'ไพบูลย์' อ้างคำวินิจฉัย 1 ใน 8 ตุลาการศาลรธน. โหวตวาระ 3 ผิดกฎหมาย


เพิ่มเพื่อน    

13 มี.ค.64 - นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝ่ายกฎหมาย ในฐานะผู้ยื่นญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ กล่าวว่าตามที่ สำนักข่าวอิศรา ได้มีการเผยแพร่คำวินิจฉัยส่วนตนของนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 1 ในตุลาการฯเสียงข้างมาก 8 ราย ดังมีส่วนหนึ่งของคำวินิจฉัยส่วนตนว่า

“พิจารณาแล้วเห็นว่า รัฐสภาย่อมมีหน้าที่และอาจในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ แต่กระนั้นอำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มีลักษณะเป็นอำนาจที่แตกต่างจากอำนาจในการพิจารณาให้ความเห็นชอบกฎหมายที่เป็นอำนาจนิติบัญญัติตามปกติ เนื่องจากเป็นอำนาจสำคัญที่กระทบต่อความมั่นคงของรัฐธรรมนูญอันเป็นที่มาของสถาบันและองค์กรต่าง ๆ ที่ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงรัฐสภาซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับมอบหมายให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญด้วย ในกรณีเช่นนี้ รัฐสภาจึงต้องทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายอย่างเคร่งครัด ไม่อาจใช้อำนาจนอกเหนือจากที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้ ไม่ว่า จะเป็นการละเมิดข้อห้ามแก้ไขเพิ่มเติมหลักการพื้นฐานของประเทศ หรือดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีลักษณะเป็นการโอนอำนาจการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่เป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาไปให้องค์กรอื่นเป็นผู้กระทำการแทน (โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มีอำนาจเด็ดขาดอิสระจากรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ) ได้”

 และคำวินิจฉัยส่วนตนปรากฏบทสรุปข้อ 3. “รัฐสภาเท่านั้นเป็นผู้มีหน้าที่และอำนาจในการดำเนินการ โดยอาจแต่งตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) หรือสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ก็ได้ แต่มิใช่มอบอำนาจให้ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ดำเนินการอย่างเป็นอิสระเด็ดขาดจากรัฐสภา เพราะที่มาของ ส.ส.ร. ดังกล่าวแม้จะเป็นอย่างเดียวกับการได้มาซึ่ง ส.ส. แต่ ส.ส.ร. ก็ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของรัฐสภา ดังนั้นเมื่อมี ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการเลือกตั้ง ส.ส.ร. โดยตรงเพื่อมาทำหน้าที่เดียวกันอีก”

นายไพบูลย์ กล่าวว่า คำวินิจฉัยส่วนตนนี้ชี้ชัดเจนว่า ร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านวาระที่สอง รอลงมติวาระที่ 3 ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ ได้บัญญัติให้รัฐสภามอบอำนาจให้ ส.ส.ร. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง ดำเนินการอย่างเป็นอิสระเด็ดขาดจากรัฐสภา จึงเป็นร่างรัฐธรรมนูญที่ขัดต่อคำวินิจฉัยส่วนตนของนายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 1 ในตุลาการฯเสียงข้างมาก 8 ราย

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ตนได้แสดงความเห็นไว้ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมว่า รัฐสภายังไม่มีหน้าที่และอำนาจ ในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่จะมีขึ้นต่อเมื่อประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่า ประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จากนั้นรัฐสภาจึงจะมีหน้าที่และอำนาจในจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ และตนเห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้เป็นหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาที่ต้องดำเนินการเอง ไม่สามารถมอบอำนาจให้ ส.ส.ร. มาดำเนินการแทนได้ตามร่างรัฐธรรมนูญที่รอพิจารณาในวาระที่ 3 ดังนั้นความเห็นส่วนตน จึงไม่สามารถโหวตเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญที่ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"