ปฐมฤกษ์สายสีแดง


เพิ่มเพื่อน    

   หลังจากที่ตั้งหน้าตั้งตารอกันมานาน สำหรับโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน และบางซื่อ-รังสิต ที่อยู่ในความรับผิดชอบของรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม สำหรับโครงการดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2550 ถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 14 ปี มาถึงวันนี้คืบหน้าไปมาก อีกอึดใจเดียวประชาชนจะได้ใช้บริการรถไฟสายดังกล่าวแล้ว

                ที่ผ่านมาถือว่ามีการประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาและอุปสรรคของโครงการดังกล่าว เรียกได้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือแม้แต่ผู้บริหารต่างก็กุมขมับกับปัญหาที่ตามมา แน่นอนที่ผ่านมาเรียกว่ามีการเลื่อนไทม์ไลน์การเปิดให้บริการมาจากสาเหตุเบื้องต้น เช่น ส่งมอบพื้นที่ล่าช้าจากการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคจนทำให้การส่งมอบพื้นที่ทำไม่ทัน  เป็นต้น

                ไทม์ไลน์ปัจจุบัน "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) หลังจากก่อนหน้านี้ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ 5 ชุด เพื่อมาพิจารณาในโครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการเตรียมการเปิดใช้โครงการ และการเดินรถ 2.คณะอนุกรรมการดูแลการขนส่ง (ดูแลการจราจรและระบบคมนาคมขนส่งเชื่อมต่อของโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ)

                3.คณะอนุกรรมการจัดการเรื่องการย้ายสถานีและงานอาคารสถานที่ต่างๆ 4.คณะอนุกรรมการที่ดูแลเรื่องค่าโดยสารและระบบจัดเก็บตั๋วโดยสาร (กรมการขนส่งทางรางรับผิดชอบ) และ 5.คณะอนุกรรมการด้านประชาสัมพันธ์และสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนนั้น

                ล่าสุด ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มี.ค.2564 ได้มีการหารือถึงเรื่องแผนเตรียมทดสอบการเดินรถไฟสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสมือนจริง (Trial Run) ในวันที่ 26 มี.ค.64 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากิจการการรถไฟฯ และเป็นวันปฐมฤกษ์นั้น เวลา 10.00 น. จะเปิดทดสอบเดินทางเสมือนจริงดังกล่าว โดยจะเป็นการทดสอบภายในเฉพาะกระทรวงคมนาคม และยังไม่มีการเปิดให้ประชาชนได้ร่วมทดสอบ จากตามแผนตอนแรกจะเปิดให้ประชาชนบางส่วนได้ทดลองใช้บริการ

                ขณะเดียวกัน หลังจากวันที่ 26 มี.ค.64 นั้น จะเปิดให้ประชาชนที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ต้องการทัศนศึกษาดูงานเส้นทางรถไฟสายสีแดง สามารถทำหนังสือมาที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  เพื่อพิจารณาจัดช่วงเวลาที่เปิดให้ทดลองเดินรถที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งการเปิดให้เข้าทัศนศึกษานี้ จะไม่ใช่เพื่อเดินทาง เน้นศึกษาดูงานเท่านั้น จากนั้นจะเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการ (Soft Opening) ช่วงเดือน ก.ค.64 และเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบในช่วง พ.ย.2564 ต่อไป

                ขณะเดียวกัน จะต้องไปบูรณาการกับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อพิจารณาให้ยกเว้นค่าแรกเข้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย เนื่องจากเรื่องดังกล่าวจะทำให้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีแดงมีผู้โดยสารใช้บริการทั้ง 2 สาย อีกทั้งจะทำให้การเดินทางเชื่อมต่อกัน และในอนาคตจะต้องเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และสายสีชมพู ช่วงมีนบุรี-แครายต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ข้อสรุปแล้ว ต้องรีบประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบ เพื่อวางแผนการเดินทางในอนาคตต่อไปได้

                ส่วนการกำหนดอัตราค่าโดยสารนั้น เบื้องต้นค่าโดยสารอยู่ที่ 15-42 บาท แต่ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมให้ไปศึกษารายละเอียดแผนให้ชัดว่า แต่ละสถานีห่างกันต้องกำหนดค่าโดยสารเท่าไหร่ เพราะจะใช้ระยะทางในการกำหนดราคาค่าโดยสาร เพราะฉะนั้นต้องอธิบายให้ได้ว่า ต้นทุนต่อ กม.เท่าไหร่ ระยะทางระหว่างของแต่ละสถานีเท่าไหร่  ซึ่งไม่ใช่ 1-2 บาทต่อสถานี

                ซึ่งเรื่องนี้จะใช้เวลาประชุมอีก 1 เดือน ในแต่ละคณะอนุกรรมการก็มีเวลาที่ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามกระบวนการ เมื่อได้ข้อสรุปอัตราค่าโดยสารที่ชัดเจนแล้ว จากนั้นต้องออกประกาศกำหนดอัตราค่าโดยสาร แล้วเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการที่จะเปิดเชิงพาณิชย์ต่อไป

                ถือเป็นเรื่องราวดีๆ เป็นอีกทางเลือกให้แก่ประชาชนที่ต้องการเดินทางมาจากบางซื่อไปตลิ่งชัน  โดยในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รังสิตอีกด้วย รวมถึงจะช่วยแก้ไขปัญหาจราจรติดขัด และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้อีกด้วย.

กัลยา ยืนยง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"