ช่างภาพม็อบ 3 นิ้ว เล่าเรื่องเยี่ยมแกนนำเจอ 'แอมมี่' ดูเศร้าผอมลงมาก โทษตัวเองเผาหน้าเรือนจำ


เพิ่มเพื่อน    

16 มี.ค.64 - กานต์ ทัศนภักดิ์ ศิลปินช่างภาพผู้ติดตามถ่ายภาพการชุมนุมม็อบสามนิ้ว โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Karnt Thassanaphak ว่า บันทึกไว้ เล่าเรื่องไปเยี่ยม "เพื่อนเรา" ที่ศาลอาญาเมื่อวาน 15 มีนาคม (ภาคบ่าย) ผมไปถึงบ่ายสองกว่าแล้วเพราะเข้านอนตอนเช้า จึงไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์สำคัญในช่วงเช้า (เสียดายมาก) ตอนที่เข้าไปในห้องพิจารณาคดี คนแรกที่ผมเห็นและยกมือไหว้คือคุณแม่น้องเกด Phayaw Akkahad จำเลยส่วนใหญ่นั่งอยู่ที่ม้านั่งแถวหน้าสุด

เพนกวิน - พริษฐ์ ชิวารักษ์ นั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกันกับไมค์ ภาณุพงศ์ จาดนอก รุ้ง Panusaya Sithijirawattanakul และคนรักของรุ้ง ผมจึงเดินไปนั่งแถวสองตรงด้านหลังรุ้ง ซึ่งว่างอยู่ รุ้งหันมาพอดีและร้องทักอย่างดีใจ

(1) รุ้งก็คือ "รุ้ง" ที่พยายามทำให้คนที่เป็นห่วงทุกคนสบายใจ ยิ้มเก่ง ร่าเริง คุยเก่ง ขี้อ้อน รุ้งยืนยันว่า "สบายดี" และทวง ก๋วยจั๊บ3วัน ที่ผมสัญญาว่าจะซื้อให้กินแต่ยังไม่สบโอกาสสักที  ผมรับคำว่าออกมาเมื่อไหร่จะกินเท่าไหร่ก็ได้

(2) "ตี๋, ตี๋ๆ" ผมเรียกเบาๆ เมื่อเห็นว่าคนถูกเรียกไม่ได้ยิน เพราะนั่งอยู่ปลายอีกด้านของม้า และกำลังคุยกับไมค์อย่างซีเรียส รุ้งจึงเอื้อมมือข้ามไปสะกิดให้ เมื่อเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ หันมาเห็นผมก็ลุกพรวดขึ้น ก่อนวิ่งอ้อมมาหา เรายืนกอดกันอยู่นานมาก แต่ผมยังรู้สึกไม่อยากปล่อย "ผมคิดถึงพี่มาก" "พี่ก็คิดถึงคุณ คิดถึงทุกวัน" เรานั่งคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง กวิ้นฝากฝังผมถึงเพื่อนบางคนที่มาไม่ได้ รวมทั้งสอบถามถึงความเคลื่อนไหวข้างนอกในบางประเด็น

(3) "นี่!! อย่ามาร้องห่มร้องไห้กันแถวนี้นะ พวกเราเป็นนักสู้ ไม่ใช่นักเศร้า เราต้องเข้มแข็ง!!!" ไมค์ ภาณุพงศ์ หันมาแกล้งดุ พร้อมกับยิ้มและขยิบตาให้ผม ผมหัวเราะเบาๆ ไมค์ยังเข้มแข็งเสมอ พวกเขายังคงเข้มแข็งเสมอ

(4) พี่สมยศ Somyot Pruksakasemsuk ดูสดชื่นและอารมณ์ดี พี่ยศพูดถึงยุทธวิธีต่างๆ แบบสบายๆ ทีเล่นทีจริง กับผมและพี่ลูกตาล

(5) #แอมมี่ ผอมลงไปมากจนผมจำไม่ได้ในตอนแรก (ส่วนหนึ่งคงเพราะมี่เปลี่ยนมาใส่แว่นเรียบๆ และใส่หน้ากากตลอดเวลา) ตอนที่ผมส่งมือไปขอจับยังนึกว่าเขาคือคุณโตโต้ ปิยรัฐ กระทั่งได้ยินเสียงพูด (มี่พูดเบามาก) และเห็นรอยสัก จึงรู้ว่าเป็นแอมมี่

มี่ลุกมานั่งคุยกับผมค่อนข้างนาน ทั้งฝากความคิดถึงห่วงใยมายังทราย Inthira Charoenpura และระบายความรู้สึกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นข้างนอกภายหลังที่ตัวเขาถูกจับกุม รวมทั้งโทษตัวเองว่าเป็นสาเหตุ ซึ่งผมยืนยันหนักแน่นว่าไม่ใช่ มี่ดูนิ่งขึ้นมาก สงบ แม้จะดูเศร้าไปบ้าง แต่เขายืนยันว่าตนเองสบายดี และเป็นห่วงทุกคนข้างนอก "...ผมรักขบวนการนี้มาก"

(6) ไผ่ Pai Jatupat ก็คือ "ไผ่" รอยยิ้มแบบไผ่และแววตาขี้เล่นยังคงมีให้เราเห็นแม้แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ คำแรกที่เขาทักผมก็คือ "พี่ทรายเป็นไงบ้างพี่" ก่อนจะถามถึงเรื่องราวต่างๆ ข้างนอก 
ตลอดเวลาที่คุยกัน ไผ่ยิ้มตลอดเวลา 

(7) #หมอลำแบงค์ ยังคงดูเศร้า ผมไม่ได้คุยกับเขา แต่ก็ได้เห็นรอยยิ้มตอบรับเมื่อผมเอ่ยทักและให้กำลังใจ - มันเป็นยิ้มของคนเศร้า ที่ยังติดตาผมอยู่ถึงตอนนี้

(8) ทนาย อานนท์ นำภา นั่งอยู่กับแม่ ผมไหว้แม่แล้วยิ้มให้ทนาย - ตั้งแต่เขายังไม่ถูกจับ ผมมีคำพูดมากมายอยากจะพูดกับอานนท์ ซึ่งผมได้บอกกับเพื่อนหลายคนไปแล้ว เหลือก็แต่อานนท์ แต่วันนี้ก็ยังไม่ใช่โอกาสที่เหมาะสม ผมอยากบอกเขาว่า จากเด็กหนุ่มที่เคยทำให้ผมหงุดหงิดในหลายๆเรื่อง - "อานนท์" ในวันนี้ได้กลายเป็นคนที่ผมสามารถยกมือไหว้ได้อย่างสนิทใจ

(9) ผมใช้เวลาอยู่ในห้องพิจารณาคดี 701 ประมาณ 1 ชม. ก่อนจะขอตัวลงไปด้านล่างเพื่อรอถ่ายภาพตอนส่งตัวกลับ (ก่อนจะพบว่าถ่ายไม่ได้) ผมกลับไปคุยเล่นกับกวิ้นอยู่อีกพักหนึ่ง นอกจากแม่แล้ว วันนี้น้องสาวของกวิ้นมาให้กำลังใจพี่ชายด้วย กวิ้นรักและห่วงน้องของเขามากๆ ขณะที่ผมมองว่าทั้งสองคนมีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง

(10) กระบวนการศาลใกล้เสร็จสิ้น, ผมเดินไปกอดลาทีละคน ก่อนจะลงมารอด้านล่าง ก่อนจะพบการป้องกันอย่างแน่นหนาไม่ให้สามารถถ่ายภาพจำเลยแต่ละคนได้ สิ่งหนึ่งที่ไม่ปรากฏในข่าว แต่พี่ไพศาล จันปาน วิ่งมาบอกพวกเราที่ยืนรอกันอยู่ก็คือ เพนกวินถูกใช้กำลังล็อคตัวขึ้นรถ หลังจากพยายามจะยืนชูสามนิ้ว

(บันทึกเมื่อ 16 มี.ค. 64)


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"