20 มี.ค. 64 - นายนคร มาฉิม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เรียกตัวเองว่า เป็นนักการเมืองแถวหน้าฝ่ายประชาธิปไตย ได้โพสต์เฟซบุ๊ก โดยมีเนื้อหาดังนี้
รัฐธรรมนูญเมื่อแก้ไม่ได้ และไม่ยอมให้แก้ ก็ต้องโค่นเผด็จการทรราชทิ้ง ทั้งระบอบ แบบขุดรากถอนโคน
1. เห็นการกระทำ และพฤติกรรม ของนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ทั้ง ส.ส. ส.ว. ที่ได้รับการแต่งตั้งจากเผด็จการ ทรราช คสช. รวมไปถึง คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และผู้มีอำนาจ บงการรัฐบาลนอกรัฐธรรมนูญ ใช้เล่ห์เพทุบาย โกหก หลอกลวง เล่นลิเกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว หาความจริงใจไม่ได้แม้แต่น้อย
จึงขอกราบเรียน พี่น้อง ประชาชน ฝ่ายประชาธิปไตย และ พรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่ารัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ มันไม่ใช่รัฐธรรมนูญ แต่มันคือ กฎของโจรกบฏ เพราะ
1. ที่มา
มันมาจากคณะรัฐประหาร คสช. นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สมคบคิดกับนายทุน ขุนศึก ศักดินาอำมาตย์ ข้าราชการระดับสูง พรรคการเมืองและนักการเมืองฝ่ายเผด็จการ รวมทั้งองคาพยพของระบอบเผด็จการ ศักดินาล้าหลัง สร้างขึ้นมาเพื่อ สถาปนาระบอบเผด็จการให้มั่นคง ถาวร ใช้เป็นกฎ ในการปกครองประเทศ ให้อยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ตลอดไป
2. เนื้อหา
รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช. ปี 60 นี้ มีเนื้อหาที่ไม่เป็นประชาธิปไตยเลย แถมสร้างอุปสรรคขัดขวาง การพัฒนาประเทศและทำลายประชาธิปไตยถึงฐานราก ทำลายหลักสิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค ภราดรภาพ อย่างย่อยยับ
ในขณะที่ ฝ่ายเผด็จการ ใช้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 ย่อยสลาย ทำลายประชาธิปไตย ทำลายอำนาจของประชาชนได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้สร้าง และสถาปนา ระบอบเผด็จการ ให้เข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน พร้อมทั้งวางเครือข่าย ในองค์กรอิสระ กระบวนการยุติธรรมข้าราชการฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร ในทุกระดับ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการปกครอง กดขี่ ประชาชนตลอดไป
ให้ประชาชนอยู่เป็นทาส ไพร่ ของทรราชชั่วลูกชั่วหลาน. ส่วนข้าราชการที่ดี มีความรู้ ความสามารถ ที่รักประชาชน รักประชาธิปไตย แต่ไม่มีเส้นสาย ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอ จะไม่มีความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่ง หน้าที่ เท่าที่ควร เป็นได้เพียงลูกน้อง ผู้ใต้บังคับ บัญชา เท่านั้น ทั้งที่หลายคนมีความรู้ความสามารถ ดีกว่าลูกท่าน หลานเธอ
3. เป้าหมาย
รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 นี้ คือหัวใจ คือแกนหลักของระบอบเผด็จการ ที่ได้วางโครงสร้างอำนาจ โครงสร้างการบริหารประเทศ อย่างรอบคอบ แยบยล รัดกุม ครอบคลุม ทุกมิติ และทุกภาคส่วนของสังคมไทย
ฝ่ายเผด็จการใช้เป็นแผนแม่บท ในการปกครองบ้านเมือง และสืบทอดอำนาจ เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ให้ตนเอง และพวกพ้อง ลิ่วล้อบริวารของเผด็จการตลอดไป
พวกเขาจะไม่ยอมให้ประชาชนมีอำนาจ ไม่ยอมให้ประชาชนมีความรู้ เพราะหากประชาชนมีความรู้ จะปกครองยาก ต้องให้ประชาชน โง่ จน เจ็บ อยู่อย่างนี้ จะได้ง่ายต่อการปกครอง เวลาเอาเงินไปแจกแบบให้ทานผ่านบัตรประชารัฐ ประชาชนจะได้สยบยอม เป็นทาสรัฐบาลเผด็จการทรราชนี้ ตลอดไป
