ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" storage.thaipost.net Line ID:@thaipost ในที่สุดก็มาถึง 22 พ.ค.2561 ครบ 4 ปี การรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อปี 2557 ที่เป็นผลให้เกิดรัฐบาลของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หัวหน้า คสช. เข้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยตัวเองสืบต่อจนถึงปัจจุบัน ตัวเลข 4 ปี มีความสำคัญตรงที่เป็นระยะเวลานานเท่ากับ 1 สมัยของการบริหารงานโดยรัฐบาลปกติ ซึ่งการที่ คสช.เข้ามาใช้อำนาจบริหารจนครบและจะเกิน 4 ปีในวันถัดไป เป็นอีกครั้งที่รัฐบาลจากการรัฐประหารเข้ามาบริหารนานกว่ารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งปกติเสียอีก...๐ ด้วยเหตุดังนี้ ครบ 4 ปี ประชาชนย่อมเห็นผลงานต่างๆ ที่ชัดเจนขึ้นว่าดีอย่างไร-ล้มเหลวอย่างไร ใช้อำนาจอภิสิทธิ์เหนือกว่ารัฐบาลอื่นด้วยมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ลากยาวให้ใช้ต่อยันรัฐธรรมนูญถาวร ในการออกคำสั่งใดๆ ก็ได้ ใช้อำนาจในการแต่งตั้งบุคคลต่างๆ เข้ามาทำงานได้ตามใจ โดยเฉพาะในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่ไม่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนเลย หรือถอดถอนบุคคลใดก็ได้ และมีคำสั่งในการปิดกั้นกิจกรรมทางการเมืองต่างๆ จนถึงทุกวันนี้ แม้บอกว่าจะมีการเลือกตั้งปีหน้า 2562 ก็ตาม...๐ เมื่อผลงานที่ประชาชนมองว่าไม่ดีพอ เทียบไม่ได้กับอำนาจพิเศษที่มีอยู่ นักบู๊สู้ คสช.จึงทยอยออกมาซัด ไม่ว่าจะเป็นแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ออกมาแถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์ แต่โดนกลับตั้งข้อหาต่างๆ นานา ต้องเข้ารายงานตัวที่กองปราบปราม ที่แม้แต่ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังถามดังๆ ไปยัง คสช.ว่าถ้าพรรคเพื่อไทยชม คสช.ทำงานดีมากๆ จะผิดหรือไม่ การวิจารณ์ในทางลบแล้วบอกว่ากระทบความมั่นคงนั้น ไม่เพียงพอและอันตราย เรื่องความมั่นคงต้องแยกเป็นส่วนหนึ่ง...๐ หรือกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่นำโดย “รังสิมันต์ โรม” กับพวก ตั้งเป้าหมายชุมนุมเดินขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาล และชุมนุมเพียง 21-22 พ.ค.เท่านั้น ไม่ได้ตั้งเป้าหมายยืดเยื้อ “พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล” รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ยืนยันว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย อ้างการข่าวว่ามีกลุ่มหัวรุนแรงเคลื่อนย้ายอาวุธหนักสร้างสถานการณ์ รวมถึงขั้นประกาศคุมเข้มสื่อมวลชนที่จะทำข่าวกลุ่มคนอยากเลือกตั้งอย่างกะทันหัน ด้วยการให้ไปรับปลอกแขนสัญลักษณ์ที่ตำรวจออกให้ แถมเตรียมไว้ไม่เพียงพอด้วยซ้ำ แล้วบอกทำนองว่า ถ้าไม่มีใส่แต่ไปอยู่ในที่ชุมนุมอาจถูกดำเนินคดีอีก...๐ นอกจากนี้ยังปรากฏรายงานจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ที่ได้เปิดเผยว่า มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปจับตาควบคุมผู้ที่เคยชุมนุมอยากเลือกตั้งไม่ให้มาชุมนุมหลายราย รวมถึงคนเสื้อแดงและกลุ่มนักอนุรักษ์บางกลุ่ม บางรายโดนเจ้าหน้าที่หลายสิบนายไปเยือนบ้าน เฮ้อ ขนาดผู้ชุมนุมเพียงหลักร้อย ชุมนุมทีไรให้เย้ยได้ทุกครั้งว่าคนน้อย แต่เหตุใดต้องสกัด ทำอะไรเสียใหญ่โตเกินเหตุกับการชุมนุมเพียง 2 วัน ไม่เว้นแม้แต่สื่อฯ ก็ถูกหาประเด็นมาให้เป็นเรื่องฉุกละหุก ทั้งที่ต้องทำงานตามหน้าที่ เพื่ออะไร...๐ เปลี่ยนเรื่องไปดูที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดย “วรวิทย์ สุขบุญ” เลขาธิการ ป.ป.ช. แถลงผลการตรวจสอบทรัพย์สิน “ระพิพรรณ พงศ์เรืองรอง” อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภรรยา “อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง” แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดย ป.ป.ช.มีมติว่า “ระพิพรรณ” มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติกว่า 42 ล้านบาท จึงส่งเรื่องให้อัยการส่งฟ้องศาลต่อไป เพื่อพิจารณายึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน ขณะที่สามีต้องสู้คดีก่อการร้าย ภรรยาต้องมาสู้คดีร่ำรวยผิดปกติด้วย หรือนี่จะเป็นผลกรรมของครอบครัว “สู้แล้วรวย” (ผิดทาง?) จริงๆ...0

...นายชาติสังคม