ไมชอบมาพากล สพฐ.ตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ผอ.สพป.เขต 2 กรณีทุจริตจัดซื้อครุถัณฑ์โรงเรียนจังหวัดเพชรบุรี ซ้ำซ้อนกับศธ."โกศล"ระบุเห็นตรงกับ"หมอธี"ทุจริตชัดแจ้ง แต่ทำไมต้องมีการตั้งกรรมการสอบอีกชุดทำให้สรุปคดีล่าช้า ลั่นจะไล่บี้ด้วยตัวอง ยืนยันยุคนี้ไม่ยอมให้มีการเคลียร์แล้วกันไป หรือวิ่งเต้นช่วยเหลือแน่นอน
พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ที่ปรึกษา รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีทุจริตจัดซื้อครุภัณฑ์การศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เขต 2 เพชรบุรี ว่า ตามที่ตนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวตั้งแต่เริ่มมีการร้องเรียนแล้วนั้น ซึ่งทีมกฎหมายของตน และทีมกฎหมายของ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. มีความเห็นตรงกันว่ากรณีดังกล่าวมีความผิดที่ส่อไปในทางทุจริตอย่างชัดเจน เนื่องจากมีการส่งโต๊ะเก้าอี้ไปยังสถานศึกษาทั้งๆ ที่ยังไม่มีการจัดซื้อจัดจ้างแต่อย่างใด โดยได้มีคำสั่งให้นายฐานันดร บรรดาศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 มาปฏิบัติหน้าที่ ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เพื่อเปิดทางในการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว พร้อมมอบ สพฐ.ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัดให้ดำเนินการต่อ แต่ขณะนี้กลับพบว่า สพฐ.มีการตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงซ้ำอีกทั้งที่ตนและรมว.ศธ. มีความเห็นตรงกันแล้วว่าไม่ควรจะตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงอีก เพราะเรื่องนี้มีหลักฐานทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุอย่างชัดเจน ส่งผลให้กระบวนการทำงานล่าช้า ทั้งนี้กระบวนการสืบข้อเท็จจริง สพฐ.ได้รายงานว่าจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนนี้
“กรณีนี้จะต้องอยู่ในช่วงของการตั้งคณะกรรมการสอบวินัยอย่างร้ายแรงได้แล้ว ขณะเดียวกันภายในสัปดาห์หน้าผมจะไล่บี้เรื่องนี้ด้วยตัวเองว่ามีการดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่ามีการเคลียร์เรื่องนี้กันได้ ผมบอกได้เลยว่าที่ผ่านมา อาจจะมีกระบวนการช่วยเหลือหรือแอบอ้างในลักษณะแบบนี้ แต่ในยุคของผมและ รมว.ศธ. ประชาชนไม่ต้องกลัว เราจะไม่ยอม ให้เหตุการณ์วิ่งเต้นช่วยเหลือเกิดนี้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน” ที่ปรึกษา รมว.ศธ.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ความไม่ขอบมาพากล การจัดซื้อจัดจ้างครุภัณฑ์สพป.เขต 2 จากการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานแล้วพบว่าการจัดซื้อฯ มีทั้งหมด 25โรงเรียน แบ่งเป็น 3 กลุ่มลุ่มแรกคือการจัดซื้อและเบิกจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วจำนวน 21 โรงเรียน กลุ่มที่ 2 มีการทำเรื่องจัดซื้อแต่ยังไม่มีการเบิกจ่ายเงินจำนวน 3 โรง และกลุ่มสุดท้ายคือเสนอขอคืนงบประมาณ 1 โรงเรียน จำนวน 24 โรงเรียน พบว่ามีกระบวนการจัดซื้อที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง มีการนำครุภัณฑ์มาส่งมอบก่อนที่จะมีการทำเรื่องจัดซื้อจัดจ้าง โดยมีนายฐานันดร บรรดาศักดิ์ ผอ.สปพ.เขต 2 เป็นผู้ดำเนินการให้ร้านค้านำครุภัณฑ์ทั้ง โต๊ะ-เครื่องถ่ายเอกสารและคอมพิวเตอร์มาส่งมอบให้ทางโรงเรียน พร้อมทั้งอ้างว่าทางสพป.เขต 2 เป็นผู้ทำเรื่องจัดซื้อให้ และต่อมามีการนำครุภัณฑ์ทั้งหมดมาส่งยังโรงเรียนทั้ง 25 แห่ง และให้ทางโรงเรียนเป็นผู้ทำเรื่องจัดซื้อตามหลัง ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามพ.ร.บ.การการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
แต่ต่อมานางสาวสมจิต สุขสำราญ ผอ.ร.ร.บ้านหนองเผาถ่าน ที่เห็นความผิดปกติและปฏิเสธด้วยการคืนงบประมาณส่วนนี้ทันี้ทันที ทำให้เรื่องแดงขึ้นและนำไปส่การสอบสอบ และพบว่าเป็นการทุจริตจริง.
