‘ตรีนุช’ผงาดนั่งรมว.ศธ. ปชป.ส่ง4สส.ใต้ชิงเก้าอี้


เพิ่มเพื่อน    

  โผ ครม.ชัดขึ้น "ชัยวุฒิ" จ่อนั่ง รมว.ดีอีเอส "ตรีนุช"  แบ็กดีผงาดนั่ง รมว.ศธ. ขณะที่ดีล "ภท.-ปชป." ลงตัว สลับ รมช.พาณิชย์-คมนาคม แต่ชื่อ "บุญลือ" โผล่เบียด "วีรศักดิ์" ด้าน “เสี่ยหนู” อ้าง รมว.-รมช.พรรคเดียวกันประชาชนได้ประโยชน์ กั๊กส่งชื่อ “บุญลือ” เป็น รมต. ?“นาที” เข้าทำเนียบฯ ปฏิบัติหน้าที่ที่ปรึกษาอนุทิน "ส.ส.ก้าวไกล" ปูดแวดวงการศึกษากังวล "ชัยวุฒิ" เข้ามาจำกัดสิทธิเสรีภาพนักเรียน หวั่นเป็นยุคมืด

    เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว ภายหลังจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ส่ง 2 รายชื่อ ส.ส.ของพรรคให้กับนายกฯ เป็นที่เรียบร้อย ได้แก่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรค พปชร. และ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว พปชร. โดยก่อนหน้านี้นายชัยวุฒิมีชื่อจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ แต่ความคืบหน้าล่าสุด นายชัยวุฒิเตรียมจะไปดำรงตำแหน่งเป็น รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ขณะที่ น.ส.ตรีนุช ซึ่งก่อนหน้านี้มีชื่อเป็น รมว.วัฒนธรรม โดยจะสลับนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ไปนั่ง รมว.ดิจิทัลฯ นั้น ปรากฏว่า น.ส.ตรีนุชเตรียมจะไปนั่งในตำแหน่ง รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับ ส.ส.ในพรรค พปชร.เป็นอย่างมาก ที่ น.ส.ตรีนุชจะมานั่งในกระทรวงสำคัญ  
    ส่วนเหตุผลสำคัญที่ทำให้ น.ส.ตรีนุชมีชื่อเป็น รมว.ศึกษาธิการ ครั้งนี้ เป็นเพราะความสัมพันธ์อันดีระหว่างพี่น้อง 3 ป. ทั้ง พล.อ.ประวิตร, พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ตั้งแต่ครั้งยังรับราชการทหารที่ จ.ปราจีนบุรี กับคนในตระกูลเทียนทอง โดยเฉพาะกับครอบครัวของ น.ส.ตรีนุช ที่มีนางขวัญเรือน เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว เป็นมารดา นอกจากนั้น ครอบครัวของ น.ส.ตรีนุชยังมีความสัมพันธ์อันดีกับคนใกล้ตัวพล.อ.ประยุทธ์อีกด้วย จึงมีความไว้ใจ น.ส.ตรีนุชให้มาเป็น รมว.ศึกษาธิการ
    ส่วนความเคลื่อนไหวของพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ตกลงกันได้ว่าจะสลับเก้าอี้รมช.พาณิชย์ ที่มีนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล เป็นรัฐมนตรี กับ เก้าอี้ รมช.คมนาคม ซึ่งเป็นเก้าอี้เดิมของนายถาวร เสนเนียม ทั้งนี้ ในพรรคภูมิใจไทยเริ่มมีความเคลื่อนไหวในส่วนของนายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี ที่มีความพยายามจะเสนอตัวเป็น รมช.คมนาคม เบียดกับนายวีรศักดิ์ ในกรณีที่สามารถแลกกระทรวงกับปชป.ได้สำเร็จ
    ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย? ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อรัฐมนตรีสัดส่วน ภท. มีการสลับเปลี่ยนกระทรวงหรือไม่ ว่า ต้องรอ ภท.ยื่นก่อน ส่วนจะมีการโยกย้ายหรือสลับปรับเปลี่ยนกันหรือไม่นั้น ขอย้ำว่าทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุยเจรจา แต่คุยในหลักการแล้วคล้ายๆ กับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้  
    เมื่อถามว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. ระบุว่ายังอยู่ที่เดิมไม่มีการสลับ นายอนุทินกล่าวว่า “ก็คุยกันแล้วนี่ เลขาธิการพรรค ภท.กับเลขาธิการพรรค ปชป.คุยกันแล้ว ในหลักการไม่มีปัญหา? รวมถึงผมก็คุยกับหัวหน้าพรรค ปชป.คร่าวๆ? หลักการก็ไม่มีปัญหา”  
    ถามว่า การสลับตำแหน่งจะทำให้การทำงานในกระทรวงง่ายขึ้นใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “คนของใครคนนั้นก็มาดูแล? ทำงานได้เต็มที่? เพราะถ้าเกิดแยกกันอยู่อีกฝั่งก็อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้น?ความรับผิดชอบของใครก็ไปดูแลกัน มันก็มีเหตุมีผล? คนที่ได้ประโยชน์จากการทำงานได้เต็มที่ไม่ใช่รัฐมนตรี? แต่คือประชาชน จึงเป็นเหตุผลที่น่าจะทำได้ แต่คนที่ตัดสินใจคือนายกฯ เราก็เสนอไป”  
    เมื่อถามว่า? ภท.ส่งรายชื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้ส่ง ซองจดหมายอยู่ในตู้ ส่วนที่มีข่าวภท.อาจมีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรค โดยมีชื่อของนายบุญลือ ประเสริฐโสภา ส.ส.ราชบุรี จะเข้ามา หัวหน้า ภท.กล่าวว่า “ก็อยู่ในซองจดหมาย" เมื่อถามย้ำว่าชื่อนายบุญลืออยู่ในซองจดหมายใช่หรือไม่ เขาบอกว่า “จำไม่ได้ เรื่องพวกนี้เราไม่ได้แต่งตั้งเอง มีผู้ใหญ่แต่งตั้ง แต่ที่สำคัญที่สุดต้องมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ลงมา” เมื่อถามว่าตามข่าวจะเปลี่ยนกับนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่จริง
    วันเดียวกัน เวลา 07.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางนาที รัชกิจประการ ประธานคณะที่ปรึกษานายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข? ซึ่งได้รับแต่งตั้งโดยมติ ครม.เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เดินทางเข้าทำงานทำเนียบฯเป็นวันแรก จึงได้ใช้โอกาสนี้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของทำเนียบรัฐบาล ได้แก่ พระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ศาลพระภูมิ ศาลตาศาลยาย และไหว้พระในห้องทำงาน ที่ตึกบัญชาการ 1 โดยนางนาที กล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มเพียงสั้นๆ ว่า ตนได้เข้าทำงานที่ทำเนียบฯ วันนี้เป็นวันแรก แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับนายอนุทินถึงเรื่องการมอบหมายงานให้ปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใด
    ทั้งนี้ นางนาทีเป็นคู่สมรสของนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา และอดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ? พรรค ภท. เคยถูกศาลฎีกาพิพากษากรณีจงใจแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ? ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันพ้นจากตำแหน่ง และลงโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 4,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 1 ปี
     นางนาทีให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณนายอนุทินที่ให้ความสำคัญแต่งตั้งให้ตนมาเป็นประธานคณะที่ปรึกษา ซึ่งมีการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากมีภารกิจเยอะในพื้นที่ภาคใต้ เพิ่งจะมีเวลาว่าง จึงเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล แต่คงไม่ได้เข้ามานั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาลทุกวัน ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้มากกว่า
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ว่าจะมีการตั้งข้อสังเกตเคยถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด สามารถมาดำรงตำแหน่งนี้ได้หรือไม่ นางนาทีกล่าวว่า ป.ป.ช.ได้กำหนดเวลาตัดสิทธิ์ 5 ปีตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งมาถึงตอนนี้เลยเวลาไปแล้ว แต่เนื่องด้วยรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะติดคุกจริงหรือไม่จริง ก็ต้องหมดสมาชิกภาพการเป็น ส.ส.
    ขณะที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. จะเป็น รมว.ศึกษาธิการ ว่าหากเป็นเช่นนั้น ก็เป็นเรื่องที่น่าสิ้นหวังมากๆ กับวงการการศึกษาของไทย จากการให้สัมภาษณ์ และการอภิปรายในสภาของนายชัยวุฒิที่ผ่านมา สะท้อนว่านายชัยวุฒิมีทัศนคติที่เป็นปฏิปักษ์กับนักเรียน ไม่ได้เห็นความสำคัญของปัญหาการทำทารุณกรรม กลั่นแกล้งรังแกของนักเรียนเลย ไม่มีทีท่าว่าจะมีความมุ่งมั่นในการเข้ามาปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตของนักเรียนเพื่อลดทอนความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเลย นอกจากนี้ยังไม่ได้ตระหนักว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาการว่างงาน การจ้างงานไม่เต็มเวลา ซึ่งส่งผลทำให้รายได้ครัวเรือนที่ลดลงสวนทางกับหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นนั้น อาจทำให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยต้องหลุดออกจากระบบการศึกษา
    “กับการอภิปรายของคุณชัยวุฒิในสภา ก็มักจะยืนยันแบบหลับหูหลับตาตลอดว่าทุกๆ สิ่งที่รัฐบาลทำนั้นดีอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ก็ทำให้คุณครูทั้งประเทศมีความกังวลอีกเช่นเดียวกันว่า ปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายที่ไม่เป็นธรรม ความกังวลในเรื่องสวัสดิการในการดูแลคุณภาพชีวิตของคุณครู อาจจะไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม จึงไม่แปลกใจว่าการเปลี่ยนตัว รมว.ศึกษาธิการให้มาเป็นคุณชัยวุฒิในครั้งนี้ ผู้คนในแวดวงการศึกษาจึงมีความกังวลว่าจะเข้ามาปฏิบัติภารกิจในการจำกัดสิทธิเสรีภาพของนักเรียนเท่านั้น และสนับสนุนการใช้อำนาจนิยมในการกดทับนักเรียน และเอากรอบที่ล้าหลัง เมื่อเทียบกับบริบทของโลกมาตีเส้นกำกับทิศทางทางการศึกษาของไทย ซึ่งอาจจะถือได้ว่าเป็นยุคมืดของวงการการศึกษาไทยก็ว่าได้"
    ที่พรรคประชาธิปัตย์ มีการประชุม ส.ส.ภาคใต้ของพรรคทั้ง 21 คน มีนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม โดยนายนิพนธ์เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้หารือถึงกรอบข้อบังคับพรรคในการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นรัฐมนตรี ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าควรเน้นหลักความสามารถและความอาวุโสเป็นหลัก โดยพบว่ามี ส.ส.รุ่นปี 2544 ที่เป็น ส.ส.ติดต่อกัน 5 สมัย จำนวน 4 คน คือ นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี, นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช, นายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง และนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา โดยได้เปิดโอกาสให้ทั้ง 4 คนได้แสดงวิสัยทัศน์เบื้องต้น รวมถึงหารือกันถึงปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี ส.ส.บางส่วนเห็นควรว่าคนที่จะขึ้นเป็นรัฐมนตรีควรจะมีบารมีและประสบการณ์ทางการเมืองพอสมควร เพื่อที่จะสามารถนำพาพรรคและรองรับสถานการณ์ในภาคใต้ ซึ่งทุกคนเห็นพ้องต้องกันต่อการนำเสนอรายชื่อ 4 คนนี้ โดยตนจะนำรายชื่อทั้งหมดนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 12 มี.ค. เวลา 14.00 น. และมั่นใจเมื่อที่ประชุม กก.บห.มีมติเลือกใครแล้วจะเป็นที่ยอมรับของทุกคน โดยไม่มีแรงกระเพื่อมเกิดขึ้นภายในพรรคอย่างแน่นอน  
    รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมโดยกลุ่มเลือดใหม่ได้เสนอว่า ในเมื่อจะมีการปรับ ครม.และครบโอกาส 2 ปีที่ต้องมีการประเมินผลงานรัฐมนตรีในพรรค ก็ขอเสนอให้ปรับรัฐมนตรีโลกลืม ผลงานไม่ปรากฏ เช่น คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาฯ ออกไปในคราวเดียวกันด้วย ซึ่งนายนิพนธ์ก็รับไว้เป็นข้อสังเกต และจะนำไปพิจารณาในที่ประชุม กก.บห. แต่ชี้แจงว่าปรับ ครม.เที่ยวนี้ได้รับสัญญาณจากพรรคหลักว่าไม่ต้องการให้เกิดแรงกระเพื่อมมากเกินไป ทางกลุ่มก็เสนอว่าหากมีการปรับ ครม.ครั้งหน้า ขอให้รับข้อเสนอนี้ไปพิจารณาด้วย
    นอกจากนี้ ที่ประชุม ส.ส.ภาคใต้ยังไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการแลกกระทรวงระหว่างพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะจะยิ่งสร้างกระแสต่อสังคมให้จับตามองว่าเป็นช่วงท้ายของรัฐบาล หากเจ้ากระทรวงกับรัฐมนตรีช่วยเป็นพรรคเดียวกัน จะมีการจับมือทำอะไรก็ได้ อีกทั้งตำแหน่ง รมช.คมนาคมยังสามารถทำผลงานให้เห็นในพื้นที่ภาคใต้ได้ดีกว่าไปนั่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาที่ไม่มีผลงานปรากฏ.

 

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"