ออกหมายจับเพิ่มสาวคนสนิท "แอมมี่" เผาพระบรมฉายาลักษณ์หน้าเรือนจำคลองเปรม ปชช.ร้อง "นายกฯ" ใช้ กม.เอาผิดคนจาบจ้วง แฉมี อ.มหาวิทยาลัยเสี้ยม นศ.ให้ลงถนนประท้วง เสนอรัฐบาลออกหลักสูตรรักชาติ ใช้เรียนตั้งแต่อนุบาล-มัธยม

     เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงถึงการจับกุมตัวนายพรชัย วิมลศุภวงศ์ มือจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าศาลอาญาว่า ผู้ต้องหารายนี้เบื้องต้นกระทำความผิดหลายที่ ไม่ใช่เฉพาะที่ จ.เชียงใหม่ พื้นที่นครบาล ยังมีการกระทำความผิดในพื้น จ.ยะลา การจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลเป็นคนจับ ตามหมายจับของศาล จ.เชียงใหม่ โดยจับกุมในพื้นที่ จ.นนทบุรี
    จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหารายนี้ร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ วันที่ 18 พ.ย.63 ร่วมชุมนุมหน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 6 มี.ค.64 เบื้องต้นในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่มีหลักฐานในการร่วมชุมนุมทั้ง 2 แห่ง เบื้องต้นนายพรชัยจะถูกนำตัวไปดำเนินคดีที่ จ.เชียงใหม่ก่อน
     พล.ต.ท.ภัคพงศ์เผยต่อว่า ส่วนการชุมนุมในวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.นี้ ที่จะมีการจัดขึ้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แล้วเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล เจ้าหน้าที่เน้นเรื่องรักษาความสงบ ดูการข่าวเป็นหลัก เบื้องต้นให้เขาดำเนินในกรอบของกฎหมาย ถ้าไม่เคลื่อนได้ก็ไม่เคลื่อน ถ้ายืนยันจะเคลื่อนสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางการจราจร เราก็จะพยายามจัดทางเลี่ยง และพยายามจำกัดพื้นที่การชุมนุมเพื่อให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด  
    "ทำเนียบรัฐบาลเป็นพื้นที่ห้ามชุมนุมอยู่แล้ว การชุมนุมจะรุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุม ถ้ามีการข่าวมีกลุ่มบุคคลเข้ามาสร้างความรุนแรง ทางนครบาลต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตอนนี้การข่าวยังไม่มี แต่พรุ่งนี้อาจจะมีก็ได้"
     ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการจับกุมนายพิเชฐ ขุนกำแหง พร้อมด้วยของกลางระเบิดไปป์บอมบ์ 18 ลูก และอาวุธปืน การสืบสวนสอบสวนไปถึงไหนแล้ว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ตอบว่า อย่างที่บอกให้ทราบเบื้องต้นเขามีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้นที่บ้าน พบของกลางลักษณะเดียวกัน เพราะเขามีความรู้และสนใจในการใช้อาวุธปืน เคยถูกดำเนินคดีเรื่องอาวุธปืนมาแล้ว อยู่ระหว่างขยายผลว่ามีวัตถุประสงค์เขามาทำอะไรแน่ เขายังไม่ได้ให้การอะไรไปมากมาย หรือจะนำมาใช้ในการก่อความรุนแรงในการชุมนุม เจ้าหน้าที่ก็อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน ยังไม่ได้ทิ้ง เพราะเขาเข้ามาในช่วงการชุมนุมพอดี
     พล.ต.ท.ภัคพงศ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าคดีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม หลังจากมีการจับกุมตัวนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่  เดอะบอตทอมบลูส์ ไปก่อนหน้า ว่าเจ้าหน้าที่สามารถระบุตัวบุคคลที่ร่วมกระทำความเพิ่มได้เพิ่มเติมอีก 2 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับนายแอมมี่ พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่นได้ออกหมายจับเป็นหญิง 1 คน ซึ่งมีความสัมพันธ์กับแอมมี่ ส่วนอีกคนเป็นชาย เจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ในวันนี้ ส่วนที่เป็นหญิงให้มาพบกับเจ้าหน้าที่ในวันพรุ่งนี้ ไม่แน่ใจหรือไม่ว่าเขาจะมา เพราะมีพฤติการณ์ในการหลบหนี   
    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีการนัดชุมนุมของกลุ่มราษฎรวันเสาร์ที่ 13 มี.ค.นี้ จะมาปักหลักค้างคืนที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งอาจสมทบกับกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และกลุ่มเซฟบางกลอย ว่า บางกลอยมีกี่คน ไม่เป็นไรก็ว่ากันไป เขาอยากมา ทำอย่างไรได้
    เมื่อถามว่าม็อบที่จะมาชุมนุมจะมาพักค้างคืนที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตรย้อนถามสื่อว่า “ทำเนียบฯ เข้าได้หรือไม่”
    ซักว่าจะดูแลความปลอดภัยอย่างไร หากมีการเคลื่อนมา พล.อ.ประวิตรตอบว่า ก็ดูแลอยู่แล้ว ดูแลทุกวันอยู่แล้ว ที่คุณปลอดภัยทุกวันนี้เพราะใคร ไม่ใช่เพราะเจ้าหน้าที่หรือ ที่ทำให้ประเทศชาติปลอดภัยอยู่ทุกวันนี้  ไม่ต้องห่วง
    ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล นายจักรพงศ์ กลิ่นแก้ว ตัวแทนศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และเครือข่ายปกป้องสถาบัน ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เรื่องการปกป้องซึ่งพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์ กรณีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และหน้าศาลอาญา รัชดาฯ
    นายจักรพงศ์เรียกร้องให้เร่งรัดติดตามตัวผู้ที่เผาพระบรมฉายาลักษณ์มาดำเนินคดี เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างและทำพฤติกรรมเลียนแบบ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีกลุ่มนักเรียนนักศึกษาออกมาประท้วงและกระทำการจาบจ้วงสถาบัน ทำให้เกิดความเสียใจแก่ประชาชนชาวไทยผู้จงรักภักดี โดยต้นเหตุของปัญหาดังกล่าวเกิดจากการยุยง ปลุกปั่น เสี้ยมสอนจากอาจารย์มหาวิทยาลัยที่มีแนวคิดล้มสถาบันและล้มล้างการปกครอง ซึ่งอาจารย์เหล่านี้ได้ฝังตัวอยู่ตามมหาวิทยาลัยต่างๆ มีการกลั่นแกล้งนักศึกษาที่ไม่เข้าร่วมขบวนการ ถือเป็นภัยความมั่นคงของชาติอย่างใหญ่หลวง จึงอยากให้นายกฯ ลงไปแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยให้นำมหาวิทยาลัยของรัฐบาลทั้งหมดเข้ามาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด หรือพิจารณาให้อาจารย์ที่มีแนวคิดล้มล้างสถาบันพ้นสภาพการเป็นอาจารย์
    และขอให้พิจารณาร่างหลักสูตรการศึกษาของเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมปลาย และเพิ่มวิชาการปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ความกตัญญูต่อบิดามารดา ความรักชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ อยากให้นายกฯ สั่งการไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้ใช้กฎหมาย อย่าปล่อยให้ประชาชนห้ำหั่นกันเอง เพราะปัจจุบันประชาชนแบ่งเป็นสองฝ่ายอย่างชัดเจน
    "ประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันต้องคอยวิ่งขึ้นโรงขึ้นศาลร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งความเพื่อปกป้องซึ่งพระเกียรติยศของสถาบัน และเท่าที่สังเกตเห็นคือ รัฐบาลหรือภาครัฐยังทำได้ไม่เท่ากับประชาชนตาดำๆ ที่ทำเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงอยากให้รัฐบาลชุดนี้ออกมาแสดงตนปกป้องสถาบันอย่างจริงจังและอย่างแท้จริง" นายจักรพงศ์กล่าว
     ที่ห้องพิจารณา 907 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลไต่สวนกรณีทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้ายื่นคำร้องขอให้ศาลออกคำสั่งให้นำตัวนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม Wevo (ผู้ต้องหาคดีอั้งยี่), นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน และนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ แกนนำกลุ่มราษฎร (จำเลยคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ป.อาญา ม.112) ซึ่งไม่ได้รับการประกันตัวถูกคุมขัง ย้ายจากเรือนจำพิเศษธนบุรีมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ให้ตรงกับหมายขังระหว่างสอบสวนและพิจารณาคดี หลังจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ศาลได้ไต่สวนทั้งสามและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แต่ยังไม่เสร็จสิ้น
    ภายหลังเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า วันนี้ศาลเบิกตัวโตโต้, ไผ่ และไมค์ จากเรือนจำพิเศษธนบุรี มาไต่สวนตามที่เราได้ยื่นคำร้องไว้เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งภายหลังไต่สวนเสร็จแล้ว ศาลนัดฟังคำสั่งวันที่ 15 มี.ค.นี้ เวลา 11.00 น.