เผด็จการรู้ดีว่า กว่าจะได้รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการทรราช ที่สมบูรณ์แบบ แนบเนียน แยบยล ใช้หลอกลวงคนไทย และสังคมโลก ใช้เป็นเสื้อคลุมว่าเป็นประชาธิปไตยเช่นนี้ พวกเขาต้องลงทุนไปอย่างมหาศาล เกือบหมดหน้าตัก พวกเขาจึงหวงแหน รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการ คสช ปี 60 นี้ยิ่งกว่าสิ่งใด
เหตุนี้พวกเขาจึงไม่แก้ไข และไม่ยอมให้มีการแก้ไข ทุกอย่างเป็นเพียงการเล่นละครหลอกลวงประชาชน เพื่อซื้อเวลา และผ่อนคลายการกดดันจากมวลชนที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเท่านั้น
นอกจากพวกเขาไม่แก้ ไม่ยอมให้แก้ แล้วพวกเขาประเมินสถานการณ์ว่า ม็อบที่มาเรียกร้อง
1. ให้ ประยุทธ์ ออกไป
2. ให้ แก้ไขรัฐธรรมนูญ
3. ให้ ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
อ่อนล้าลง มีมวลชนน้อยลง พวกเขาจึงเปิดยุทธการเอาคืน ด้วยการไล่ล่า จับกุม คุมขัง ฟ้องร้องดำเนินคดี ด้วยการใช้มาตรา 112 เป็นหลัก กลั่นแกล้ง ไม่ยอมให้ประกันตัวอย่างไม่สมเหตุผลทั้งที่ ขัดต่อหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม
ที่ร้ายแรงที่สุด คือมีพฤติกรรม คุกคาม ข่มขู่ ต่อชีวิตของผู้ถูกคุมขัง เช่นกรณี รุ้ง เพนกวิน และทนายอานนท์ จนต้องร้องขอชีวิต และเขียนจดหมายลาตายไว้ล่วงหน้า ซึ่งพวกเราจะต้องทำทุกอย่างทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พวกเขาตาย
2. เห็นนักการเมืองฝ่ายค้าน นักคิด นักเขียน นักวิชาการฝ่ายประชาธิปไตยพยายามแสดงบทบาท ว่าแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่ได้ ก็จะเสนอขอแก้ไขอีกครั้ง อาจเป็นรายมาตรา ฟังดูดี แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบรรลุเป้าหมาย เพราะหากพวกเราฝ่ายประชาธิปไตยให้การ ยอมรับว่า รัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการทรราช คสช ปี 60 นี้ เป็นกฎหมายสูงสุด ทั้งที่ ความจริงมันคือ กฎของโจรกบฏ ที่ปล้นประเทศ ปล้นประชาชน ด้วยการทำรัฐประหาร ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ชอบธรรม ทั้งที่มา ทั้งเนื้อหา และ เป้าหมาย พวกเราก็จะแพ้อยู่แบบนี้ตลอดไป ไม่มีวันชนะ เพราะพวกท่านยอมรับกฎของโจรกบฏ คสช. ว่าเป็นกฎหมาย ใจของพวกท่านก็แพ้แล้ว และจะไม่มีวันชนะ ภายใต้กฎ กติกา ของโจรเลย
ทางเดียวเท่านั้นที่ประชาชนและพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยจะชนะ คือต้องไม่ยอมรับกฎของโจรกบฏว่าเป็นกฎหมาย และต้องร่วมมือกันทุกวิถีทาง ทุกรูปแบบเพื่อโค่นเผด็จการทรราช ให้สิ้น แล้วสร้างกฎหมาย ที่เป็นของประชาชน โดยประชาชน และ เพื่อประชาชน ที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ที่สอดคล้องกับสังคมโลกเท่านั้น เราจึงจะได้ระบอบประชาธิปไตยมาใช้เป็นเครื่องมือในการปกครองประเทศได้
ดังที่ อดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา โธมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าวไว้ว่า “เมื่อความอยุติธรรม กลายเป็นกฎหมาย การต่อต้าน ก็เป็นหน้าที่”
จึงเป็นหน้าที่ของทุกคน ที่จะสู้ทุกรูปแบบ ทุกวิถีทาง ร่วมกันล้างมรดกบาปของเผด็จการทรราชให้ได้ เพราะสถานการณ์นี้ มันคือสถานการณ์ปฏิวัติ มันคือสถานการณ์สงคราม สงครามฝ่ายประชาธิปไตย กับเผด็จการ ไม่ใช่ที่แสดงสำนวนโวหาร ดูหล่อ ดูสวย ดูเท่ห์ ดี เด่น ดังไปวันๆ
คนโง่เท่านั้น ที่จะสู้ในเกมเดิม ในรูปแบบเดิม ทั้งที่แพ้มาตลอด
คนรุ่นใหม่ นักสู้ที่ชาญฉลาด เขาต้องการเปลี่ยนเกม ไม่ใช่แค่เปลี่ยนตัวผู้เล่น ในกติกาที่ไม่เป็นธรรม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |