ครม.เคาะมาตรการฟันวินัยข้าราชการ "ชู้สาว-ล่วงละเมิด-คุกคามทางเพศ-ลวนลามออนไลน์" โทษไล่ออก เผยที่ผ่านมามาตรฐานลักลั่น ส่งผลขาดประสิทธิภาพ ล่าช้า เหตุผู้บริหารละเลย ขรก.ระดับสูงมีอิทธิพล เป็นอุปสรรคสอบข้อเท็จจริง ชี้ถ้าผู้บังคับบัญชาไม่ติดตามเอาผิดมีสิทธิ์โดนด้วย สั่ง กพ.ประชุมร่วมองค์กรบริหารงานข้าราชการกำหนดเกณฑ์กลาง
วันที่ 16 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จากการที่มีข่าวปรากฏตามหน้าสื่ออยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่เหมาะสม การกระทำผิดของข้าราชการ กรณีชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ คุกคามทางเพศ และการใช้สื่อออนไลน์ในการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศ ซึ่งถือเป็นความผิดทางวินัยและจริยธรรมร้ายแรง แต่ในทางปฏิบัติพบว่า มาตรฐานการดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมของข้าราชการประเภทต่างๆ ยังมีความแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องการนำมาตรการทางการบริหารมาใช้เป็นเครื่องมือในการดำเนินการทางวินัย ตลอดจนมาตรฐานการลงโทษที่ลักลั่นกัน ส่งผลให้การดำเนินการขาดประสิทธิภาพ และไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของการดำเนินการทางวินัยที่ว่า “ยุติธรรม เป็นธรรม รวดเร็ว” ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ อาทิ 1.ผู้บังคับบัญชาไม่นำมาตรการทางการบริหารมาใช้ดำเนินการหรือละเลยไม่ติดตาม 2.ผู้ปฏิบัติงานส่วนราชการอาจขาดบุคลากรที่มีความรู้ความชำนาญในเรื่องการดำเนินการทางวินัย 3.ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการระดับสูง อาจมีอิทธิพลต่อคณะกรรมการสอบสวน พยานบุคคล หรือผู้ให้ข้อมูล ทำให้เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบข้อเท็จจริง 4.บางเรื่องมีความซับซ้อน เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องหลายระดับ ต่างกรม ต่างกระทรวง หรือมีพยานหลักฐานจำนวนมาก ทำให้เกิดความล่าช้า
นางสาวรัชดากล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการแก้ปัญหาความล่าช้าในการดำเนินการทางวินัย และแก้ปัญหาความลักลั่นระหว่างการดำเนินการทางวินัยและมาตรฐานการลงโทษ ครม.จึงมีมติเห็นชอบมาตรการทางการบริหารเพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินการทางวินัยและจริยธรรม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.) เสนอ เพื่อให้การดำเนินการทางวินัยและจริยธรรมข้าราชการเป็นมาตรฐานเดียวกันและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยให้องค์กรการบริหารงานบุคคลประเภทต่างๆ นำมาตรการทางการบริหารที่เกี่ยวข้องกับวินัยและจริยธรรมร้ายแรง มาใช้ในการดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการ กรณีชู้สาว ล่วงละเมิดทางเพศ คุกคามทางเพศ รวมถึงการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการกระทำการดังกล่าว เช่น การสั่งพักราชการหรือการสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน การสั่งให้ประจำส่วนราชการ การสั่งสำรองราชการ หรือการสั่งตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินที่มีอยู่ ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว หากผู้บังคับบัญชาละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติหน้าที่โดยไม่สุจริต ให้ถือว่าผู้นั้นกระทำผิดวินัย
"นอกจากนี้ยังให้สำนักงาน ก.พ.จัดประชุมร่วมกันระหว่างองค์กรการบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่างๆ เพื่อศึกษาวิเคราะห์กฎหมายว่าด้วยการบริหารงานบุคคล เพื่อกำหนดมาตรฐานหรือหลักเกณฑ์กลาง ตามมาตรา 10 พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 เช่น การนำมาตรการทางการบริหารมาใช้เพื่อให้การดำเนินการทางวินัยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากพบข้าราชการกระทำผิดวินัยและจริยธรรมร้ายแรง โดยมีหลักฐานชั้นต้นเพียงพอก็ควรให้ออกจากราชการไว้ก่อน” นางสาวรัชดากล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |