แก้สันดานก่อนแก้ รธน.


เพิ่มเพื่อน    

      ครับ...

            เห็นม็อบ ๓ นิ้วชุมนุมเมื่อคืนวันเสาร์แล้ว สรุปได้ว่ามีคนอยากเห็น...หายนะ!

            มีนักการเมืองต้องการใช้ประโยชน์จากคนตาย

            หลายครั้งที่เราได้ยินจากฟากฝั่งนักการเมือง เรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุม แต่กลับไม่มีใครพูดถึงการจัดระบบการชุมนุม

            ปล่อยให้ ๓ นิ้วม็อบกันอย่างไร้ทิศทาง

            ม็อบนี้ไม่ใช่ม็อบไม่มีแกนนำ

            แต่เป็นม็อบที่แกนนำไม่ยอมออกหน้า เพราะเจตนาให้เกิดความรุนแรง

            ถ้าจะถามหาความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  อย่าเพิ่งไปถามเรื่อง หลักสากลในการสลายการชุมนุม อย่างที่ "อังคณา นีละไพจิตร" พุ่งเป้าไปที่ตำรวจ

            กระสุนยาง

            แก๊สน้ำตา

            พวกนี้ล้วนมาทีหลัง

            และอย่าโลกสวย เพราะในยุโรป อเมริกา เพิ่งจะใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตาคุมม็อบมาหยกๆ

            แต่เริ่มแรกต้องไปดูว่าใครมีส่วนให้เกิดการชุมนุม 

            เพราะเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบ และน่าละอายอย่างที่สุด

            "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" โพสต์ทวิตเตอร์  @Thanathorn_FWP

                "ขอเชิญชวน 'ราษเก็ต' ทั่วทุกหมู่เหล่า มารวมตัวกันเย็นนี้ที่สนามราษฎร์ หกโมงเย็นถึงสามทุ่ม ใช้เสรีภาพและศิลปะของเราวาดลวดลายแสดงออกทางการเมืองอย่างสันติ ส่งสารของพวกเราดังๆ ว่า 'ปล่อยเพื่อนเรา' #คณะราษเก็ต #ม็อบ ๒๐ มีนา"

            เผื่อบางคนจะยังไม่เข้าใจว่า "ราษเก็ต" คืออะไร

            สนามหลวงที่สามสัส และสามนิ้ว ค่อนแคะว่าเป็นสนามราษฎร์ อ้างว่าราษฎร์ไม่มีสิทธิ์เข้าไปใช้พื้นที่นั้น เป็นที่เล่นสเกตบอร์ด เซิร์ฟสเกต ของคนหนุ่มสาว มาเป็นเวลาแรมปีแล้ว

            ทุกเย็น ทุกค่ำ คนเหล่านี้ไปรวมตัวกันเต็มท้องสนามหลวงเพื่อออกกำลังกาย

            และ "ธนาธร" ฉวยโอกาส แปลงที่ออกกำลังกาย เป็นพื้นที่ชุมนุม เรียกระดมคน อ้างว่าเป็นกลุ่ม "ราษเก็ต" ไปชุมนุมกันอย่างไร้ทิศทาง

            ที่สำคัญ "ธนาธร" เป็นคนชักชวน แต่ตัวเองกลับไม่ไป

            สุดท้ายเละ!

            นักสิทธิมนุษยชน นักการเมือง นักวิชาการ ดาหน้าถล่มตำรวจ ด่ารัฐบาล ว่าใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม

            ถามจริง...ติดตามดูการชุมนุมตั้งแต่ต้นหรือเปล่า

            ม็อบร้อยชื่อนี้ มีเจตนาจะสร้างความรุนแรงตั้งแต่แรกแล้ว

            เพจ REDEM ที่เคลมว่า เป็นคนจัดการชุมนุม โดยไม่มีแกนนำ สั่งยุติการชุมนุมเมื่อเห็นว่าทุกอย่างอยู่เหนือการควบคุม

            ประกาศให้ผู้ชุมนุมกลับบ้าน

            ซึ่งก็ไม่แปลกนี่เป็นวิธีการที่ใช้มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ม็อบคณะราษฎร ๖๓ เรื่อยมาจนถึง ม็อบ REDEM

            และเมื่อเกิดความรุนแรงขึ้น จะไม่มีการแสดงความรับผิดชอบใดๆ จากผู้จัดการชุมนุม ด้วยอ้างว่าได้สั่งเลิกชุมนุมไปก่อนแล้ว

            มันซ้ำซาก

            นักการเมือง นักวิชาการ โหนม็อบก็แผ่นเสียงตกร่องมาตลอด

            หลักปฏิบัติที่ตำรวจใช้ควบคุมการชุมนุม ไม่มีอะไรใหม่

            เคยใช้มาแบบไหน ก็ยังใช้แบบนั้น

            เช่น อ่านกฎหมายให้ฟังว่า การชุมนุมผิดหรือถูกอย่างไร

            ประกาศเตือนห้ามเข้าใกล้จุดควบคุม

            ละเอียดถึงขั้นเตือนว่า หากการชุมนุมเป็นไปโดยไม่สงบ เช่นขว้างปาระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ จะฉีดน้ำแรงดันสูงใส่

            เรื่อยไปจนถึงฉีดน้ำผสมสารเคมี

            เมื่อไม่ฟัง ทำลายข้าวของ ตำรวจก็ต้องปฏิบัติตามลำดับขั้น ไปจนถึงการใช้กระสุนยาง

            การใช้กระสุนยางไม่ใช่จู่ๆ ใช้ แต่เพราะม็อบเถื่อนยิงลูกแก้วใส่ ขว้างระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ใส่ตำรวจ เป็นว่าเล่น

            เหตุการณ์ลักษณะนี้ และวิธีการจัดการในลักษณะนี้  ไม่ได้มีในไทยประเทศเดียว อเมริกา ยุโรป ก็ทำแบบนี้หมด เพราะมันเป็นหลักสากล

            ฉะนั้นอย่ากระแดะ!

            "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่า    “ขอประณามเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำแบบนี้ นี่มันเกินกว่าเหตุไปมาก”

            หาผ้าถุงมาคลุมหัวดีไหม

            ปลุกให้เด็กไปชุมนุม แต่ตัวเองไม่ไป

            พอเกิดความรุนแรงโผล่มาประณามเจ้าหน้าที่ หาว่าทำเกินกว่าเหตุ

            ม็อบราษเก็ต บ้าบออะไรนี่ พกระเบิดปิงปองไปชุมนุม  รื้อพระบรมฉายาลักษณ์ ทำลายซุ้มต้นไม้ เผากระถาง จนถนนราชดำเนินกลายเป็นเมืองเถื่อน 

            เคยตำหนิการกระทำของผู้ชุมนุมบ้างหรือไม่

            หรือแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทย "อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด" โวยวายว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับประชาชนโดยไม่เลือกเป้าหมายในการปฏิบัติการหรือไม่

            ด่าว่าโดยสามัญสำนึกแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรคิดว่าประชาชนเป็นเป้าซ้อมการยิงกระสุนยาง

            ถามนายอนุสรณ์ เลิกกะล่อนซะทีได้ไหม

            จำได้หรือเปล่าว่า การชุมนุม กปปส. มีทั้งแก๊สน้ำตา   ห่ากระสุนยาง          และประชาชนที่เสียชีวิตจากระเบิดและกระสุนจริงหลายสิบคน

            นั่นมันรัฐบาลเพื่อไทยไม่ใช่หรือ

            หรือว่ากับประชาชนที่สนับสนุนการเมืองอีกฝ่าย  โดนกระสุนยาง ระเบิด ตายไปไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่พวกตัวเอง

            ความรุนแรง ใครก็ไม่อยากให้เกิด แต่เมื่อเกิดแล้ว ต้องไปดูข้อเท็จจริงว่าเกิดเพราะอะไร

            เบื้องต้นทำไมม็อบที่ธนาธรปลุกขึ้นมาถึงอยากปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ด้วยการเป็นฝ่ายทำลายแนวป้องกัน และมีพฤติกรรมคึกคะนองดุดัน

            ที่ผ่านมาม็อบเหลือง, แดง, กปปส. ไม่มีพฤติกรรมเช่นนี้

            อังคณา นีละไพจิตร, อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ก็รู้ไม่ใช่หรือว่า หากม็อบร้อยชื่อนี้ ตั้งเวทีชุมนุมปราศรัยให้ความรู้ผู้มาชุมนุมโดยสันติ ตำรวจไม่มีทางยิงกระสุนยางใส่

            เพราะถ้าตำรวจไปทำแบบนั้น ใครก็ไม่เห็นด้วย

            ฉะนั้นอย่าสร้างภาพให้ตัวเองดูโง่

            พม่ากำลังจะเป็นซีเรีย

            มีคนไทยบางกลุ่มอยากให้ไทยเป็นแบบพม่า

            หยิบเอาการแก้รัฐธรรมนูญขึ้นมาเป็นเงื่อนไขปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย 

            ถามหน่อยมีรัฐธรรมนูญฉบับไหนที่นักการเมืองบอกว่าไม่ต้องแก้บ้างหรือไม่

            ก็เห็นเรียกร้องกันทุกรัฐบาล

            ที่สำคัญแก้เพื่อตัวเองกันทั้งนั้น

            นักการเมืองไม่แก้สันดานตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญไปก็ไร้ประโยชน์.  


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"