“ชวน” บอกแก้ไขรัฐธรรมนูญจบแล้ว ไปลุ้นแก้รายมาตราสมัยประชุมหน้า “สภาสูง” เตือนผู้โหวตสวนศาลเตรียมรับบ่วงกรรม “บิ๊กป้อม” ยันไม่ใช่เรื่องหักหลัง แค่ปล่อยฟรีโหวต โวพร้อมแก้ไข รธน. แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ ลั่นไม่เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาล “อนุทิน-จุรินทร์” ประสานเสียงเมินถอนยวง บอกคนละส่วนกัน “เสี่ยหนู” ลั่นคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลไคฟง ต้องปฏิบัติตาม รับต้องอดทนเดี๋ยวไดโนเสาร์ก็ไป ร่อนแถลงการณ์ขอโทษประชาชนไม่ทันเกมปลิ้นปล้อน ฝ่ายค้านได้ทีกระทุ้ง 2 พรรคถอนยวง “ทอน” ฟุ้งเดินสายปลุกแก้ รธน.
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม ยังคงมีความต่อเนื่องจากการลงมติในวาระ 3 การประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระด่วนร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พุทธศักราช.... ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 ที่มีเสียงเห็นชอบ 208 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 94 เสียง และไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียง ซึ่งเสียงเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งสองสภา หรือ 369 เสียง ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวตกไป
โดยจากการตรวจสอบการลงมติพบว่า คะแนนเห็นชอบ 208 เสียงเป็นของ ส.ส. 206 คน ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้าน และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ส่วนอีก 2 เสียงเป็นของ ส.ว. ส่วนเสียงไม่เห็นชอบ 4 เสียงนั้น เป็นของ ส.ว.ทั้งหมด ขณะที่การงดออกเสียง 94 เสียง เป็น ส.ส. 10 เสียง และ ส.ว. 84 เสียง โดย ส.ส.ที่งดออกเสียงส่วนใหญ่เป็นของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ขณะที่ผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนน 136 เสียงนั้น เป็นของ ส.ส. 9 เสียง และ ส.ว. 127 เสียง
ทั้งนี้ นอกจาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่วอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุมไม่ร่วมลงมติวาระ 3 แล้ว ยังพบว่ามี ส.ส.อีกกว่า 200 คน และ ส.ว.อีก 33 คน ที่ไม่ขานมติลงประชุมใดๆ เลย โดยในส่วน ส.ส.นั้นก็มีทั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) ถึง 26 คน 3 ส.ส.พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ซึ่งเป็น ส.ส.งูเห่าในพรรค และ ส.ส.พรรค ปชป. ในขณะที่ ส.ว.นั้นพบว่า 5 ส.ว.โดยตำแหน่งก็ไม่มีการลงมติใดๆ เลย
นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงถึงกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ประธานว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มี.ค. ถือว่าเป็นเหตุการณ์พิเศษที่นานๆ จะปรากฏสักครั้ง อยู่เฉยๆ ก็ไม่ได้ เดินหน้าก็ไม่ได้ แล้วจะให้ทำอย่างไร เราก็รู้ว่าคำวินิจฉัยมีผลผูกพันกับรัฐสภา ถ้ามีการกระทำขัดหรือแย้งกับคำวินิจฉัยก็มีความผิด
“ผมขอถามว่าจะมีผู้นำองค์กรที่ไหนพาลูกน้องไปตาย ประธานชวนก็เปิดกว้างรับฟังทุกญัตติเกือบ 40 คนที่ได้แสดงความคิดเห็น ส่วนใครจะเจ็บหรือต้องเจออะไรบ้างนั้น คือทางออกที่ท่านเลือกกันเอง และประชาชนจะได้เห็นว่า ส.ส.ที่ท่านเลือกมาเป็นอย่างไร แต่ยืนยันสิ่งที่ประธานชวนทำคือทางเลือกที่ดีสุด และเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องที่สุด” นพ.สุกิจกล่าว
แก้รายมาตราสมัยหน้า
นายชวนกล่าวว่า ถือว่าเรื่องนี้จบไปแล้ว ส่วนการเสนอแก้รายมาตรานั้นคงต้องเสนอในสมัยประชุมหน้า ซึ่งต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญเขียนเพื่อไม่ให้แก้ไข หลักๆ คือเขียนเพื่อให้แก้ยากที่สุด ฉะนั้นไม่ง่ายตั้งแต่ต้น ก็เห็นใจคนที่คิดจะแก้ไข เพราะเราจะเห็นว่าการแก้มันยากมาก เงื่อนไขต่างๆ เช่น การลงคะแนนเสียงของสมาชิกต้องไม่น้อยกว่าเท่าไหร่ เสียงของวุฒิสภาต้องไม่น้อยกว่าเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ด้วยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือไม่ต้องการให้แก้ แต่ก็ไม่ถึงกับขั้นแก้ไม่ได้เลย หากมีการแก้รายมาตราอาจง่ายกว่า แต่กรณีนี้ผู้ที่เสนอญัตติก็คิดว่าการแก้รายมาตรา แต่ศาลรัฐธรรมนูญไปตีความว่าการแก้จะมีผลกระทบต่อรัฐธรรมนูญ 2560
ขณะที่ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการลงมติในวาระ 3 ว่าสมาชิกคนใดที่ลงมติเห็นด้วยก็ต้องรับผิดชอบ หากมีคนฟ้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งจะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช.จะพิจารณา จะเห็นได้ว่าสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ลงมติไม่ประสงค์ขอลงคะแนน เพราะไม่อยากยุ่ง เนื่องจากรู้ว่าผิดและขัดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แม้แต่สมาชิกที่งดออกเสียงอาจไม่ผิด แต่หากมีการยื่นร้อง ป.ป.ช. สามารถเรียกสมาชิกที่งดออกเสียงไปเป็นพยานก็ได้
“รัฐธรรมนูญสามารถแก้ไขได้ทุกเวลาโดยรัฐสภา คือแก้ไขเป็นรายมาตรา ตรงไหนสถานการณ์ไม่เหมาะสมอยากเสนอแก้ไขก็เสนอมาได้ตลอดเวลา แต่ถ้าจะรื้อรัฐธรรมนูญใหม่ทำไม่ได้ และหากเสนอเป็นรายมาตราเข้ามา ถ้าจะแก้ได้ทันทีทันใด วันนี้หรือพรุ่งนี้ ส.ว.ก็พร้อมสนับสนุน” พล.อ.สิงห์ศึกระบุ
ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี? ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญจะกระทบการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ว่า ไม่รู้ ส่วนต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น เชื่อว่าไม่มีอะไร ไม่มีผลกับการร่วมรัฐบาล? เพราะเราปล่อยให้ฟรีโหวต
“ไม่รู้? ไม่เกี่ยว? เราปล่อยฟรีโหวต ยืนยันเราตั้งใจจะแก้? เราแก้อยู่แล้ว แต่จะแก้อย่างไร? ต้องแก้ให้ถูกระเบียบตามที่มีอำนาจ” พล.อ.ประวิตรกล่าวย้ำเมื่อถามว่าเรื่องนี้ไม่กระทบการทำงานพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่
ถามว่า เมื่อเป็นเช่นนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้? เรายังไม่รู้? ยังไม่มีประชุม ส่วนจะประชุมเมื่อไหร่ก็ไม่รู้? จะไปรู้ได้อย่างไร เดี๋ยวสื่อจะมาบอกว่าไม่รู้ๆ ก็ไม่รู้จริงๆ
ถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย ระบุพรรค พปชร.หักหลัง พล.อ.ประวิตรย้อนถามว่า หักหลังเรื่องอะไร? ก็บอกว่าฟรีโหวต จะไปหักหลังอย่างไร คงเห็นว่าดึกแล้วก็เลยเสนอให้ลงมติ? แต่ยืนยันว่าเราปล่อยฟรีโหวตอยู่แล้ว ยืนยันไม่มีหักหลัง? ไม่มีหรอก
เมื่อถามถึงการวอล์กเอาต์ของพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร? ก็ต้องไปถามเขาเอง ส่วนที่หลายคนมองว่าเรื่องนี้จะเป็นรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ไม่มี ไม่มีหรอก เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ว่าพรรค ปชป.และ ภท.จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะไปรู้ได้อย่างไร? สื่อก็ไปถามเขาดู ตอนนี้ก็เห็นยังดีกับตนอยู่
ถามถึงความจริงใจของรัฐบาลในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “ต้องแก้ไข ผมพูดตั้งหลายทีแล้ว ส่วนจะเริ่มได้เมื่อไหร่ยังไม่รู้ ถามซ้ำไปซ้ำมาอยู่นี่” ส่วนจะได้แก้เมื่อไหร่ จะไปรู้ได้อย่างไร เดี๋ยวรอประชุมก่อน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่าได้เตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้วตั้งแต่ตอนที่เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทางการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 โดยจะนำร่างแก้ไขรายมาตราเสนอต่อพรรค พปชร. พิจารณาเห็นชอบต่อไป โดยคาดว่าจะเสนอได้ในสมัยการประชุมหน้า
ร่วมรัฐบาลคนละเรื่อง
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล กรณี ส.ส.พรรควอล์กเอาต์ในการโหวตวาระ 3 ว่าไม่เกี่ยวอะไรกัน นี่เป็นเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทุกคนต้องมีเอกสิทธิ์ มีความเชื่อในมิติของตัวเอง ส่วนกรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี แสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรงนั้น นายชาดาคงมีอารมณ์ เพราะผ่านมา 2 วาระแล้ว ทำไมจึงไม่ดันไปให้ครบถ้วน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เนื่องจากเป็นเรื่องรัฐสภา และในส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.ประวิตร เป็นเรื่องของการบริหารงาน เป็นคนละหมวดกัน
นายอนุทินยืนยันว่า พรรคต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอด เมื่อวันที่ 17 มี.ค. พรรคพยายามจะรักษารัฐธรรมนูญเอาไว้ แต่ต้องไม่ทำผิดคำวินิจฉัยของศาล ฉะนั้นจะให้พรรคไปโหวตก็ไม่ได้ เพราะวันนี้ก็มีคนไปร้องต่อศาลแล้ว เราต้องการความชัดเจน ถ้าตีความกันเองแล้วตีความผิดจะวุ่นวาย หลายคนอาจบอกว่าไม่ผิด แต่คนที่บอกเป็นนักกฎหมาย ไม่ใช่ศาล เราจึงต้องเคารพคำวินิจฉัยของศาลที่ออกมาชัดเจน เพราะคำวินิจฉัยของศาลผูกพันทุกองค์กร พรรคพูดมาตั้งแต่ตอนหาเสียงว่าจะเคารพกฎหมายและอยู่ในกติกา
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการวอล์กเอาต์เป็นการเลี่ยงเพื่อไม่ให้ถูกร้องศาลใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ใช่วอล์กเอาต์ เพราะนายชาดาลุกขึ้นแสดงความเห็นแล้วเดินออก ซึ่งนายชาดาเป็นรองหัวหน้าพรรค เมื่อเดินออก พรรคที่มีวินัยดีอยู่แล้วจึงเดินตาม เมื่อถามย้ำว่าการวอล์กเอาต์เป็นการเซฟตัวเองไว้ก่อนใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เรามีเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่าจะไม่ลงมติ เพราะขัดคำวินิจฉัยของศาล
เมื่อถามว่า จะนำไปสู่การยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายอนุทินได้ชี้นิ้วไปที่ตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมระบุว่า ต้องไปถามคนบนตึกไทยฯ ถามตรงนี้ได้อย่างไร ยุบได้หรือไม่ ถามต่อว่าถ้าถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล จะทำให้มีการยุบสภาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มีถ้า อยู่ เพราะคนละเรื่องกัน การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือเรื่องของสภา แต่นี่คือเรื่องของรัฐบาล เรื่องการบริหารประเทศ มันไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
เมื่อถามว่า หากยุบสภาจริงพร้อมเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้ายุบสภาก็ต้องเลือกตั้ง พรรคการเมืองต้องพร้อม เจอยุบสภามา 4-5 ครั้งแล้ว ยุบก็ยุบ เราเป็นของประชาชนอยู่แล้ว ให้ประชาชนตัดสิน ชีวิต ส.ส.มันแค่นี้
เมื่อถามว่า ขั้นตอนหลังจากนี้พรรคจะสนับสนุนให้แก้รายมาตราหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ศาลรัฐธรรมนูญบอกแล้วว่าต้องทำประชามติ จนกว่ามีอะไรมาเปลี่ยนแปลงตรงนั้น เราต้องเดินตามขั้นตอน ในเรื่องที่จะร่างใหม่ทั้งฉบับหรือแก้เป็นรายมาตรา ก็ต้องถามประชาชน อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้รับเสียงประชามติมาเท่าไหร่ ถ้าจะมีการปรับปรุงแก้ไขอะไรจะต้องกลับไปถามเจ้าของประเทศ มันก็แฟร์
เมื่อถามว่าจะอธิบายให้ประชาชนอย่างไรว่าพรรคไม่ได้หลอก นายอนุทินกล่าวว่า หลอกตรงไหน ไม่มี เราต้องรักษาระบบ ไม่ให้มีความวุ่นวาย รัฐธรรมนูญถ้าจะมีการแก้ไขเรายินดีให้ไปตามกระบวนการ คือให้ประชาชนเป็นคนกำหนด
“ศาลรัฐธรรมนูญนะครับ ไม่ใช่ศาลไคฟง ศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าถ้าจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้ไปทำประชามติ พรรคภูมิใจไทยทำตามนั้น ยังไม่ชัดอีกหรือ ใครไม่ชัดไม่เป็นไร แต่พรรคฟังแล้วชัด พรรคทำตามนั้นทุกอย่าง แล้วตรงไหนที่หลอกประชาชน ไม่มี ทำตามระเบียบตามกฎ ไม่ทำตามใจ ต้องเคารพคำสั่งศาล ประเทศต้องไปอย่างนี้” นายอนุทินย้ำ
เมื่อถามว่า หากเลือกตั้งคราวหน้าจะชูเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า แก้เป็นบางส่วนที่พรรคเห็นว่าสมควรแก้ แต่เรื่องหมวดพระมหากษัตริย์ไม่ต้องพูด ส่วนเรื่องของการทุจริตคอร์รัปชันเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีบทบัญญัติที่รุนแรง นอกจากไม่แก้แล้วควรทำให้แน่นยิ่งกว่าเดิมด้วย แต่เรื่องอื่นที่ไม่ค่อยเป็นประชาธิปไตยเท่าไหร่ เช่นที่มา ส.ว. ไม่เห็นด้วย แต่ก็ทนเอา อย่างมากก็ 5 ปี เมื่อบทเฉพาะกาลหมดก็หมด มันไม่ใช่เป็นปัญหา แล้วเราจะชักใบให้เรือเสียทำไม ไดโนเสาร์มันก็ไปเอง ไม่มีใครไปทำลายเขาได้
ภท.รับเสียใจไม่ทันเกม
เมื่อถามย้ำว่าใครคือไดโนเสาร์ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้ และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไป
ต่อมานายอนุทินได้ออกแถลงการณ์ของพรรค ภท. โดยได้แสดงความเสียใจที่ทำให้ร่าง รธน.ตกไป พร้อมระบุว่า จากข้อมูลที่ได้รับในเบื้องต้นก่อนเปิดประชุมรัฐสภา พอประเมินได้ว่าหากมีการลงมติวาระ 3 ร่างที่ผ่านมา 2 วาระต้องตกแน่ พรรคจึงเลือกแนวทางรักษาร่างรัฐธรรมนูญไว้ก่อน ด้วยการชะลอเวลา แล้วไปสอบถามศาลรัฐธรรมนูญ แต่เราทำไม่สำเร็จ และสุดท้ายก็มีการลงมติวาระ 3 ซึ่งผลก็เป็นไปตามที่ได้ประเมินไว้ คือร่างรัฐธรรมนูญที่ทำกันไว้ตก การไม่ลงมติคือการแสดงออกให้เห็นว่าพรรคไม่ขอร่วมกระทำการที่เรียกได้ว่าไม่จริงใจต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างตรงไปตรงมา
“พรรคยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ทุกประการ เพราะเราพลาดจริงๆ ที่ตามเกมการเมืองของผู้ที่จ้องจะล้มกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ทัน เนื่องจากเราคิดไม่ถึงว่าจะมีการพลิกแพลงเปลี่ยนแปลงกันตลอดทั้งวัน เป็นการเล่นเกมเอาชนะกันโดยไม่สนใจความรู้สึกประชาชนที่จับตาดูการประชุม และเฝ้ารอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งพรรคต้องขอโทษที่ไม่สามารถรักษาร่างรัฐธรรมนูญให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญไว้ได้”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวว่า พรรคได้ทำหน้าที่สุดทาง สุดความสามารถแล้วในการผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันว่าพรรคจะยืนอยู่จุดเดิมต้องการให้รัฐธรรมนูญและประเทศเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นกว่าเดิม ขณะนี้ที่คิดได้แบบเร็วๆ อย่างน้อยเราต้องเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ซึ่งการยื่นแก้ไขมาตราดังกล่าวก็ต้องหารืออีกครั้งในที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ต่อไป เพราะ ปชป.พรรคเดียวเสียงไม่เพียงพอที่จะยื่นแก้ไข
เมื่อถามถึงการทบทวนท่าทีของพรรคในการร่วมรัฐบาล นายจุรินทร์กล่าวว่า ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนนโยบายที่แถลงต่อสภา ปชป.ก็ต้องร่วมมือกับรัฐบาล เพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ได้
ด้านพรรคฝ่ายค้าน นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และหัวหน้าพรรค พท. ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้ร่วมประชุมหารือ และให้สัมภาษณ์ว่า เราเสียใจและผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น จากนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างจริงจังสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ร่างประชามติให้ลุล่วงไปด้วยดี
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. ในฐานะเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ผิดหวังผลการลงมติ จึงขอให้พรรคร่วมรัฐบาลและรัฐสภาอย่าเล่นเกมการเมือง และรักษาอำนาจด้วยการหลอกลวงประชาชน
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ผิดหวังที่พรรคร่วมรัฐบาลบางพรรควอล์กเอาต์ และให้ความเห็นกล่าวหาพรรคฝ่ายค้านว่าเดินหน้าโหวตวาระ 3 ไม่จริงใจให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะถูกคว่ำโดย ส.ว. ยืนยันว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านยืนยันจุดยืนนี้มาตลอด และแสดงความมุ่งมั่น ที่เคยสัญญาไว้กับประชาชนในการผลักดันให้จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่แทนที่รัฐธรรมนูญฉบับ คสช. เรื่องนี้เป็นที่ชัดเจนว่าฝ่ายที่ต้องการล้มกระบวนการจัดตั้ง ส.ส.ร.คือ ส.ส.รัฐบาล โดยเฉพาะพรรค พปชร.ร่วมมือกับ ส.ว.ไม่จริงใจให้มี ส.ส.ร.เป็นการเล่นเกม ยื้อเวลาหลอกลวงประชาชน วันนี้ชัดเจน ต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญให้ดำเนินการพิจารณาวาระ 3 ต่อ ส.ว.และ ส.ส.พรรค พปชร.ก็คว่ำร่างรัฐธรรมนูญอยู่ดี ทุกฝ่ายต้องหยุดเล่นละครหลอกลวงประชาชนได้แล้ว
จี้ “ภท.-ปชป.” ถอนยวง
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า มีการกล่าวหาว่าการเดินหน้าโหวตของพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่จริงใจ ถามว่าถ้าไม่มีทางนี้จะเป็นทางใด การเดินหน้าโหวตวาระ 3 เท่านั้นที่เป็นความหวัง และวันหน้าค่อยทำใหม่ ไม่คิดว่าวันนี้มันจะตก แต่คิดเพียงแค่ว่าจะผ่านได้ยาก หวังว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะโหวต แต่ก็ผิดหวัง และยืนยันว่าเรื่องนี้เราเดินตามแนวทางรัฐธรรมนูญ ขอความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร เพราะร่างรัฐธรรมนูญที่ถูกคว่ำไปจาก ส.ส.รัฐบาลและ ส.ว.
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเปิดประตูบานแรกของการพัฒนาประเทศ ซึ่งประชาชนต้องถือโอกาสนี้ถามไปยังพรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ว่า ในเมื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญถูกอ้างว่าเป็นเงื่อนไขสำคัญในการเข้าร่วมรัฐบาล ถึงกับบรรจุเป็นนโยบายเร่งด่วน นี่ก็ย่อมถึงเวลาแล้วที่พรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์ต้องตอบประชาชนว่ายังคงจะร่วมรัฐบาลต่อไปอีกหรือไม่
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวว่า ขอเสนอทางออกว่ารัฐสภาควรแก้ไขรายมาตราเฉพาะประเด็นที่ทำให้รัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย คือแก้ไขบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ไม่ให้ ส.ว.ที่ คสช.แต่งตั้งร่วมลงมติเลือกนายกฯ ซึ่งการแก้ไขมาตรานี้ไม่ต้องเปลืองงบ เปลืองเวลา เพราะไม่ต้องจัดให้มีการออกเสียงประชามติตาม และน่าจะได้เสียงตอบรับจากทั้ง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือแม้แต่ ส.ว.หลายคน
ส่วนนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊กว่า การคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของสมาชิกรัฐสภา แสดงให้เห็นแล้วว่าชนชั้นนำ, กองทัพ, รัฐบาล, พรรคการเมืองที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน, ศาลรัฐธรรมนูญ และสมาชิกวุฒิสภา ไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พวกเขาต้องการยึดอำนาจไว้กับพวกพ้อง โดยไม่สนใจอนาคตของประเทศ ซึ่งเมื่อแก้ทั้งฉบับทำไม่ได้ เราจะรณรงค์เพื่อให้เกิดการแก้ไขรายมาตราเร็วๆ นี้ ปลดเสาค้ำยันอำนาจของกลุ่มอภิสิทธิ์ชนด้วยการยกเลิก ส.ว., คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ, ปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงแก้ไขที่มาของกรรมการองค์กรอิสระ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |