พม่า...
สู่ภาวะ "สงครามแยกเมือง"
เข้าทางสหรัฐฯ
ช่วยกระพือฮือโหมผ่านขบวนการเอ็นจีโอ "โซรอส" และซีไอเอ "เนด" การเมืองภาคประชาชนอเมริกัน
กลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า ฉวยโอกาส "ตั้งตนเป็นใหญ่"
อเมริกันสอดลิ่ม
หนุนเป็นอำนาจที่ ๓ เสริมรัฐบาลอองซาน ซูจี เข้าราวีกับรัฐบาลทหาร "มิน อ่อง หล่าย"
ให้รบ ให้ฆ่า ยุให้แตก แยกให้ตี เผาบ้าน-เผาเมือง ทำให้พม่าถึงจุดมิคสัญญี ถึงขั้นสิ้นชาติ
วอดวายมากเท่าไหร่ สหรัฐฯ "แฮปปี้" มากขึ้นเท่านั้น เพราะมันมีแต่ได้กับได้
๑.ได้แยกพม่าออกจากจีน
๒.ได้เป็น "ตาอยู่" รอกินรวบ "ทหาร-อองซาน ซูจี" รบกัน
๓.ได้สกัดแผน "วัน เบลต์ วัน โรด" ของจีน เปิดทางโล่ง "อินโด-แปซิฟิก" สู่แผน "อำนาจเดียวครองโลก"
ทั้งหมดนี้ ไม่รู้จะโทษใคร ขอยักลงต่ำ ที่...
"กรรมสนองเวร"
เคยทำอย่างใดเมื่ออดีต ก็ได้รับผลเช่นนั้นตอบสนองจากรุ่งเรือง สู่ร่วงโรย
ระบบกษัตริย์ถูกล้ม ต้องเสียบ้าน-เสียเมืองให้อังกฤษ
อังกฤษคืนเมือง ก็ถูกระบบทหารยึดเมืองอีก พม่าคืนสุขไม่เคยได้ ต้อง "ปิดบ้าน-ปิดเมือง" ครึ่งค่อนศตวรรษ
พม่าเมื่อสิ้นระบบกษัตริย์ ก็เหมือนสิ้นลายชาติ-อนาคตขาดรุ่งริ่ง
ลืมตาก็แตกแยก หลากพันธุ์ ทุกข์ยาก
หลับตาก็ "หนึ่งแผ่นดิน" แต่ "ร้อยพันธุ์" จ้องฟาดฟัน "แยกแผ่นดินครอง"!
จากลุ่มๆ ดอนๆ สู่ที่ราบไม่กี่ปี "ประชาธิปไตยปลุกเสก" โดยจักรวรรดิอำนาจตะวันตก "อเมริกันนั่งปรก"
พม่าก็ต้อง "ตกหล่ม" อีก เมื่อ ๑ กุมภา ๖๔
นายพล "มิน อ่อง หล่าย" ทำรัฐประหารในรัฐธรรมนูญพม่า ยกเหตุรัฐบาล อองซาน ซูจี "ทุจริตเลือกตั้ง" กันเป็นขบวนการ จับได้ ก็ไม่ตอบสนองคำท้วง
นั่น นำพม่าสู่เส้นทาง "บ้านแตก-สาแหรกขาด" ฟาดฟันกันเองอีกครั้ง
อเมริกัน "หนุนหลัง" กลุ่มอองซาน ซูจี เป็น "รัฐบาลคู่ขนาน" รัฐบาลทหาร "นายพลมิน อ่อง หลาย" ในเวทีโลก
แล้วพม่าจะจบแบบไหน?
คำตอบอยู่ในคำถามว่า แล้วไทยเรา ด้วยชานเรือนติดกัน ตื่น...เพื่อเตรียมรับสถานการณ์พร้อมขนาดไหน?
ใน "สงครามตัวแทน" ของมังกรกับอินทรี ที่จะแปลงพม่าเป็นซีเรีย สนามรบมหาวินาศ ต่อจากนี้!
ที่จริง "จักรวรรดิอำนาจตะวันตก" ปักหมุดที่ประเทศไทย
ไทยนั้น จะล้มได้ ต้องล้มสถาบันให้ได้ก่อน
แต่เจาะแล้ว-เจาะอีก......
เจาะเท่าไหร่ๆ ก็เจาะไม่เข้า "หัวสว่านทักษิณ" หัก
เปลี่ยนหัวใหม่ ใช้หัวสว่านยี่ห้อ "ทอนสามนิ้ว" ก็กำลังจะหักอีก
เพราะ "สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย"
ด้วยเลือดเนื้อ-จิตวิญญาณคนไทยหุ้ม จึงแกร่งเหนือคมไหนในโลกเจาะทะลุ
ไอ้กันปั่น "รุ่นใหม่ฮ่องกง" วินาศสันตะโรเมือง หวังเปิดทางให้อำนาจตะวันตกเข้าแทรก แต่ก็ไม่สำเร็จ
เบนหัวมาที่ไทย นึกว่าจะสำเร็จ ก็เสร็จอีก!
รุ่นใหม่ตัวซ่าที่เชิดใช้ เรียงคิวเข้าคุก ไอ้ตัวใหญ่ที่คุมกลไก ก็ต่อท้ายคิว ไหลเข้ามาเรื่อยๆ
ทอนน่ะ ทั้งแม่ ทั้งพี่สาว-น้องชาย รวมทั้งตัวเอง เตรียมยกพวงเถอะ ยังไม่ถึงคุก ไต่ระดับ "โรงพัก-อัยการ-ศาล" ไปก่อน
ขั้นอัยการ แม่สมพรน่าจะอุ่นใจ
แต่ถึงศาลเมื่อไหร่ ท่องไว้ คดีรุกป่าก็ดี คดีสินบนหวังฮุบที่ทรัพย์สินฯ ก็ดี คดีรู้ว่าขาดคุณสมบัติยังไปสมัครรับเลือกตั้งก็ดี
ท่องไว้..."คุกไม่ได้มีไว้ขังคนจนอย่างเดียว"
ท่องไปเรื่อยๆ เป็นการทำใจ ป้องกัน "เยี่ยวแตก" ตอนมีคำพิพากษานั่นไง!
เมื่อเจาะไทยไม่เข้า ประจวบเหมาะ พม่าเปิดศึกชิงเมือง ไอ้กันก็เลยเหหัวจากไทยไปเจาะเข้าพม่าแทน (ชั่วคราว)
ที่คนพม่าฆ่ากันเองชนิดเป็นบ้า-เป็นหลัง แล้วชูป้ายโหยหา "อเมริกันจ๋าอยู่ไหน เข้ามาช่วยไวๆ" นั่นน่ะ
ไม่กระมิด-กระเมี้ยนเลย หว่านเงิน "แก้ผ้าเล่น" หน้าด้านๆ เลยนะ...ไอ้กัน!
ย้อนกลับมาที่บ้านเรา เมื่อกฎหมายเป็นกฎหมาย ใครผิดก็ว่าไปตามกระบวนการ จะมาตีตั๋วเด็ก ตั๋วนักศึกษา ขอลดครึ่งราคาไม่ได้แล้ว
ตอนนี้ ขบวนการสามนิ้ว-สามสัสที่เคยซ่า หัวหด หมดตัวเล่น ธนาธร-ปิยบุตร-พรรณิการ์ กระทั่งบัณฑิตเฒ่าแอบจิต ซ่อนตัวไม่มิด จำต้องผลุบๆ โผล่ๆ
ไปขุดตัวพ่อ ตัวแม่ ตัวพี่ ของแกนนำที่เข้าคุกมาโรดโชว์แต่นับวันจะเป็น "ผีไม่มีญาติ" เมื่อวาน (๑๙ มี.ค.) เลื้อยไปโผล่บ้านญาติผู้ใหญ่
ใครคือ "ญาติผู้ใหญ่" ของขบวนการ ๓ นิ้ว?
ผมจะไปรู้โคตรเหง้าเขาได้ไง อ่านเอาเองซี นี่ไง......
"รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ" อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พร้อมด้วยองค์กรเครือข่าย
รวมถึง "แม่แกนนำ" กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า "ราษฎร" ที่ถูกคุมขังในเรือนจำ ได้แก่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ นางพริ้ม บุญภัทรรักษา แม่ของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน
เข้าพบและยื่นหนังสือต่อ "อุปทูต" รักษาราชการสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย
เขินโลกเลย แบบนี้!
เท่ากับถูกประจาน ไปจุ้นจ้านบ้านเมืองเขา หลอกใช้ลูกหลานเขาเป็นเครื่องมือล่มชาติ-ล้มสถาบันจนเข้าคุก
ที่พ่อแม่เขามากระจองอแงหน้าบ้าน ก็เพราะ "แกนั่นแหละตัวการ" หลอกใช้ลูกเขา!
ลนลานเขี่ยสวะพ้นหน้าบ้าน โดยออกแถลงการณ์
"ในวันศุกร์ที่ 19 มีนาคม อุปทูตรักษาราชการแทนเอกอัครราชทูต ไมเคิล ฮีธ พบกับมารดาของนักเคลื่อนไหว 3 คนที่กำลังถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้
โดยเป็นการพบปะกันตามคำขอของพวกเธอ ซึ่งได้แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับบุตรของพวกเธอ
อุปทูตฮีธ และเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนอื่นๆ ได้พบปะกับชาวไทยในหลากหลายภาคส่วนอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาล เจ้าหน้าที่ทหาร นักธุรกิจ นักวิชาการ หรือผู้นำเยาวชน
ทั้งนี้เพื่อให้ทราบถึงเป้าหมาย ความกังวล และประเด็นที่ชาวไทยให้ความสำคัญ
การพบปะกันเช่นนี้ สะท้อนถึงงานหลักของเจ้าหน้าที่การทูต อันได้แก่ การแสวงหาความเข้าใจเกี่ยวกับมุมมองที่กว้างขวางในด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การเมือง และอื่น ๆ ของพลเมืองในประเทศที่ประจำการอยู่"
เรื่องช้าง อ้างม้าอย่างนี้ ตอบแบบทอน "ผมจำไม่ได้" คำเดียว เท่กว่า!
อีกอย่าง อยากทราบ จานโล้นพาพ่อแม่เขาไปยื่นหนังสือต่อสถานทูตอเมริกันด้วยประสงค์ใด?
ไทยเป็นเมืองขึ้นเขางั้นหรือ?
คนติดคุกระหว่างคดีมีเป็นร้อย-เป็นพัน ทำไมไม่เดือดเนื้อร้อนใจแทนพวกเขา จำเพาะเดือดร้อนแทนพวกสามนิ้ว-สามสัสเท่านั้นหรือ?
ธรรมศาสตร์....
เพาะเลี้ยง "อาจารย์สิ้นคิด" ที่มุ่งแต่สมคบนอกชาติให้เข้ามาใช้อำนาจ "เหนือชาติ" อย่างนี้น่ะหรือ?
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |