ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ


เพิ่มเพื่อน    

     ยังนึกภาพไม่ออก...ว่าเหตุการณ์วันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) มันจะออกมาในแนวไหน ในเมื่อกลุ่ม คนอยากเลือกตั้ง เขาดูจะมุ่งมั่น ตั้งใจ ที่จะ ยั่วส้นตีน คสช.อย่างเป็นระบบและกิจการซะเหลือเกิน เตรียมเคลื่อนขบวนคนไปทำเนียบรัฐบาลให้จงได้ ชนิดไม่ต้องเสียเวลาสนใจกับมาตราฉี่ฉิบฉ่ง ฉี่ฉิบฉี่ อะไรให้เมื่อย ขณะที่ คสช. เอง...ก็ดูจะหงุดหงิด งุ่นง่าน ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงหลังๆ นี้ ชักเริ่มออกอาการ แตะเธอไม่ได้...โลกแตกแน่ อะไรประมาณนั้น...
                                  ---------------------------------------------------
    คือถ้าจะว่ากันถึงความน่าห่วง น่ากังวล...คสช. นั่นแหละ ที่ออกจะเป็นอะไรที่น่าห่วง น่ากังวล ยิ่งขึ้นทุกที โดยเฉพาะอาการหงุดหงิด ฉุนฉิว กริ้วโกรธ ที่ถูกแสดงออกผ่านตัวตนของปัจเจกบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กรและสถาบัน ไม่เพียงพร้อมลุกขึ้นมาตอบโต้ใครต่อใครแบบดอกต่อดอก ยังตามไปไล่บี้ ไล่เช็ด แจ้งความเอาผิดกับเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่อง จนต้องกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาจนได้ ชนิดที่ความเป็น เผด็จการละมุนภัณฑ์ เริ่มออกอาการ กระด้างภัณฑ์ อย่างเห็นได้ชัด ขัดกับหลัก ปรัชญาเหลาจื๊อ ที่ย้ำนัก ย้ำหนา มานับเป็นพันๆ ปีแล้วว่า...ความอ่อนโยนชนะความแข็งกร้าว ฉะนั้น...พึงอ่อนโยนให้เหมือนห้วงน้ำในมหาสมุทร ตั้งอยู่ในที่ต่ำ อันเป็นแหล่งที่รวมของแม่น้ำทั้งหลาย ฯลฯ...
                               ----------------------------------------------------
    พูดง่ายๆ ว่า...ยิ่งมี อำนาจ มากเท่าไหร่ ยิ่งต้องพยายามใช้อำนาจให้น้อยๆ ลงไปเท่านั้น มันถึงสามารถเป็นห้วงน้ำในมหาสมุทร อันเป็นแหล่งที่รวมของแม่น้ำแต่ละสายขึ้นมาได้จริงๆ แต่ถ้าดันไปฉุนฉิว กริ้วโกรธ หงุดหงิด งุ่นง่าน ในเรื่องที่แทบไม่น่าจะเป็นเรื่อง ความหงุดหงิด งุ่นง่านนั้นๆ นั่นแหละ คงไม่ต่างอะไรไปจาก เขื่อน แต่ละเขื่อน ที่กลายเป็นที่เก็บกัก ขังเอาสิ่งต่างๆ ให้ตกตะกอนนอนก้น สร้างปัญหาให้กับแหล่งน้ำแต่ละแหล่ง รวมทั้งกลายเป็นตัวลดทอนศักยภาพของห้วงมหาสมุทรไปในตัว ยิ่งในช่วงจังหวะที่ น้ำลง หรือ ขาลง จนอะไรต่อมิอะไรชักจะแห้งแหงแก๋ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ การควบคุมอารมณ์ การ เปิดประตูน้ำ ให้พอได้ไหลไป-ไหลมากันได้มั่ง มันน่าจะเหมาะกว่า การมุ่งแต่จะปิดเขื่อน กั้นเขื่อน ลูกเดียวเท่านั้น...
                               --------------------------------------------------
    คือโดยสภาพเงื่อนไขและเหตุปัจจัย...ที่ทำให้น้ำในแต่ละสาย มันชักไหลเชี่ยว ไหลแรง ยิ่งขึ้นๆ คงไม่ได้เป็นเพราะมันไปกินดีหมี หัวใจเสือ มาจากที่ไหนต่อที่ไหน แต่ด้วยเหตุเพราะน้ำมันกำลังลง หรือเพราะด้วยภาวะ ขาลง นั่นเอง ที่มันเป็นเหตุปัจจัยสำคัญที่สุด อันนำมาซึ่งความกระเหี้ยน กระหือรือ ของบรรดาสายน้ำในแต่ละสาย แม้แต่ประเภท น้ำเน่า ก็เถอะ ด้วยเหตุนี้หนทางที่จะแก้ไข เยียวยา หรือทุเลาเบาบาง อาการไหลเชี่ยว ไหลแรงเหล่านี้ มันคงต้องมุ่งไปที่รากฐานของ เหตุปัจจัย เป็นสำคัญ คือทำยังไงที่มันจะช่วยให้เกิดอาการ ขาขึ้น หรือ น้ำขึ้น ได้มั่ง ทำให้ที่รวมของแหล่งน้ำเต็มไปด้วย น้ำสะอาด ไม่มีน้ำเน่า น้ำดำ น้ำจากบ่อเกรอะ ฯลฯ ไหลเข้ามารวมกัน จะด้วยแรงดูด หรือแรงอะไรก็ตามแต่...
                               -----------------------------------------------------
    เพียงเท่านั้น...ก็สามารถทำให้ความกระเหี้ยนกระหือรือ ความไหลเชี่ยว ไหลแรง ของน้ำต่างๆ มันลดๆ ลงไปตาม หลักธรรมชาติ ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์ ไม่ต้องเสียเวลาไปปิดประตูน้ำ-เปิดประตูน้ำ เอาแต่เฉพาะน้ำที่ตัวเองต้องการ ปิดกั้น สกัดกั้น น้ำที่ตัวเองไม่ต้องการ จนขัดกับหลักธรรมชาติ หรือก่อให้เกิดอาการ สองมาตรฐาน อย่างเห็นได้โดยชัดเจน เหมือนอย่างที่ฝ่ายตรงข้ามมันหยิบมากล่าวหานั่นแหละว่า...ที บุรีรัมย์ มาร่วมชุมนุมถึง 3 หมื่น 4 หมื่น กลับไม่ถูกแจ้งความดำเนินคดีใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่พอ เผาไทย นั่งแถลงข่าวแค่ 3 คน 4 คน กลับโดนไล่เช็ด ไล่บี้ กะจะเอาเป็น-เอาตายให้จงได้ อันนี้...จะไปเถียงยังไงก็คงเถียงไม่ออกอยู่แล้วแน่ๆ...
                                -------------------------------------------------------
    และความเสียหายที่มันจะย้อนกลับเข้ามา...คงไม่ใช่แค่ใครได้สะใจ ใครได้เล่นงานใครไปตามสภาพ แต่มันจะทำให้สิ่งที่เรียกๆ กันว่า ความชอบธรรมทางการเมือง อันเป็นสิ่งที่สำคัญเอามากๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเผด็จการ หรือฝ่ายประชาธิปไตยก็ตามแต่ ย่อมมีอันต้องลดน้อยถอยลง แห้งลง-แห้งลง ไปตามสภาพ ซึ่งออกจะน่าเสียดายมิใช่น้อย โดยเฉพาะในช่วงจังหวะสุดท้ายของโรดแมป ที่จะต้องอาศัยพลังขับเคลื่อนอย่างทั่วด้าน มันถึงจะสามารถก้าวข้ามคอสะพาน ไปสู่แผ่นดินใหม่ การเมืองใหม่ ได้อย่างเต็มสูบ เต็มกำลัง...
                              ------------------------------------------------------
    ความหงุดหงิด งุ่นง่าน ฉุนฉิว กริ้วโกรธ ที่ชักจะเพิ่มๆ ขึ้นไปตามลำดับ...จึงอาจต้องระมัดระวังเอาไว้มั่ง ว่าอย่าถึงกับต้องให้มันลุกลาม บานปลาย จนกลายสภาพไปสู่การสร้างเงื่อนไข เหตุปัจจัย ให้ต้องเกิด รัฐบาลเฉพาะกาล ดังที่ มังกือการเมือง อย่าง พ่อใหญ่บิ๊กจิ๋ว ท่านออกมาจุดประกายเอาไว้เมื่อวันสองวันที่ผ่านมา เพราะถ้าไปไกลถึงขั้นนั้น...ทุกสิ่งทุกอย่างก็ยิ่ง ดูไม่จืด ยิ่งขึ้นไปอีก สู้หันมาสะกดกลั้น สะกดอารมณ์ ปล่อยให้แต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันดำเนินไปตามครรลองของธรรมชาติ หันมาอาศัย ธรรมเป็นอำนาจ ไม่ใช่ อำนาจเป็นธรรม โอกาสที่จะแฮปปี้เอนดิ้ง ก็น่าจะอยู่ไม่ใกล้-ไม่ไกล เกินไปจากนี้...
                              -----------------------------------------------------
    ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Baron de Montesquieu... “Constant experience shows that every man who has power is apt to abuse it and to carry his power to the limit. – ประสบการณ์อันมั่นคง ชี้ให้เห็นว่า ผู้ที่มีอำนาจมักใช้อำนาจไปในทางที่ผิด และมุ่งจะใช้อำนาจนั้นๆ จนถึงขีดสุด...”
                                ---------------------------------------------------
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"