น้องสาวคิม จองอึน กร้าวใส่สหรัฐล่วงหน้ารมต.เยือนเกาหลีใต้


เพิ่มเพื่อน    

คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอิทธิพลของคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ กล่าวเตือนสหรัฐอย่าได้ก่อเรื่องที่จะทำให้นอนไม่หลับไปอีก 4 ปี ขณะรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐคุยกับญี่ปุ่นเมื่อวันอังคารและออกแถลงการณ์ร่วมปรามจีนถึงพฤติกรรมบีบบังคับและบั่นทอนเสถียรภาพ

แฟ้มภาพ คิม จองอึน และคิม โยจอง น้องสาว ขณะร่วมการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้ ที่หมู่บ้านปันมุนจอม เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2561 (Photo by Korea Summit Press Pool/Getty Images)

    คำกล่าวของน้องสาวคิมซึ่งทำหน้าที่ที่ปรึกษาให้แก่พี่ชาย มีออกมาก่อนหน้าที่ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ จะเดินทางมาเยือนเกาหลีใต้ในวันพุธ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของรัฐมนตรีทั้งสองในรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่มีเป้าหมายรวบรวมพันธมิตรทางทหารเพื่อเป็นปราการต่อต้านจีนและประสานแนวร่วมต่อต้านเกาหลีเหนือ

    กองทัพสหรัฐและเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบร่วมประจำฤดูใบไม้ผลิเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจำกัดไว้แค่การจำลองทางคอมพิวเตอร์เนื่องจากภาวะโรคระบาด หนังสือพิมพ์โรดองซินมุนของทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่แถลงการณ์ของคิม โยจอง วิจารณ์การซ้อมรบดังกล่าวว่า "คำแนะนำต่อคณะบริหารชุดใหม่ของสหรัฐที่กำลังดิ้นรนแพร่กระจายกลิ่นดินปืนบนแผ่นดินของเราจากอีกฝั่งมหาสมุทร"

    "หากสหรัฐต้องการหลับสนิทในช่วง 4 ปีข้างหน้า ก็เป็นการดีกว่าที่สหรัฐจะไม่สร้างปัญหาตั้งแต่เริ่มต้นที่จะทำให้นอนไม่หลับ" คำแถลงของคิม โยจอง ซึ่งเป็นการกล่าวถึงรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เอ่ยชื่อของผู้นำสหรัฐโดยตรงก็ตาม

    นโยบายต่างประเทศแบบแหวกขนบในยุคของทรัมป์เริ่มต้นด้วยการด่าทอและขู่ทำสงครามกับคิม จองอึน ก่อนที่จะเปลี่ยนมาญาติดีและจัดประชุมสุดยอดกับคิมหลายครั้ง แต่สุดท้ายจบลงด้วยความล้มเหลว ก่อนพิธีสาบานตนของไบเดน คิมกล่าวถึงสหรัฐว่าเป็นศัตรูสำคัญอันดับหนึ่ง ในพิธีสวนสนาม เกาหลีเหนือยังเปิดตัวขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำชนิดใหม่ด้วย

    น้องสาวของคิมผู้นี้มีบทบาทสำคัญระหว่างที่ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีทวีขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งลงท้ายด้วยการที่เกาหลีเหนือระเบิดทำลายสำนักงานประสานงานระหว่างสองเกาหลี

    ชิน บอมชุล นักวิจัยจากสถาบันวิจัยเพื่อยุทธศาสตร์แห่งชาติเกาหลี ตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนหน้านี้ คล้อยหลังคำประกาศของน้องสาวคิมก็จะมีการดำเนินการติดตามมาจากทางการเปียงยาง เกาหลีเหนือเห็นว่าสหรัฐคงไม่ยอมโอนอ่อนให้ จึงได้ออกแถลงการณ์ก่อนหน้าที่บลิงเคนและออสตินมาเยือนเกาหลีใต้ และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการยั่วยุทางทหารจากเกาหลีเหนือระหว่างการเยือนและคล้อยหลังการเยือนของรัฐมนตรีสหรัฐ

    ออสตินและบลิงเคนเดินทางถึงกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเมื่อวันจันทร์ และในวันอังคารทั้งคู่ได้หารือกับรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น จากนั้นทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้เกาหลีเหนือล้มเลิกนิวเคลียร์อย่างสิ้นเชิง โดยเตือนว่าคลังแสงนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพระหว่างประเทศ

    แถลงการณ์ร่วมของสหรัฐและญี่ปุ่นเตือนจีนด้วยว่า "พฤติกรรมของจีน ซึ่งไม่สอดคล้องกับระเบียบระหว่างประเทศที่มีอยู่ แสดงถึงการท้าทายทางการเมือง, เศรษฐกิจ, การทหารและเทคโนโลยี" และว่ารัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายมุ่งมั่นคัดค้านพฤติกรรมบีบบังคับและทำลายเสถียรภาพที่กระทำต่อชาติอื่นๆ ในภูมิภาคนี้

    อย่างไรก็ดี บลิงเคนปฏิเสธที่จะให้ทัศนะต่อคำกล่าวของคิม โยจอง แต่เขาบอกว่า สหรัฐกำลังพิจารณาว่ามาตรการกดดันเพิ่มเติมต่างๆ จะได้ผลหรือไม่ หรือมีหนทางการทูตที่สมเหตุสมผลหรือไม่

    ก่อนหน้านี้ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยที่วอชิงตันว่า รัฐบาลสหรัฐพยายามติดต่อกับเกาหลีเหนือผ่านหลายช่องทางตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ รวมถึงผ่านช่องทางนิวยอร์ก ซึ่งหมายถึงทูตเกาหลีเหนือประจำองค์การสหประชาชาติ แต่ "จนถึงบัดนี้เรายังไม่ได้รับการตอบสนองจากเปียงยาง" จาลินา พอร์เตอร์ รองโฆษกกล่าวกับนักข่าวเมื่อวันจันทร์.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"