การชุมนุมของกลุ่มคนที่เรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตย มีข้อเรียกร้องและต้องการความเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง หนึ่งในคือ “การค้าประเวณีเสรี” ถึงขั้นตั้งโต๊ะล่ารายชื่อกันเป็นเรื่องเป็นราวเพื่อยื่นเสนอเป็นกฎหมาย
ผู้ขายบริการทางเพศข้างถนนที่เรียกว่า Street-based prostitute ในเมืองโอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ (เครดิตภาพ :digitalnz.org)
เมื่อเห็นว่าข้อเรียกร้องส่วนใหญ่ของผู้ชุมนุมมักจะอ้างความเป็นอารยะของโลกตะวันตก และต้องการเดินตามมาตรฐานชาติศิวิไลซ์เหล่านั้น ผมก็จะขอนำงานเขียนและการรวบรวมงานวิจัยเกี่ยวกับการค้าบริการทางเพศจากฝั่งโลกตะวันตกมาให้อ่านกันในวันนี้ครับ
“จูลี บินเดล” นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้เขียนหนังสือ “The Pimping of Prostitution : Abolishing the Sex Work Myth ได้เขียนรายงานลงใน “เดอะการ์เดียน” เมื่อ 3 ปีก่อน (https://www.theguardian.com/commentisfree/2017/oct/11/prostitution-legalised-sex-trade-pimps-women) เนื้อหาบางส่วนมีดังนี้
เมื่อถามว่า “เราควรทำอย่างไรกับการค้าบริการทางเพศ?” คำตอบที่ได้รับมากขึ้นคือ “ทำให้ถูกกฎหมายเสียสิ” การทำให้ซ่องโสเภณีและการซื้อขายบริการทางเพศถูกกฎหมาย จะทำให้ชีวิตผู้ขายบริการเสี่ยงน้อยลง ความรุนแรงก็น้อยลง พวกที่เห็นด้วยมักเป็นชาวลิเบอรัลและเฟมินิสต์บางส่วน พวกนี้มองว่าการค้าประเวณีถือเป็นอาชีพ สามารถได้รับการป้องกันจากสหภาพแรงงาน ระบบสาธารณสุข และมาตรการความปลอดภัย
ไม่กี่ปีมานี้ข้อถกเถียงนี้ได้เดินมาไกลมาก และเนเธอร์แลนด์ก็ได้ทำสิ่งที่ยอมรับกันมานานกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมายเมื่อปี ค.ศ.2000 จากนั้น 3 ปีต่อมานิวซีแลนด์ก็ผ่านกฎหมายด้วยเสียงโหวตที่ชนะกันแค่คะแนนเดียว
ฉันได้สัมภาษณ์ผู้รอดชีวิตจากการพาณิชย์ทางเพศจำนวนหลายคน สรุปตรงกันว่าการค้าประเวณีในตัวมันเองไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือไม่ ก็เป็นการถูกกระทำความรุนแรง สาเหตุและผลที่ตามมาคือความไม่เท่าเทียม และไม่มีทางที่จะทำให้เกิดความปลอดภัย
ในเนวาดา มลรัฐของสหรัฐอเมริกา ที่การค้าประเวณีถูกกฎหมาย ฉันได้สัมภาษณ์เจ้าของซ่องที่จัดหาผู้หญิงที่เป็นผู้บกพร่องทางการเรียนรู้หลายคนให้กับผู้ซื้อบริการ ทราบว่ามีอยู่คนหนึ่งถูกพ่อของแฟนหนุ่มเป็นคนนำพาเธอมา
สิ่งที่ฉันพบระหว่างสังเกตการณ์การรณรงค์ทำให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายในเนเธอร์แลนด์ ไอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร คือขาใหญ่ในวงการค้ากามได้ส่งเสียงที่มีอิทธิพลในการรณรงค์เหล่านั้น ส่วนมากเป็นผู้ให้ทุนการรณรงค์ซะด้วย และกลุ่มคนที่บอกว่าเป็นตัวแทนของผู้ขายบริการก็มักจะเป็นเสียงจากพวกแมงดา
ย่านโลกีย์ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ แหล่งท่องเที่ยวของคนทุกเพศทุกวัย ไม่จำเพาะแค่ผู้ที่มาซื้อบริการ (เครดิตภาพ : world.wng.org)
เมื่อปี 2010 ขณะที่ “สหภาพผู้ทำงานบริการทางเพศระหว่างประเทศ” เริ่มมีอิทธิพลในอังกฤษ ฉันศึกษาไปถึงเบื้องหลังและผู้เป็นสมาชิก พบว่าส่วนใหญ่เป็นนักวิชาการที่ทำงานเกี่ยวกับการซื้อขายบริการ ผู้ชายที่ซื้อบริการ และพวกคนที่ดำเนินกิจการแปลกๆ แทบจะไม่พบตัวแทนของฝ่ายผู้ขายบริการ
สมาชิกคนหนึ่งซึ่งเป็นโฆษกของสหภาพชื่อ “ดักลาส ฟ็อกซ์” มีบทบาทในพรรคอนุรักษนิยมและองค์การนิรโทษกรรมสากล หรือแอมเนสตีของสหราชอาณาจักร เขาผู้นี้เป็นเจ้าของร่วมบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการเอสคอร์ตเกิร์ล หรือ “เพื่อนเที่ยว” เขานำเสนอการทำให้การค้าประเวณีเป็นสิ่งถูกกฎหมายในการประชุมประจำปี 2008 ของแอมเนสตีอินเตอร์เนชันแนล จากนั้น 7 ปีต่อมาการทำให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายก็เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญขององค์การแอมเนสตีฯ
“คารีนา แชปมัน” สมาชิกสภาท้องถิ่นในกรุงอัมสเตอร์ดัมและเป็นอดีตผู้ขายบริการกล่าวในปี 2005 ว่า ตอนแรกก็คิดว่าการทำให้ถูกกฎหมายจะทำให้ผู้ขายบริการขึ้นทะเบียนกันมากขึ้น ความจริงคือราว 2 ใน 3 ของผู้ขายบริการเป็นชาวต่างชาติ ส่วนมากเข้าเมืองผิดกฎหมาย และไม่มีใครต้องการขึ้นทะเบียน
“จ็อบ โคเอน” อดีตนายกเทศมนตรีกรุงอัมสเตอร์ดัม กล่าวว่า การทำให้การค้าประเวณีถูกกฎหมายประสบความล้มเหลวในการลดองค์กรอาชญากรรมในวงการค้าบริการทางเพศ เขาได้แต่หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายให้กลับไปเหมือนเดิมในวันข้างหน้า
*************************
องค์กรชื่อ Demand Abolition เผยแพร่บทความ Why Prostitution Shouldn’t Be Legal หรือ “เหตุใดการค้าประเวณีจึงไม่ควรถูกกฎหมาย” ในเว็บไซต์ของพวกเขา (ลิงก์บทความ https://www.demandabolition.org/research/evidence-against-legalizing-prostitution/) มีเนื้อหาดังนี้
ความคิดที่ว่าการทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นสิ่งถูกกฎหมายจะส่งผลให้ความรุนแรงเสื่อมทรามลดลงนั้น เป็นเรื่องโกหกที่กล่าวกันเรื่อยมา หลายคนบอกว่าหากการขายตัวถูกกฎหมาย วางระเบียบ และได้รับการปฏิบัติอย่างอาชีพทั่วไป จะทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น แต่งานวิจัยที่ผ่านๆ มาชี้ไปอีกทาง บ่อยครั้งประเทศที่มีกฎหมายรับรองการพาณิชย์ทางเพศประสบกับปัญหาการค้ามนุษย์ ปัญหาจากพวกแมงดา และอาชญากรรมที่เกี่ยวข้อง (มีลิงก์การสำรวจ วิจัย การศึกษา การประเมินผล และผลงานการวิเคราะห์ต่างๆ อ้างอิงอยู่ในทุกประเด็นที่นำเสนอ โดยผมไม่ได้ใส่เข้าไปเพราะกินเนื้อที่ สามารถกดอ่านได้จากเว็บไซต์)
การค้าประเวณีไม่ว่าจะถูกกฎหมายหรือไม่ มีการถูกทำร้ายและได้รับความทุกข์ทรมานซึ่งไม่พบในอาชีพทั่วๆ ไป
๐ จากการสัมภาษณ์โสเภณีในนิวซีแลนด์พบว่า พวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกว่าการทำให้ถูกกฎหมายจะช่วยให้ความรุนแรงที่เคยประสบลดน้อยลงไป เท่ากับเป็นการบ่งชี้ว่าการค้าบริการทางเพศโดยธรรมชาติของมันมีความรุนแรงและการดูถูกเหยียดหยามอยู่ในตัว
๐ ผลการศึกษาเกี่ยวกับหญิงบริการร้านนวดในซานฟรานซิสโกพบว่า 62 เปอร์เซ็นต์ของพวกเธอถูกลูกค้าทุบตี
๐ การสืบสวนสอบสวนใน 8 เมืองของสหรัฐ มี 36 เปอร์เซ็นต์ของผู้ค้าบริการทางเพศถูกลูกค้ากระทำรุนแรงหรือดูถูกเหยียดหยาม
๐ อัตราการฆ่าตัวตายใน “ที่ทำงาน” ของหญิงบริการในโคโลราโดยุคคริสต์ทศวรรษ 1980 มีอัตรามากกว่าอาชีพที่เสี่ยงที่สุดสำหรับผู้ชายซึ่งได้แก่คนขับแท็กซี่ถึง 7 เท่า
การค้าประเวณีและการค้ามนุษย์เป็นรูปแบบความรุนแรงอันมีเพศสภาพเป็นพื้นฐาน
๐ ส่วนมากแล้วคนผู้ขายบริการทางเพศเป็นผู้หญิง หรือไม่ก็หญิงข้ามเพศ ส่วนผู้ซื้อบริการส่วนใหญ่คือผู้ชาย
๐ ผู้ให้บริการทางเพศส่วนใหญ่ซึ่งเป็นผู้หญิงเผชิญกับความเสี่ยงถูกก่ออาชญากรรมและความรุนแรงโดยผู้ซื้อฝ่ายชาย บ่งชี้ว่าการค้าประเวณีคือความต่อเนื่องของความรุนแรงที่ฐานมาจากเพศสภาพ ข้อเท็จจริงนี้เกิดขึ้นจริงแม้ในพื้นที่ที่การค้าบริการทางเพศถูกกฎหมาย
การทำให้อาชีพโสเภณีถูกกฎหมายไม่ได้ลดจำนวนการค้าประเวณีที่ผิดกฎหมาย
๐ รัฐสภาของยุโรปได้ดำเนินการสอบสวน และพบว่าในประเทศที่การค้าประเวณีถูกกฎหมาย เช่น ในออสเตรีย ผลที่ตามมาหลังมีกฎหมายดังกล่าวก็คือมีโสเภณีย้ายถิ่นเข้าไปเป็นจำนวนมาก และก่อให้เกิดผลทางอ้อมสนับสนุนให้มีการค้าประเวณีในตลาดมืด
๐ เดนมาร์กซึ่งการค้าประเวณีถูกกฎหมายตั้งแต่ปี ค.ศ.1999 รัฐบาลของพวกเขาเปิดเผยว่า ในทศวรรษต่อมามีการค้าบริการทางเพศอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
๐ การรวบรวมบทสัมภาษณ์โสเภณีในเนเธอร์แลนด์ได้มีรายงานออกมาว่า การที่อาชีพนี้ถูกกฎหมายทำให้เกิดการดึงดูดหญิงจากต่างประเทศเข้ามาค้าบริการในเนเธอร์แลนด์มากขึ้น
ถูกกฎหมายแต่ไม่ได้ทำให้การถูกประณามหยามเหยียดจากสังคมต่อผู้ขายบริการลดลง
๐ หลังจากนิวซีแลนด์ออกกฎหมายให้มีการค้าประเวณีได้ในปี 2003 ก็ยังมีรายงานว่าผู้ขายบริการทางเพศยังคงถูกดูหมิ่นและถูกคุกคามจากคนทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่อยู่ในอาชีพนี้ยังไม่ค่อยเปิดเผยอาชีพของตนเมื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล ไม่ต่างจากก่อนการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย
การค้าบริการทางเพศที่ถูกกฎหมายกลับทำให้มีการค้ามนุษย์เพิ่มขึ้น
๐ การศึกษาชิ้นหนึ่งจากข้อมูลใน 150 ประเทศ พบว่า ประเทศที่การค้าประเวณีถูกกฎหมายประสบกับปัญหาการค้ามนุษย์มากกว่า
๐ การวิเคราะห์เชิงปริมาณชิ้นหนึ่งก็รายงานไปในทางเดียวกันว่า การค้ามนุษย์เกิดขึ้นแพร่กระจายมากที่สุดในประเทศที่การค้าประเวณีถูกกฎหมาย
๐ การค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายได้ทำให้ตลาดการค้าบริการโดยรวมขยายขนาดขึ้น โดยผลประโยชน์ไปตกอยู่กับองค์กรอาชญากรรมที่ได้กำไรจากการค้ามนุษย์
ความพยายามในการควบคุมการค้าประเวณีล้มเหลวและการปฏิบัติตามระเบียบมีน้อย
๐ การประเมินผลขนาดใหญ่ของการค้าประเวณีถูกกฎหมายในเนเธอร์แลนด์ โดยการประสานงานของกระทรวงยุติธรรม พบว่า ซ่องโสเภณีที่มีใบอนุญาตไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับการถูกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ทำให้การปฏิบัติตามกฎไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าประสงค์ไว้ รวมถึงทำให้การต่อสู้กับการค้ามนุษย์ประสบปัญหา
๐ มีหลักฐานจำนวนมากแสดงว่าแม้การค้าบริการทางเพศในเนเธอร์แลนด์ถูกกฎหมาย แต่ตัวโสเภณีจำนวนมากยังคงอยู่กับความลับ ความเป็นนิรนาม และการโยกย้ายเงิน บ่งชี้ว่าตลาดของการค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายทำงานคล้ายกับตลาดมืด
๐ คณะกรรมการสังเกตการณ์กฎหมายการค้าประเวณีของนิวซีแลนด์รายงานว่า ผู้ให้บริการทางเพศรู้สึกว่ากฎหมายนี้คงจัดการกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่ได้มาก คณะกรรมการนี้ยังพบด้วยว่าซ่องโสเภณีบางแห่งไม่ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมแก่ผู้ขายบริการ และซ่องเหล่านี้มีการจัดการที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ขายบริการ แม้ว่าการค้าประเวณีจะถูกกฎหมายแล้วก็ตาม
๐ รัฐบาลเยอรมนีประเมินผลกฎหมายการค้าประเวณีปี 2001 ว่ามีผู้ให้บริการทางเพศน้อยกว่า 8 เปอร์เซ็นต์มีประกันอย่างเป็นทางการในฐานะอาชีพโสเภณี (65 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขายบริการในเยอรมนีที่มีทั้งหมดประมาณ 4 แสนคนเป็นชาวต่างชาติ)
การค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายมีส่วนส่งเสริมให้เกิดองค์กรอาชญากรรม
๐ มีการพบว่าการค้าประเวณีที่มีการควบคุม (ถูกกฎหมาย) ทำให้เกิดฉากหน้าของความถูกต้องทางกฎหมายที่ซ่อนการหาประโยชน์จากการค้าบริการทางเพศนี้ไว้เบื้องหลัง และซ่องโสเภณีสามารถปฏิบัติหน้าที่เหมือนเป็นร้านค้าถูกกฎหมายที่ขายของเถื่อน หรือเหยื่อการค้ามนุษย์
๐ ตัวอย่างที่ว่าการค้ามนุษย์สามารถทำงานอยู่หลังฉากของการค้าประเวณีที่ถูกกฎหมายก็คือ คดีที่โด่งดังชื่อ “Sneep case” (รายละเอียดในล้อมกรอบท้ายเรื่อง)
นอร์ดิกโมเดล (ผู้ค้าไม่ผิดกฎหมาย แต่ผู้ซื้อผิด) ได้ทำให้การค้าบริการทางเพศตามข้างถนนลดลง
๐ การค้าบริการทางเพศ (ตกลงซื้อขายตามข้างถนน) ในสวีเดนลดลงไปประมาณครึ่งหนึ่ง
๐ การประเมินผลในนอร์เวย์ก็เช่นกัน หลังจากนำโมเดลดังกล่าวมาใช้ก็ทำให้อุปสงค์ของผู้ซื้อลดลง จึงทำให้ขอบข่ายของการค้าบริการลดลงไปด้วย ผลที่ออกมานี้ได้รับการยืนยันเช่นเดียวกันจากการศึกษาอื่นๆ
นอร์ดิกโมเดลได้ป้องกันการขยายการค้าประเวณีในภาพรวม
๐ ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของสวีเดนอย่างเดนมาร์กและฟินแลนด์ ประสบกับการเพิ่มขึ้นของการค้าประเวณี แต่ตัวเลขของสวีเดนไม่เพิ่มขึ้นในทศวรรษถัดมาหลังการนำนอร์ดิกโมเดลมาใช้
ผู้ให้บริการทางเพศส่วนมากมาจากประชากรกลุ่มเปราะบางและขาดโอกาส ตรงกันข้ามกับฝ่ายผู้ซื้อ
๐ ผู้ขายบริการส่วนใหญ่ได้รับการศึกษาน้อย และถูกผลักเข้าสู่วงจรการค้าประเวณีเพราะขาดโอกาส
๐ ตัวเลขในนิวซีแลนด์ซึ่งการค้าประเวณีถูกกฎหมายเปิดเผยว่า 73 เปอร์เซ็นต์ของผู้ขายบริการทางเพศต้องการนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในครัวเรือน และประมาณครึ่งหนึ่งของผู้ขายบริการตามข้างถนนและกลุ่มคนข้ามเพศไม่มีแหล่งรายได้อื่น
๐ ในทางตรงกันข้าม ผู้ซื้อบริการทางเพศมักเป็นคนทำงานเต็มเวลา จบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย และมีรายได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป
****************************
คดี Sneep Case พิพากษาการค้าประเวณีเสรี
Sneep คือรหัสที่หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมของเนเธอร์แลนด์ใช้ในการสืบสวนคดีนี้เมื่อปี ค.ศ.2005
เรื่องนี้มีอยู่ว่า 2 พี่น้องชาวเยอรมันผู้มีเชื้อสายตุรกี ชื่อ “ฮัสซัน บารัน” และ “ซาบัน บารัน” อายุ 42 ปี และ 37 ปี ตามลำดับ หัวหน้าแก๊งแมงดาที่มีธุรกิจทั้งในเนเธอร์แลนด์ เยอรมนี และเบลเยียม ได้ล่อลวงหญิงสาวจากทางตะวันออกและทางใต้ของยุโรปให้มาทำงานกับพวกเขา โดยสัญญาจะมอบค่าแรงและสวัสดิการให้อย่างงาม
ทันทีที่สาวๆ เหล่านี้เดินทางมาถึงเนเธอร์แลนด์หรือเยอรมนีด้วยความหวังใหม่ในชีวิต คนของแก๊งจะริบพาสปอร์ต เหล่าแมงดาและคนขับรถจะคอยควบคุมสอดส่องพฤติกรรม ห้ามไม่ให้ติดต่อใคร และข่มขู่จะทำร้ายญาติพี่น้องในประเทศที่พวกเธอจากมา
พวกเธออย่างน้อย 120 คนถูกบังคับให้ค้าประเวณี ถูกทุบตี ข่มขืน และสำหรับคนที่หน้าอกหน้าใจมีขนาดใหญ่ไม่พอก็จะถูกบังคับให้เสริมขนาด หากใครท้องก็บังคับให้ทำแท้ง
ในระยะเวลา 10 ปี แก๊งนี้ทำเงินได้ถึง 19 ล้านยูโร หรือประมาณ 700 ล้านบาท ฟอกเงินผ่านแม่บังเกิดเกล้าของ 2 หนุ่มที่มีชื่อเป็นเจ้าของทั้งซ่องโสเภณีและไนต์คลับจำนวนหลายแห่ง
“รูธ ฮอปกินส์” นักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับวีรกรรมของ 2 พี่น้องเยอรมัน-เติร์ก ให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ดัตช์ไม่จริงจังในการปราบปรามในช่วงเวลาก่อนหน้านี้
“พวกเขาเหมือนจะเดินหน้าลุย แต่ผมมองว่าในช่วงที่ผ่านๆ มาเป็นแค่ผักชีโรยหน้าเท่านั้น”
“ส.ส.เฟร็ด ทีเวน” ซึ่งเป็นอดีตอัยการ กล่าวยอมรับว่า เป็นเรื่องยากในการรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะที่อยู่ในต่างประเทศ และอีกปัญหาคือเหยื่อของอาชญากรรมต้องขึ้นให้การในศาล แต่ฝ่ายจำเลยมักจะกล่าวหาว่าเราเสนอพยานเท็จ
อย่างไรก็ตาม ที่สุดแล้วศาลได้พิพากษาในเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2009 ให้จำเลย 2 พี่น้องติดคุกในข้อหาค้ามนุษย์ แม้ว่าโทษจะเบาะๆ แค่ 2 ปี และ 7 ปีเท่านั้น
ฮอปกินส์เน้นย้ำว่า คดีนี้เป็นเพียงยอดของภูเขาน้ำแข็ง และทุกๆ ครั้งที่ไอ้แมงดาติดคุกไป 1 ตัว ก็จะมีแมงดาตัวใหม่อีก 2 ตัวนอกคุกรอเสียบและเสพสุขบนคราบคาวโลกีย์และคราบน้ำตาของสตรีเพศสืบไป.
อ้างอิง :
- expatica.com/be/uncategorized/largest-people-trafficking-case-in-netherlands-on-trial-77748/
-------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |