21 พ.ค. 61 - ที่ห้องพิจารณา 714 ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดชี้สองสถานและกำหนดแนวทางในการดำเนินคดีหมายเลขดำ พ.3500/2560 ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) และเลขาธิการ กปปส. กับพวกรวม 38 คน เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย กรณีที่กลุ่ม กปปส.ขัดขวางการจัดการเลือกตั้งทั่วไปของ กกต. เมื่อปี 2557 ทำให้ กกต.ไม่สามารถจัดการเลือกตั้ง โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 3,100 ล้านบาท
วันนี้นายสุเทพ และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย พร้อมทีมทนายความเดินทางมาศาล
ต่อมาศาลได้พิจารณารวมคดีของจำเลยอีกคนหนึ่งที่มีการแยกฟ้องเข้ามารวมในคดีนี้ ทำให้จำเลยคดีนี้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 39 คน และศาลได้ชี้สองสถานกำหนดประเด็นการต่อสู้คดีให้มีความครอบคลุม เช่น การฟ้องโจทก์ครอบคลุมหรือไม่ คดีหมดอายุความหรือไม่ การฟ้องของโจทก์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตและมีอำนาจฟ้องคดีนี้หรือไม่ โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใด จำเลยทั้งหมดต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด อย่างไรก็ตาม ศาลเห็นควรให้มีการพิจารณาจำหน่ายคดีแพ่งนี้ชั่วคราว เพื่อรอฟังผลในส่วนคดีอาญา ที่นายสุเทพกับพวกถูกฟ้องในข้อหากบฏและข้อหาอื่นที่รวมถึงการขัดขวางการเลือกตั้งจากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.
หลังเสร็จสิ้นการพิจารณา นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้ กกต.ฟ้องเรียกค่าเสียหายกรณีการจัดเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2557 ที่จัดไม่สำเร็จ เพราะพวกตนไปขัดขวางการเลือกตั้งทำให้เกิดความเสียหาย จำเลยคดีนี้มีชาวพัทลุงรายหนึ่งเสียชีวิต ฝ่ายโจทก์บอกให้นำภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตเข้ามาเป็นจำเลยร่วมรับผิดชอบความเสียหายในคดีนี้ด้วย ส่วนตัวสงสารมากเพราะภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิตนั้นไม่มีสมบัติอะไร แต่ก็ถูกนำมาร่วมรับผิดชอบ ต้องว่าไปตามกระบวนการทางกฎหมาย จำเลยรายหนึ่งที่ถูกแยกฟ้องก็เอามารวมเป็นคดีเดียวกัน ประเด็นการฟ้องของโจทก์ใช้สิทธิ์โดยสุจริตหรือไม่ ข้อเท็จจริงคือการจัดการเลือกตั้งนั้น โจทก์คือ กกต.รู้อยู่แล้วว่าประชาชนทั้งประเทศต่อต้านคัดค้านการเลือกตั้ง แล้วก็มีองค์กรหลายองค์กรได้แสดงความเห็นแล้วว่าไม่ควรจัดการเลือกตั้ง แต่ กกต.ก็เลือกที่จะเสี่ยงภัยเอาเอง ดึงดันจัดการเลือกตั้ง เมื่อจัดแล้วมีความเสียหายจะมาบอกว่าเป็นการใช้สิทธิ์โดยสุจริตก็ไม่ได้
นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า ฝ่ายโจทก์ได้เสนอพยานมาทั้งหมด 126 คน ฝ่ายจำเลยมีพยานประมาณ 50 คน ศาลเห็นว่าคดีแพ่งนี้มีผลเกี่ยวข้องต่อเนื่องจากคดีอาญา ศาลได้สอบถามคดีอาญาที่ตนถูกดำเนินคดี ตนก็ได้กราบเรียนให้ทราบคดีจากการชุมนุมคราวนี้มีตั้งแต่ก่อการร้าย กบฏ ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน อั้งยี่ ซ่องโจร บุกรุกสถานที่ราชการ และขัดขวางการเลือกตั้ง ศาลจึงวินิจฉัยให้รอผลการพิจารณาคดีอาญาเรื่องขัดขวางการเลือกตั้งด้วย ขอขอบคุณประชาชนที่เป็นห่วงพวกตนจะล้มละลายเพราะต้องเสียค่าเสียหาย 3,100 ล้านบาท
“พวกผม มวลมหาประชาชนที่ออกมาต่อสู้กัน เรามีเจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง ความตั้งใจดีของเราในเรื่องนี้ เราได้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังว่า เราต่อสู้ในฐานะพลเมืองดี เราระวังไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นตามข้อกล่าวหาทั้งหมดเรามั่นใจว่า เราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะฉะนั้นเราต้องรวบรวมเอกสารพยานหลักฐาน บุคคลมาเป็นพยานยืนยันกับศาล แล้วเราคิดว่าเราทำได้” นายสุเทพ กล่าว
ในส่วนที่ประเด็นคำถามที่เกี่ยวข้องกับการเมือง นายสุเทพยังไม่ขอตอบ โดยจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไปในเวลา 14.00 น. ของวันนี้ (21 พ.ค.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีอาญาของนายสุเทพกับพวกเกี่ยวกับการชุมนุมกลุ่ม กปปส. ในข้อหากบฏและข้อหาอื่นที่รวมถึงการขัดขวางการเลือกตั้งนั้น ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ได้นัดตรวจหลักฐานในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ เวลา 9.00 น. ส่วนคดีแพ่งนี้เคยมีการนัดชี้สองสถานครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2561 แต่เลื่อนนัดมาเป็นวันนี้เนื่องจากมีจำเลย 1 รายที่เสียชีวิต และการฟ้องเพิ่ม 1 ราย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |