ผู้บริโภคเตรียมรับกรรม “รถทัวร์-รถบรรทุก-เรือข้ามฟาก” จ่อขยับราคาขึ้น “เจ๊เกียว” มาแล้ว เตรียมบุกคมนาคม 21 พ.ค. แจ้งความเดือดร้อน ส่วนรถบรรทุกเตรียมถกนอกรอบ 22 พ.ค. เอาอย่างไรดี 

นโยบายของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน ที่สั่งให้ผู้ค้าน้ำมันงดประกาศการปรับเปลี่ยนราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดให้สาธารณชนทราบล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. เพราะอาจเข้าข่ายการกระทำผิดที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของนโยบายการส่งเสริมการแข่งขัน รวมทั้งอาจไม่ตรงกับเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 นั้น ซึ่งตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน พบว่าราคาน้ำมันมีการปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นน้ำมันที่ใช้ประโยชน์ด้านการขนส่งและผลิตเป็นหลัก โดยราคา ณ วันที่ 20 พ.ค. อยู่ที่ลิตรละ 29.79 บาท ทำให้ผู้ประกอบการด้านขนส่งต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหวแล้ว
โดยสำนักข่าวไทยรายงานว่า นางสุจินดา เชิดชัย หรือเจ๊เกียว นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสาร กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นจนถึงขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนผู้ประกอบการ โดยปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซลขึ้นทุก 1 บาท จะกระทบต้นทุนให้ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับราคาค่าโดยสาร 1 สตางค์ต่อกิโลเมตร ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่ได้ปรับราคามาระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้นในวันที่ 21 พ.ค. จะเดินทางไปกระทรวงคมนาคม เพื่อขอเข้าพบนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อขอนำคณะกรรมการทั้งสมาคมเข้าพบ แจ้งถึงความเดือดร้อนของผู้ประกอบการและความจำเป็นต้องให้คณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางอนุมัติปรับราคาให้
    นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นสูง กระทบผู้ประกอบการหนัก ซึ่งเข้าใจภาครัฐว่ายังไม่ต้องการให้ผู้ประกอบการปรับราคาขณะนี้ เพราะจะกระทบค่าครองชีพของประชาชนและกำลังซื้อในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ดี ซึ่งผู้ประกอบการเห็นว่าภาครัฐสามารถหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ เช่น การชดเชยราคาในส่วนของภาษีน้ำมัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวได้ในช่วงราคาน้ำมันขาขึ้น 
ขณะที่นายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ขึ้นสูงกว่า 29 บาท กระทบผู้ประกอบการรถบรรทุกอย่างมาก เนื่องจากผู้ประกอบการไม่ได้ปรับค่าขนส่งตั้งแต่ปี 2556 และในช่วงราคาน้ำมันขาลงปลายปี 2559 ผู้ประกอบการได้ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ปรับลดค่าขนส่งลง 10% เพื่อร่วมมือกับภาครัฐให้ราคาวัสดุก่อสร้างเหล็กปรับลดราคาลง ซึ่งประสบผลสำเร็จ และหลังจากราคาน้ำมันกลับมาช่วงขาขึ้นต้นเดือน พ.ค. ผู้ประกอบการเห็นว่าควรปรับราคาค่าขนส่ง 5% แต่กระทรวงคมนาคมและกรมการขนส่งทางบกแจ้งผู้ประกอบการขอให้ชะลอการปรับราคาออกไปอีกระยะ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสินค้าและเศรษฐกิจภาพรวม 
“ราคาน้ำมันที่ปรับตลอดเดือน พ.ค. ทำให้สหพันธ์จะประชุมเพื่อพิจารณาวาระต้นทุนค่าขนส่งวันที่ 22 พ.ค.นี้ โดยการพิจารณาจะเกิดความชัดเจนว่าจะปรับราคาทันทีหรือไม่ โดยการพิจารณานอกรอบกับสมาชิกส่วนใหญ่ต่างเห็นว่าหากต้นทุนน้ำมันสูงถึงขนาดนี้ คงถึงเวลาต้องปรับราคา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทันที
อย่างไรก็ตาม สหพันธ์อยากนำเสนอประเด็นให้ภาครัฐพิจารณา โดยเฉพาะปัญหาโครงสร้างราคาพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าประเทศในภูมิภาคเพื่อนบ้านของไทย ทั้งลาว เมียนมา กัมพูชา ต่างใช้น้ำมันดีเซลที่มีราคาถูกกว่าไทยทั้งสิ้น ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องปฏิรูปโครงสร้างราคาอย่างจริงจัง” นายทองอยู่
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า การพิจารณาค่าเรือโดยสารนั้น ในส่วนของผู้ประกอบการที่ให้บริการทั้งเรือด่วนเจ้าพระยาและเรือด่วนคลองแสนแสบ มีข้อตกลงภายใต้กรอบของคณะกรรมการฯ ซึ่งล่าสุดการกำหนดเพดานราคาค่าโดยสารตามราคาน้ำมันนั้น ผู้ประกอบการจะปรับราคาได้เมื่อราคาน้ำมันดีเซลทะลุ 29 บาทต่อลิตร แต่ต้องทิ้งช่วงเวลาให้ราคานิ่งเป็นเวลา 15 วัน 
    ทั้งนี้ นับตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย.เป็นต้นมา ราคาดีเซลมีการปรับขึ้นต่อเนื่อง จากที่อยู่ที่ราคา 27.89 บาท/ลิตร ได้ขยับมาอยู่ที่ 28.29 บาท/ลิตร และในวันที่ 1 พ.ค. และมาอยู่ที่ 29.79 บาทต่อลิตรในปัจจุบัน หรือปรับเพิ่มถึง 1.9 บาท/ลิตร โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น พบว่าราคาดีเซลได้ทะลุเกิน 30 บาท/ลิตรไปแล้วในหลายพื้นที่.