เลือดนองเมียนมาตายอื้อ! โจมตีโรงงานคนจีน30แห่ง


เพิ่มเพื่อน    

 

เลือดนองเมียนมา กองกำลังความมั่นคงปราบปรามผู้ประท้วงตายเกินครึ่งร้อยเมื่อวันอาทิตย์และวันจันทร์ โรงงานของคนจีนโดนม็อบโจมตีกว่า 30 แห่ง  รัฐบาลประกาศกฎอัยการศึกในเขตไลง์ตายาของย่างกุ้งและเมืองมัณฑะเลย์ รัฐบาลจีนห่วงความปลอดภัยของพลเมือง ไต้หวันกลัวติดร่างแหแนะบริษัทชักธงชาติไต้หวันให้รู้ว่าไม่ใช่จีน

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 15  มีนาคมว่า วันอาทิตย์ที่ผ่านมานับเป็นวันนองเลือดที่สุดในเมียนมานับแต่มีการประท้วงต่อต้านการก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ รอยเตอร์อ้างคำกล่าวของแพทย์ผู้หนึ่งในเขตไลง์ตายา ชานเมืองย่างกุ้ง ที่เกิดการปราบปรามนองเลือดที่สุดเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทหารและตำรวจเมียนมาสังหารผู้ประท้วงอย่างน้อย 37  คน หลังเกิดเหตุโจมตีวางเพลิงโรงงานของคนจีนหลายแห่งในเขตนั้น
    วันเดียวกัน สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง (เอเอพีพี) ระบุว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิตอีก 16 คนในเมืองอื่นๆ  รวมถึงที่มัณฑะเลย์และพะโค ขณะที่สถานีเอ็มอาร์ทีวีของรัฐรายงานว่า มีตำรวจเสียชีวิต 1 นายที่พะโค จากบาดแผลที่หน้าอกหลังเผชิญหน้ากับผู้ประท้วง นับเป็นตำรวจรายที่ 2 ที่เสียชีวิต
    สื่อทางการเมียนมาประกาศว่า รัฐบาลได้ประกาศกฎอัยการศึกที่เขตไลง์ตายาและอีกหลายเขตของเมืองย่างกุ้ง  ทั้งยังได้ขยายไปอีกหลายพื้นที่ของเมืองมัณฑะเลย์ด้วยในวันจันทร์
    สถานีโทรทัศน์เมียวดีของกองทัพรายงานก่อนหน้านี้ว่า กองกำลังฝ่ายความมั่นคงดำเนินการหลังจากโรงงานสิ่งทอ 4 โรง และโรงงานปุ๋ย 1 โรง ในเขตไลง์ตายาโดนวางเพลิง และผู้คนราว 2,000 คนขัดขวางไม่ให้รถดับเพลิงเข้าพื้นที่
     ด้านเอ ทินซา หม่อง แกนนำประท้วง โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า มีโรงงานโดนเผาแค่ 2 แห่งเท่านั้นในตอนนี้ "ถ้าคุณต้องการทำธุรกิจในเมียนมาอย่างมั่นคง ก็จงเคารพชาวเมียนมา" เธอกล่าว "สู้ๆ ไลง์ตายา พวกเราภูมิใจในตัวพวกคุณ"
     รอยเตอร์ยังอ้างคำกล่าวของผู้เห็นเหตุการณ์และสื่อที่ไม่ใช่ของรัฐด้วยว่า ผู้สนับสนุนนางอองซาน ซูจี ออกมาเดินขบวนประท้วงกันอีกในหลายเมืองเมื่อวันจันทร์ รวมถึงที่มัณฑะเลย์ และในเมืองมยินจานและอองลานภาคกลางของประเทศ ที่ตำรวจยิงใส่ผู้ชุมนุม ถึงช่วงค่ำมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 ราย
    ผู้ประท้วงวัย 18 ปีในเมืองมยินจานเผยกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า เธอเห็นเด็กสาวคนหนึ่งโดนยิงที่ศีรษะและเด็กชายคนหนึ่งโดนยิงที่หน้า ขณะสำนักข่าวออนไลน์เมียนมานาวรายงานว่า มีคนเสียชีวิตที่มยินจาน 3 คน และที่อองลาน 2 คน นักข่าวรายหนึ่งในมัณฑะเลย์บอกว่ามีคนโดนยิงตายที่นั่นอีก 1 คน
    เอเอพีพีกล่าวด้วยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 140 คน และยังมีคนโดนจับกุมแล้วมากกว่า 2,150 คนนับถึงวันเสาร์ ในจำนวนนี้มากกว่า 300  คนได้รับการปล่อยตัว
    การโจมตีโรงงานของชาวจีนเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้รัฐบาลจีนแสดงท่าทีขึงขังที่สุดนับแต่เกิดสถานการณ์วุ่นวายในเมียนมา ซึ่งผู้ต่อต้านรัฐประหารจำนวนมากมองว่าจีนให้การหนุนหลังรัฐบาลทหาร หนังสือพิมพ์โกลบอลไทมส์ของจีนรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า มีโรงงานของนายทุนจีน 32 แห่งถูกทำลายทรัพย์สินในการโจมตีอย่างชั่วร้าย อันส่งผลให้เกิดความเสียหายมูลค่า 37 ล้านดอลลาร์ และมีลูกจ้างชาวจีนได้รับบาดเจ็บ 2 คน
     สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำเมียนมาออกแถลงการณ์กล่าวถึงสถานการณ์ว่า "รุนแรงมาก" และเรียกร้องให้เมียนมาใช้มาตรการเพิ่มเติมที่มีประสิทธิภาพเพื่อหยุดการกระทำทั้งหมดที่ใช้ความรุนแรง ลงโทษผู้กระทำผิดตามกฎหมาย และรับประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของบริษัทจีนและพลเมืองจีน แต่คำแถลงไม่ได้กล่าวถึงผู้ประท้วงที่เสียชีวิต ภายหลังคำแถลงนี้ เพจเฟซบุ๊กของสถานทูตจีนโดนถล่มด้วยทัศนะเชิงลบในภาษาเมียนมา และเกินครึ่งของปฏิกิริยาตอบโต้ หรือมากกว่า 29,000 ข้อความ
     ที่กรุงปักกิ่งในวันจันทร์ จ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน แถลงว่า จีนมีความห่วงกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของพลเมืองจีนและสถาบันของจีนในเมียนมา และจีนหวังว่าทางการเมียนมาจะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพิ่มเติมเพื่อรับประกันความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก
     การโจมตีโรงงานหลายแห่งของจีนทำให้สำนักงานตัวแทนไทเปประจำเมียนมา หรือสถานทูตไต้หวันโดยพฤตินัย ออกคำแนะนำให้นักธุรกิจชาวไต้หวันแขวนป้ายภาษาพม่าข้อความว่า "บริษัทไต้หวัน" และให้แขวนธงชาติไต้หวันที่โรงงานของพวกเขา และอธิบายให้คนงานในพื้นที่และเพื่อนบ้านทราบว่าเป็นโรงงานของไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้บุคคลภายนอกสับสนและเข้าใจผิด
    ด้านรัฐบาลญี่ปุ่น ซึ่งแข่งสร้างอิทธิพลกับจีนในเมียนมา กล่าวว่า ญี่ปุ่นกำลังเฝ้าติดตามสถานการณ์และกำลังพิจารณาว่าจะตอบโต้อย่างไรในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
     คริสทีน ชราเนอร์ บูร์เกเนอร์ ทูตพิเศษขององค์การสหประชาชาติประจำเมียนมา ประณามสิ่งที่เธอเรียกว่า "ความโหดร้ายไม่หยุดยั้ง" และว่าเธอได้รับฟังคำบอกเล่าจากผู้ติดต่อหลายคนในเมียนมาถึงการฆ่า การทำร้ายผู้ชุมนุม และการทรมานนักโทษ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ส่วนรัฐบาลอังกฤษ อดีตเจ้าอาณานิคม บอกว่าตกตะลึงที่ทหารและตำรวจเมียนมาใช้กำลังร้ายแรงกับผู้บริสุทธิ์ในไลง์ตายาและที่อื่นๆ แดน ชัค เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำเมียนมา กล่าวว่า อังกฤษเรียกร้องให้หยุดการใช้ความรุนแรงทันที และขอให้รัฐบาลทหารคืนอำนาจแก่ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยประชาชนชาวเมียนมา
    รอยเตอร์กล่าวว่า สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง ที่เป็นกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ที่จับอาวุธต่อสู้กับเมียนมามายาวนานที่สุด และลงนามข้อตกลงหยุดยิงกับกองทัพเมื่อปี  2555 ก็ประณามความรุนแรงเมื่อวันอาทิตย์ด้วย และกล่าวว่าพวกเขาสนับสนุนผู้ชุมนุมอย่างเต็มที่
    วันจันทร์ นางอองซาน ซูจี มีกำหนดให้การต่อศาลผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกลอีกครั้ง แต่คีน หม่อง ซอ ทนายความของนาง กล่าวว่า การไต่สวนนัดนี้ถูกเลื่อนไปเป็นวันที่ 24 มีนาคม เนื่องจากสัญญาณอินเทอร์เนตใช้ไม่ได้ ถึงขณะนี้นางซูจีโดนตั้งข้อหาแล้วอย่างน้อย 4 ข้อหา รวมถึงการนำเข้าวิทยุสื่อสารอย่างผิดกฎหมายและทำผิดกฎข้อบังคับควบคุมการระบาดของโควิด-19.

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"