กลุ่มภาคีเซฟบางกลอยโกนหัว-ล่ามโซ่ประท้วงรัฐบาล ขีดเส้นนายกฯ ลงนามตั้ง คกก.พิสูจน์ข้อเท็จจริงคืนสิทธิ์ชาวบ้านใน 30 วัน ยันหากบรรลุข้อตกลง 4  ข้อพร้อมกลับบ้าน "ก้าวไกล" จ่อผลักดัน พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ เข้าสภา หวังปลดล็อกแก้ปัญหาบางกลอยและชาติพันธุ์อย่างยั่งยืน "บิ๊กป้อม" เมินม็อบทะลุไปที่ไหนเชิญตั้งหมู่บ้านได้

    เมื่อวันจันทร์ ที่บริเวณถนนพระรามที่ 5 แยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ฝั่งตรงข้ามทำเนียบรัฐบาล  กลุ่มภาคีเซฟบางกลอย พร้อมด้วยขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และกลุ่มเดินทะลุฟ้า ได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการเคลื่อนไหวอย่างสันติอหิงสา เพื่อย้ำถึง 4 ข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยกลุ่มผู้ชุมนุมเดินขบวนจากบริเวณถนนพระรามที่ 5 เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ข้ามมายังบริเวณหน้าประตู 3 ทำเนียบรัฐบาล
     พร้อมอ่านแถลงการณ์จากหัวใจคนใจแผ่นดิน โดยยืนยันถึง 4 ข้อเรียกร้อง ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ต้องลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ที่เป็นกลาง เพื่อพิสูจน์สิทธิชาวบางกลอยว่ามีสิทธิ์อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ และถ้าพิสูจน์ได้ว่าชาวบ้านมีสิทธิ์ต้องได้รับการคืนสิทธิ์ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน หลังจากที่นายกฯ ลงนาม 2.พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) ต้องเปิดประชุมคณะกรรมการพีมูฟอย่างเร่งด่วน 3.ให้นำผลการประชุมและคำสั่งแต่งตั้งเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารนี้เท่านั้น และต้องมีแนวทางรับประกันการแก้ปัญหา และ 4.ให้ชะลอการส่งสำนวนคดีของชาวบ้านบางกลอยจนกว่าจะได้ข้อยุติทั้งหมด
    ทั้งนี้ ถ้าบรรลุข้อตกลงทั้ง 4 ข้อดังกล่าว ยืนยันจะเดินทางกลับในวันที่ 16 มี.ค.ทันที แต่ถ้าไม่บรรลุข้อตกลงก็จะปักหลักและจัดกิจกรรมทุกวัน และบางวันอาจมีกิจกรรมเซอร์ไพรส์ อีกทั้งจะยังคงปักหลักชุมนุมที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลต่อไปร่วมกับกลุ่มเดินทะลุฟ้า V.2
    จากนั้นตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยการโกนศีรษะของชาวบางกลอยจำนวน 4  คน โดยจะโกนหัวทุกๆ ครึ่งชั่วโมงไปจนถึงเวลา 16.00 น.  ขณะเดียวกันก็ได้มีการล่ามโซ่แสดงสัญลักษณ์ว่าถูกจองจำอีกด้วย
    วันเดียวกัน ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ วันธงไชย คณบดีคณะวนศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ และคณะ ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เพื่อนำเสนอหลักการประกอบการพิจารณาจัดการกรณีประชาชนบ้านบางกลอย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้แทนรับเรื่อง
    นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ขอให้นายกฯ นำข้อเสนอของคณะวนศาสตร์ไปประกอบการพิจารณาตัดสินใจแก้ไขปัญหาในพื้นที่บ้านบางกลอย อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน  ดังนี้ 1.ให้คำนึงหลักการจัดการพื้นที่อุทยานแห่งชาติ 2.คำนึงหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ซึ่งภาครัฐและทุกภาคส่วนควรต้องสร้างโอกาสของบุคคล ชุมชน และผู้ยากไร้ให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าไม้ได้อย่างเท่าเทียม เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และหากมีการบังคับใช้กฎหมายต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม และ 3.คำนึงหลักการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เน้นพัฒนาคนให้มีทักษะความรู้ในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพ ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตที่ต้องอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ โดยคนต้องร่วมอนุรักษ์และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
    นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ สัดส่วนชาติพันธุ์ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีปัญหาชาวกะเหรี่ยงบางกลอยว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชน การบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐานตั้งแต่ปี 2539 และปี 2554 จนมาถึงปี 2564  ของเจ้าหน้าที่รัฐต่อพี่น้องชาวกะเหรี่ยงบางกลอย เป็นการกระทำที่ไม่เคารพสิทธิชุมชนท้องถิ่นดั้งเดิม เป็นการโยกย้ายที่ไม่ชอบด้วยหลักการสากลที่รัฐบาลลงนามกับนานาอารยประเทศ และยังขัดต่อความรู้สึกของคนไทยผู้รักความเป็นธรรม เพื่อการแก้ปัญหาในระยะยาวจากกรณีปัญหาพี่น้องกะเหรี่ยงบางกลอยและพี่น้องชาติพันธุ์ชนเผ่าพื้นเมืองในประเทศไทย พรรคก้าวไกลและเครือข่ายชาติพันธุ์พรรคก้าวไกลได้ร่วมกันยกร่างกฎหมายว่าด้วย  พ.ร.บ.ชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย เพื่อเสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะเป็นรูปแบบการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยในช่วงเวลานี้อยู่ในกระบวนการรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในแต่ละภูมิภาค และจะนำเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรตามขั้นตอน
    ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี  กล่าวถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มบางกลอยที่มีต่อรัฐบาลว่า วันอังคารนี้จะมีการประชุมและจะได้ข้อสรุป และพวกเขาจะกลับเพชรบุรีและเลิกชุมนุม
    เมื่อถามว่าจะทำอย่างไรกับกลุ่มเดินทะลุฟ้าที่ยังคงปักหลักชุมนุมอยู่ข้างทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า  "เขาจะเดินทะลุไปที่ไหนผมจะไปรู้เหรอ ก็ปล่อยให้เขาตั้งหมู่บ้านไป"    
    ต่อมาเวลา? 18.30? น.? นายธนาธร? จึงรุ่งเรืองกิจ? ประธานคณะก้าวหน้า? เดินทางมาบริเวณถนนพระรามที่ 5? ข้างศาล?กรมหลวงชุมพรฯ เพื่อร่วมทำกิจกรรมกับกลุ่มพีมูฟและภาคีเซฟบางกลอย? จากนั้นได้ขึ้นเวทีกล่าวกับผู้ชุมนุมตอนหนึ่งว่า?  คนกะเหรี่ยงบางกลอยเขาอยู่ในพื้นที่มานานก่อนที่จะมีกฎหมาย ก่อนที่จะมีอุทยานฯ เสียอีก นั่นสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่เห็นคุณค่าของประชาชน ไม่เห็นหัวประชาชน และกฎหมายมีความล้าหลัง เขาบอกว่าคนกับป่าอยู่ด้วยกันไม่ได้  แต่เราเชื่อว่าคนกับป่าอยู่ด้วยกันได้ หลายคนถูกคุกคาม ถูกดำเนินคดีอย่างไม่เป็นธรรม จนต้องมาชุมนุมกันอยู่ในที่นี้ ข้อเรียกร้องของพวกเขาไม่ได้ยาก ตนมาให้กำลังใจชาวบางกลอย แต่ยังมีกรณีแบบเดียวกันเกิดขึ้นทั่วประเทศ ดังนั้นประชาชนจะไม่ยอมแพ้
     จากนั้นนายธนาธรได้ขอให้ทุกคนตะโกนพร้อมกัน 3  ครั้งว่า "เซฟบางกลอย"
    เมื่อนายธนาธรกล่าวกับกลุ่มผู้ชุมนุมพีมูฟและภาคีเซฟบางกลอยเสร็จแล้ว? ได้เดินพบปะพูดคุยกับบรรดาผู้ชุมนุมทุกเต็นท์? ตั้งแต่เต็นท์หมู่บ้านบางกลอยไปจนถึงเต็นท์หมู่บ้านทะลุฟ้าที่ปักหลักชุมนุมทำกิจกรรมข้างๆ?.