"ประวิตร" โยน "โจ๊ก" กลับตำรวจเป็นเรื่องของนายกฯ  "โฆษก ตร." ยอมรับหนังสือโอน "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์" คืนสีกากีถึง ตร.แล้ว รอเสนอ ผบ.ตร.ดำเนินการ ปัดเตรียมเก้าอี้ "ผู้ช่วย ผบ.ตร." ไว้รอ จับตา "บิ๊กตู่" ประชุม ก.ตร.ถกระเบียบเทียบโอนตำแหน่งให้ "โจ๊ก หวานเจี๊ยบ" 12 มี.ค.นี้

    เมื่อวันที่ 10 มี.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ลงนามในคำสั่งย้ายให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กลับไปรับราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ว่าการถูกย้ายกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เป็นเรื่องของเจ้าตัว ที่ผ่านมาเคยทำงานด้วยกันมาก่อนก็รู้จักกัน
    ถามว่าถือเป็นการคืนความเป็นธรรมให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องระหว่าง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กับนายกรัฐมนตรี ดังนั้นตนไม่รู้ รายละเอียดนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว
    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงถึงการรับโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับหนังสือลงนามโดยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเทียบโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจแล้ว หลังจากเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ไปดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นักบริหารระดับสูง)  
    "ขณะนี้สำนักงานกำลังพลอยู่ระหว่างการประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพื่อกลั่นกรองก่อนเสนอ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พิจารณาสั่งการในส่วนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถตอบได้ว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นเมื่อใด และจะสามารถดำเนินการแต่งตั้ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในวาระเดือนเมษายนหรือไม่" พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าว
    ถามถึงเหตุผลความจำเป็นในการเทียบโอนตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า ในหนังสือระบุเพียงนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้บังคับบัญชามีอำนาจบรรจุแต่งตั้ง เห็นควรให้มีการตัดโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์กลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ โดยไม่ได้ให้เหตุผลใดเป็นพิเศษ
    "สถานะของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ขณะนี้ถือว่ามีการตัดโอนมาแล้ว ตามหนังสือของสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 5 มี.ค.2564 หนังสือมาถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อวันที่ 8 มี.ค. แต่ยังมีกระบวนการทางธุรการ เป็นเรื่องทางเทคนิคกำลังพล ซึ่งจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่ขอยืนยันว่ากรณีนี้เป็นระบบการบริหารราชการตามปกติที่มีการโอนย้ายข้ามหน่วยงาน เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าของข้าราชการทั้งหมดอยู่แล้ว มีอำนาจที่จะดำเนินการให้การทำงานของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด" โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าว
    พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) จะมีการประชุม โดยมีวาระกำหนดตำแหน่งระดับผู้บัญชาการ (ผบช.) 4 ตำแหน่ง และผู้บังคับการ(ผบก.) 4 ตำแหน่ง ซึ่งในการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ครั้งที่ผ่านมา ได้ส่งเรื่องกลับมาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาตินำไปกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของตำแหน่งที่เปิดใหม่ให้มีความชัดเจนมากขึ้น
    "ตามวาระยังไม่มีการพูดคุยเรื่อง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่ามีการกำหนดตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.เพื่อรองรับการเทียบโอนนั้น ผมก็ยังไม่เห็นวาระดังกล่าว แต่หากมีก็จะชี้แจงให้ทราบต่อไป" พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าว
    ซักว่าการรับโอน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์มาดำรงตำแหน่งใด จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งเพื่อรองรับหรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ตรงนี้ต้องรอให้สำนักงานกำลังพลประมวลเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชา ตนยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร จะต้องมีการกำหนดตำแหน่งขึ้นมาใหม่ หรือจะชดเชยจากตำแหน่งที่มีอยู่เดิม อย่างไรก็ตาม การเทียบตำแหน่งมีระเบียบของ ก.พ.อยู่แล้ว ซึ่งพล.ต.ท.สุรเชษฐ์เป็นข้าราชพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนักบริหารระดับสูง ตามหลักแล้วเมื่อโอนย้ายกลับมาตำแหน่งที่ได้รับก็ต้องไม่ต่ำกว่าตำแหน่งเดิม
    โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวถึงการสอบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ต่อจากที่สำนักนายกฯ ดำเนินการว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้พล.ต.ท.สุรเชษฐ์รับราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี การตั้งกรรมการหรือการตรวจสอบอื่นใดเกี่ยวกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์อยู่ที่สำนักนายกรัฐมนตรี กระบวนการต่อจากนี้ตนยังตอบไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ หลังจากนี้คงจะต้องมีการประสานกับสำนักนายกรัฐมนตรีว่ามีเรื่องใดบ้างที่ดำเนินการแล้วหรือยังไม่แล้วเสร็จ และจะให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการอย่างไร
    มีรายงานว่า ในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 3/2564 วันที่ 12 มี.ค.นี้ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีวาระที่กำหนดไว้ อาทิ วาระเรื่องความเห็นของคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดการเทียบตำแหน่งเกี่ยวกับระเบียบ ก.ตร. ว่าด้วยหลักเกณฑ์การเทียบตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เทียบเท่าอธิบดี พ.ศ.2563 วาระเรื่องศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางให้จัดส่งสำเนารายงานการประชุม ก.ตร. และวาระเรื่องการกำหนดตำแหน่งข้าราชการตำรวจ เป็นต้น.