร่วม จะได้ไม่ไปสู่ความขัดแย้ง เห็นว่าควรจะมีการหารือกันโดยเร็วในการแสวงหาความเห็นพ้องกันในการแก้รายมาตรา
    นายชินวรณ์กล่าวว่า พรรค ปชป.เห็นว่าควรแก้มาตรา 256 เพื่อสะเดาะกลอนให้แก้ง่ายก่อน โดยตัดหมวด 15/1 ออกไป จะไม่มีปัญหาเหมือนที่ผ่านมา และการแก้ไขในส่วนอื่นจะตามมา รวมทั้งมาตรา 272 ที่ให้อำนาจ ส.ว.เลือกนายกฯ ด้วย เมื่อเสนอแก้เป็นรายมาตราแล้ว ใครเห็นด้วยกับมาตราไหนก็สามารถแก้ไขได้  ใครไม่เห็นด้วยกับมาตราไหนต้องว่ากันไป แต่ควรรับฟังความเห็นก่อน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้ง เพราะยังมีคำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ และในวันที่ 23 มีนาคมช่วงบ่าย จะไปร่วมเสวนาโต๊ะกลมของภาคีเครือข่ายรัฐธรรมนูญด้วย
    “ควรจะเริ่มต้นจากวิปรัฐบาลหารือกันก่อน จากนั้นก็เป็นวิปสามฝ่ายคือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. มาหารือกัน เพราะวันนี้ทุกคนตระหนักว่าการเมืองยังมีความขัดแย้ง มีการชุมนุมอยู่ คนที่มีความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง ควรที่จะมาร่วมกันคิดในเรื่องนี้” นายชินวรณ์กล่าว
    เมื่อถามว่า มองอย่างไรที่ ส.ว.ระบุว่าเป็น ส.ส.ที่ทำให้ร่างรัฐธรรมนูญต้องตก ไปไม่ใช่ ส.ว.เป็นคนทำ นายชินวรณ์กล่าวว่า ไม่อยากตอบโต้ ส.ว. แต่สังคมรับรู้อยู่ว่าใครมีความจริงใจในการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ถอนฟืนออกจากกองไฟ ใครลงมติอย่างไรก็ทราบกันอยู่แลว ก็ต้องรับผิดชอบเอง
เตือน"ป๊อก-ทอน"ไม่มีแผ่นดินอยู่
    นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวไกล ไปบรรยายพิเศษให้นักศึกษา ม.ขอนแก่นฟัง ในหัวข้อ “การแก้ไขรัฐธรรมนูญไทยสู่ประชาธิปไตย หรือเสริมแกร่งเผด็จการ” ว่า เห็นนายปิยบุตรเดินสายปลุกปั่นไปทั่วประเทศ สร้างความเชื่อแบบผิด ๆ หวังที่จะให้เกิดสงครามกลางเมือง หมกมุ่นอยู่แค่การปฏิวัติฝรั่งเศส เพียงเพราะต้องการให้คนไทยฆ่ากันตายเหมือนที่ปฏิวัติฝรั่งเศส แบบที่ตอนนี้ยุยงกลุ่ม redem ให้ก่อนจลาจลผ่านสื่อโซเชียล ตนเชื่อว่าจิตใจของนายปิยบุตรมีแต่ความอำมหิต เหี้ยมโหด แบบที่ไม่เหมาะสมที่จะใช้คำนำหน้าว่าอาจารย์ เยาวชนที่เชื่อการปลุกปั่นทุกวันนี้มีสภาพเป็นอย่างไร นายปิยบุตรเคยเหลียวแลพวกเขาหรือไม่ นี่หรือคือจิตใจของครูบาอาจารย์
    “ทุกวันนี้นายปิยบุตรเห็นค่าของเด็กๆ ที่หลงผิดเชื่อการปลุกปั่นเป็นเพียงเครื่องมือทางการเมือง และนายปิยบุตรกำลังรอศพแรกที่จะเกิดขึ้น หากเกิดความรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิต นำไปเป็นบันไดเหยียบขึ้นไปสู่อำนาจที่ตัวเองต้องการ ผมอยากถามนายปิยบุตรว่า ถ้าคิดว่าประเทศฝรั่งเศสมีการปกครองที่ดีกว่าแผ่นดินไทย เหตุใดถึงไม่ย้ายไปอยู่ที่นั่นกับภรรยา ในเมื่อตัวเองก็มีภรรยาเป็นชาวฝรั่งเศสอยู่แล้ว จะมาทนอยู่ในประเทศที่ไม่มีความศิวิไลซ์ทำไม”นายสิระกล่าว
    นายสิระกล่าวต่อว่า เชื่อว่าคนไทย 99% ไม่ได้เดือดร้อนกับระบอบการปกครองของประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างร่มเย็นและสงบสุข จนกระทั่งคนไทยเริ่มรู้จักคนชื่อธนาธรและปิยบุตร คนไทยก็ไม่เคยมีความสุขอีกเลย แนะนำให้หันกลับไปมองตัวเองและพวกพ้องว่าจริงๆ แล้วคนที่เป็นตัวปัญหาของประเทศในขณะนี้คือใคร นายปิยบุตรต้องหยุดมโนว่าคนไทยเขาเห็นด้วยกับตัวเองทั้งหมด เพราะพวกโง่ๆ ที่เชื่อฟังยังมีไม่ถึง 1% ของคนทั้งชาติเลย และคนไทยส่วนใหญ่เขารู้ทันว่าเป้าหมายของนายปิยบุตรและธนาธรคืออะไร แต่มั่นใจว่า กว่าจะถึงเป้าหมาย แผ่นดินไทยคงไม่มีชื่อคน 2 คนนี้เหยียบให้หนักแล้ว
    น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หลายฝ่ายออกมาพูดตรงกันว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญปัจจุบันถูกออกแบบมาให้แก้ไขได้ยาก การแก้ไขรายมาตราจึงเป็นทางออกที่สามารถดำเนินการได้ทันที แต่ประเด็นสำคัญของการแก้ไขรายมาตรานั้น หากจะผลักดันให้เกิดขึ้นจริงได้ ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว. ต้องหันหน้าเข้าหากัน และพูดคุยจนตกผลึกว่าจะปรับปรุงรัฐธรรมนูญในมาตราใดก่อน ประเด็นใดที่ยังไม่เห็นตรงกันก็เอาไว้ทีหลัง เพราะถ้ายังไม่เห็นตรงกันแล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ วันนี้ทุกคนเห็นแล้วว่ารัฐธรรมนูญปัจจุบันมีส่วนที่เป็นปัญหา จึงถึงเวลาแล้วที่จะหันหน้าพูดคุยกัน ยึดประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลักตั้งต้นที่ประโยชน์ของประชาชน แล้วดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นทางออกของประเทศ ไม่เช่นนั้นเราจะยังคงวนอยู่กับความขัดแย้งเดิมๆ ต่อไป
พท.หนุนแก้รายมาตรา
    นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ใจจริงอยากให้แก้ทั้งฉบับ เพราะรัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่มีการวางกับดักไว้ทุกจุด แต่เมื่อรัฐสภาตีตกไปเราก็ยอมรับ แต่ยืนยันมีนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลเสนอแก้รายมาตรานั้น ก็ต้องมาดูกันว่าจะแก้อะไรบ้าง ในส่วนของพรรค พท. มองว่ามีหลายประเด็นที่ต้องแก้ไข อะไรที่ตรงกันก็ร่วมกันแก้ แต่ถ้าประเด็นไหนไม่ตรงพรรค พท.ก็จะเสนอของเราในหลายประเด็น อาทิ ที่มาองค์กรอิสระ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ควรดำรงต่อหรือไม่ ที่สำคัญประเด็นที่มา ส.ว.ต้องแก้ไข และ ส.ว.ต้องไม่มีส่วนในการเลือกนายกฯ ขอว่าพรรครัฐบาลอย่าแก้เฉพาะที่ตัวเองได้ประโยชน์เท่านั้น ให้แก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนด้วย
      นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.การต่างประเทศ กล่าวว่า คนไทยยังไม่สิ้นหวังกับการเดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เชื่อว่าความเชื่อมั่นในประเทศที่ง่ายและลงทุนน้อยที่สุด และคนไทยทุกคนจะได้ประโยชน์ คือการมีกติกาที่เป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย และทำให้การเลือกตั้งสามารถสะท้อนเจตจำนงของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งสามารถเริ่มต้นจากการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราใน 2 ประเด็นคือ 1) แก้เพื่อให้สภาผู้แทนฯ เป็นผู้ให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ และ 2) แก้ไขระบบเลือกตั้งให้เป็นธรรมและไม่ซับซ้อน กลับไปใช้ระบบสัดส่วนและบัตร 2 ใบที่เคยใช้มาก่อน ซึ่งถ้าสามารถแก้ไขใน 2 ประเด็นนี้สำเร็จ จะทำให้กติกาเป็นธรรมขึ้น มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และจะทำให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
    "แม้งานข้างหน้ายังยาก แต่การทำเพื่อบ้านเมืองและคนไทยทุกคนแม้จะยากแต่ก็ต้องเดินหน้า และเหลือเวลาประมาณไม่เกินสองปีก็ต้องมีการเลือกตั้งครั้งต่อไป ดังนั้นใครเขียนนโยบายเร่งด่วนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วได้ผลักดันให้สำเร็จหรือไม่ เชื่อว่าพฤติกรรมและความจริงใจของแต่ละพรรคการเมืองจะเป็นปัจจัยในการตัดสินใจในวันเลือกตั้ง ใครพูดและทำอะไรไว้ประชาชนคงจำได้" นายนพดลกล่าว
    คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย กล่าวถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่พรรคประชาธิปัตย์เสนอเดินหน้าแก้ไขรายมาตราว่า ยอมรับว่าเสียดายที่มีการล้มการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยให้ประชาชนแก้ไข ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำความเข้าใจได้ยาก ไม่เข้าใจว่าทำไปเพื่ออะไร เรื่องของแนวทางนั้น ส่วนตัวยังคิดไม่ออกว่าจะเดินหน้าอย่างไร เพราะกระบวนการต่างๆ ที่เดินกันมาจนถึงวาระ 3 จะต้องกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะสิ่งสำคัญที่ต้องคิดกันคือการยอมรับของประชาชน ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ระบุเตรียมพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยและ ส.ว.เพื่อเดินหน้ายกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น อย่าไปหวังกับคนชื่อไพบูลย์ เพราะเขาทำทุกอย่างเพื่อรักษาอำนาจให้กับผู้สืบทอดอำนาจ
    นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แสดงความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำประชามติว่า ตนเคยบอกคุณหญิงสุดารัตน์หลายครั้งแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความจริงใจและสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด ส่วนกรณีที่รัฐสภาคว่ำร่างรัฐธรรมนูญนั้น ก็เพราะสมาชิกส่วนใหญ่มองว่ากระบวนการต่างๆ ควรเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล เข้าใจว่าช่วงนี้คุณหญิงสุดารัตน์กำลังทำพรรคการเมืองใหม่ จำเป็นจะต้องยึดพื้นที่สื่อเอาไว้เพื่อให้มีกระแส แต่อยากให้ดูข้อเท็จจริงบ้าง ไม่เช่นนั้นประชาชนอาจจะไม่สนับสนุน อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์คิดบวกบ้าง
    มีรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 22 มี.ค.64 เวลา 10.00 น. สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ นนทบุรี เพื่อสอบเอาผิดสมาชิกรัฐสภาที่ให้ความเห็นชอบ (ร่าง) รธน.วาระ 3 โดยไม่มีการให้ประชาชนทำประชามติเสียก่อน ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ตาม รธน.ม.234 (1) และ ม.235 ประกอบ พ.ร.ป.ป.ป.ช.2561.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"