17 มี.ค. 64 - เมื่อเวลา 22.30 น. ที่รัฐสภา นายภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง และโฆษกพรรคภูมิใจไทย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยส.ส.ของพรรค แถลงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย วอล์คเอาท์ในการลงมติร่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3  

นายภราดร กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปีเต็ม และวันนี้ทั้งวัน ต้องบอกว่า ประเทศนี้มีกระบวนการฉุดรั้งการเจริญเติบโตของประชาธิปไตย ฉุดรั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ฉุดรั้งการคืนอำนาจให้ประชาชนในการเลือกส.ส.ร. มาแก้รัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทย แสดงเจตนารมย์ที่ชัดเจนมาตลอดว่า ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยโดยการตั้ง ส.ส.ร. จึงไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่ส.ว.เสนอในวันนี้ตั้งแต่แรก ขณะที่แนวทางของพรรคร่วมฝ่ายค้านเราก็ไม่เห็นด้วยที่จะให้เดินหน้าลงมติวาระที่ 3 เพราะเท่ากับว่าเรากำลังจะกระโดดลงเหวฆ่าตัวตาย เป็นการฆ่ารัฐธรรมนูญให้ตายด้วยมือของเราเอง

เพราะต้องมีเสียงสนับสนุนจาก ส.ว. อย่างน้อย 84 เสียง จากการอภิปรายไม่เห็นว่ามีส.ว.เห็นด้วยเลย จึงเป็นช่องให้ส.ว.ใช้เป็นข้ออ้างในการไม่สนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงพยายามเสนอแนวทางใหม่ โดยเราเห็นด้วยกับแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ คือให้ชะลอการลงมติออกไปก่อน ส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยให้ชัดเจนก่อน แต่จนแล้วจนรอดสภาฯมีมติให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ทันที เราเห็นอยู่แล้วว่าการเดินหน้าแบบนี้ไม่สามารถทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยการตั้ง ส.ส.ร.ไปสู่ปลายทางได้ พรรคภูมิใจไทย ไม่อยากเป็นเครื่องมือประหัตประหารรัฐธรรมนูญด้วยมือของเราเอง 

นายภราดร กล่าวว่า การที่พรรคการเมืองบางพรรคตั้งคำถามถึงจุดยืนของพรคค ที่เคยหาเสียงไว้กับประชาชนเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แล้วเหตุใดจึงไม่โหวตในวาระ 3 นั้น ตรงกันข้าม พรรคการเมืองที่อ้างตัวว่าเป็นพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ท่านรู้อยู่แล้วว่าข้างหน้าเป็นเหว แล้วท่านจะกระโดดลงไปทำไม แล้วมาชี้หน้าด่าเพื่อน ขอบอกเลยว่า วันนี้แม้ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยลงมติทั้ง 60 เสียง ก็ไม่สามารถผ่านร่างรัฐธรรมนูญได้ เพราะเราเห็นแล้วว่า ส.ว.ไม่ลงมติเห็นชอบเลย เราถือโอกาสนี้ ขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถประคับประคองร่างรัฐธรรมนูญให้ไปถึงเป้าหมายตามที่เราได้สัญญาไว้กับพี่น้องประชาชนได้ สัญญาว่า โอกาสหน้าเราจะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป 

เมื่อถามว่า จะยังทำงานร่วมกันได้หรือไม่ในพรรคร่วมรัฐบาล นายภราดร กล่าวว่า นี่คือเรื่องของรัฐธรรมนูญ แต่การทำงานร่วมกันในรัฐสภายังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องเดินหน้า เช่น การพิจารณาพรบ.ประชามติ และยังมีอีกหลายกฎหมาย และอีกหลายบทบาทหน้าที่ที่ต้องดำเนินต่อไป.