การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) ที่ “พรพิศ เพชรเจริญ” เลขาธิการรัฐสภาได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/ร15 ถึง ส.ส.และ ส.ว. ตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ในการประชุม 17-18 มี.ค.นั้น มีประเด็นสำคัญคือ “ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พุทธศักราช...แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 151/1” ในวาระ 3 ว่าจะ “โหวต” หรือ “ไม่โหวต” อย่างไร โดยเฉพาะหลังศาลรัฐธรรมนูญมีทั้งสรุปย่อคำพิพากษาผ่านข่าวสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญที่ 7/2564 เพียง 4 บรรทัด และต่อมาในวันที่ 15 มี.ค.เผยแพร่ “คำวินิจฉัยกลาง” ฉบับเต็ม 12 หน้าในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 138 ตอนที่ 18 ก...๐

 เรียกว่าหลังเปิดประชุม “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภาก็ได้แจ้งต่อที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมสมัยวิสามัญ แห่งรัฐสภา พ.ศ.2564 ก่อนเริ่มเดินเครื่อง “รัฐธรรมนูญ” ซึ่งประธานชวนก็เปิดให้สมาชิกเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาแบบ ซึ่งก็เรียกว่าไม่ต่างจากการให้ความเห็นนอกสภาฯ กันแต่อย่างใด เพราะต่างฝ่ายต่างตั้ง “ธง” กันแบบไม่มีลดราวาศอก โดยอาจลืมไปว่าในการประชุม 2 วันนั้นไม่ใช่มีแค่เรื่อง “โหวต” อย่างเดียว ยังมีร่างกฎหมายอยู่ 4 ฉบับด้วยกัน โดยเฉพาะ “ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ....” ซึ่งต้องใช้กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย...๐ ก็เหมือนกับที่ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.โพสต์บนเฟซบุ๊กนั่นแหละว่า ฟังอภิปรายสภามา 6 ชม.เต็มๆ สรุปท่าทีของแต่ละฝ่ายน่าจะเป็นแบบนี้ ส.ว.-ยืนยันวาระ 1 และ 2 ตกไป ไม่ต้องมาลงมติวาระ 3 วันนี้, พปชร.-ตกแบบ ส.ว.ก็ได้ โหวตวาระ 3 ก็ได้, ปชป.+ภูมิใจไทย-เลื่อนไปก่อนเหอะ ส่งศาลวินิจฉัยอีกรอบ และฝ่ายค้าน-เดินหน้าโหวตเลย...๐

 อย่างที่บอกว่า แต่ละฝ่ายก็มี “ธงนำ” ซึ่งก็เรียกว่าเป็น “ปกติ” แต่ที่ต้องบอกว่า “อเนจอนาถ” อย่างยิ่งคือพฤติกรรมทั่นผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ที่ใช้เวทีดังกล่าว “ตีกิน” ในกรณี “ม็อบราษฎร” จากการที่ “รังสิมันต์ โรม” ส.ส.ก้าวไกล อภิปรายเรื่องรัฐธรรมนูญที่มีแวบไปเรื่อง “แก๊ง 3 นิ้ว” บ้าง แต่ที่ต้องตำหนิติติงคือบรรดาคนที่นั่งล้อมรอบที่ ฉวยโอกาสยกป้าย ยกมือถือ และแท็บเล็ต “ปล่อยเพื่อนเรา” ขึ้นโชว์ ซึ่งก็ไม่ต้องเดาก็มีขาประจำอย่าง “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” เจ้าของฉายา “เตี้ย หลังม็อบ” รวมอยู่ด้วย...๐ ไม่น่าแปลกใจแต่ประการใด เพราะ “ต้นธาร” ทั้ง “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” แห่งคณะก้าวหน้าก็นิยมทำแบบนี้ คือใช้โอกาสเอาดีเข้าตัว หาโอกาสไม่ให้ตกเทรนด์แบบดูดีเหมือนกับที่ไปโผล่ “ม็อบเซฟบางกลอย” ซึ่งขำไม่ออกเสียจริงๆ เพราะ “ตี๋เอก” และครอบครัวนั้นมีเรื่องรุกที่ “ป่าสงวน” คาราคาซังอยู่ การไปแจมไปโผล่หวังโชว์ “หล่อ” จึงเรียกว่าผิดฝาผิดตัวอย่างมาก...๐

หันมาเรื่องปรับ ครม.บิ๊กตู่ 2/4 กันบ้าง เพราะล่าสุด “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็บอกแล้วว่าได้รับรายชื่อจากพรรคร่วมหมดแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่แค่การจิ้มเก้าอี้เท่านั้น ในขณะที่ “พลังประชารัฐ” ของพี่ป้อม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ นั้น แม้ดูเหมือนราบรื่นสะดวกโยธิน แต่ล่าสุดก็เริ่มมีการขยับเรื่องปรับ “กรรมการบริหารพรรค” ใหญ่ อีกครั้งแล้วหลังจากปรับใหญ่มาแล้วจาก “ก๊วน 4 กุมาร” ซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นการจัดทัพเพื่อรองรับการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึง หรือเป็นการปรับทัพดับซ่าจากผลพวงอภิปรายไม่ไว้วางใจและการปรับ ครม.หรือเปล่า...๐

 นี่ก็ขำไม่ออกอีกเรื่อง เมื่อ “บิ๊กตู่” ไปประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ครั้งที่ 4/2564 เพื่อพิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับนายพลตำรวจยศ พล.ต.ต.ขึ้นไป โดยหลังใช้เวลาประมาณ 40 นาที พล.อ.ประยุทธ์ได้แถลงว่าที่ประชุม ก.ตร. มีมติแต่งตั้ง “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” ที่โยกย้ายกลับมารับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำรงตำแหน่ง “ที่ปรึกษา สบ 9” ซึ่งเป็นตำแหน่งเฉพาะตัว!!! เพราะคำสั่งเด้ง “บิ๊กโจ๊ก” นั้นก็ลงนามโดย พล.อ.ประยุทธ์ กลับมา สตช.ก็โดน “พล.อ.ประยุทธ์” และกลับมารั้งตำแหน่ง “ที่ปรึกษา สบ 9” ก็มาจาก “พล.อ.ประยุทธ์” คนเดียวกันนั่นเอง...๐
ตบท้ายด้วยเรื่องของผู้บริโภคกันบ้าง โดยเฉพาะ ผู้ใช้บริการ “กล่องทรูไอดี” ที่คิดค่าบริการ 50 บาทต่อเดือน กันบ้าง เพราะล่าสุดมีผู้ใช้บริการบางรายได้รับเอสเอ็มเอสแจ้งว่าจะคิดเหมารวม 3 เดือน 150 บาท โดยไม่มีการพูดถึงเรื่อง Cash back เข้าบัญชี True Money เลย และที่สำคัญจะเรียกว่า Cash Back ก็ไม่ได้ เพราะ คนที่เคยใช้ต่างมองกันว่าเป็น “True Bonus” มากกว่า เพราะใช้ได้เฉพาะกับแพ็กเกจเสริมของ true อย่างเดียวเท่านั้น ไปใช้จ่ายซื้อสินค้าใน 7-11 หรือซื้อกาแฟในทรูคอฟฟี่ยังไม่ได้ ซ้ำร้ายยังต้องใช้สิทธิ์ใน 3-7 วันอีกต่างหาก ไม่อย่างนั้นเงินหายไปในอากาศ อย่างนี้เขาเรียกว่าอะไรดีล่ะ...๐

...ท.ศักดิ์