“บิ๊กป้อม” ยอมรับส่งชื่อแคนดิเดตรัฐมนตรีใหม่ถึงมือ “น้องตู่” แล้ว ลั่นคัดคนมีความรู้ความสามารถ ส่วนจะไปนั่งเก้าอี้ไหนให้ “นายกฯ” เคาะเอง ปัดตอบ “ธรรมนัส” ผงาดนั่งว่าการดีอีเอส “จุรินทร์” ย้ำสัดส่วนพรรคต้องรอ 12 มี.ค.ถึงสะเด็ดน้ำ ยังไม่ใช่ “นริศ ขำนุรักษ์” ประชาธิปัตย์ว่างจัดเขย่าเก้าอี้ “คุณหญิงกัลยา”
เมื่อวันพุธที่ 10 มีนาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการส่งรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ในสัดส่วนของพรรคให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าส่งไปเรียบร้อยแล้ว และเมื่อส่งแล้ว ก็เป็นเรื่องของตนว่าจะส่งใครไป
เมื่อถามว่าหน้าตาของรัฐมนตรีใหม่จะออกมาดีหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ก็ต้องดีสิ จะไม่ดีได้ยังไง เพราะต้องเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ เมื่อถามถึงข่าว ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ ต้องไปถามนายกฯ ที่เป็นคนจัดว่าใครจะอยู่กระทรวงไหน เพราะส่งแต่รายชื่อให้พิจารณาตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าที่ของตนคือส่งคนที่มีความรู้ความสามารถไปเท่านั้น ทุกอย่างเป็นอำนาจของนายกฯ คนเดียว ซึ่งไม่ได้มาปรึกษาตน เป็นความรับผิดชอบของใครของมัน และที่ผ่านมาก็ไม่ได้ปรึกษาว่าตนจะส่งใคร
ถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลได้หารือกับพรรค พปชร.เพื่อขอสลับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวพร้อมอมยิ้มว่า ไม่มี พรรคเสนอตามโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี เมื่อถามต่อว่าชื่อที่พรรคเสนอไปตรงตามที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรสวนว่า “ผมจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า ผมส่งก็เป็นเรื่องที่ผมรู้ ไม่ใช่เรื่องที่คุณรู้ ข่าวที่ออกมาผมไม่รู้ จะไปรู้ได้อย่างไร”
ขณะที่นายชัยวุฒิ? ธนาคมานุสรณ์? ส.ส.บัญชีรายชื่อ? และรองเลขาธิการพรรค พปชร. ซึ่งเป็นหนึ่งในรายชื่อรัฐมนตรีใหม่ กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่ายอมรับผู้ใหญ่ระบุว่าจะได้เป็นรัฐมนตรีแน่นอน? ว่าไม่ได้พูดว่าได้รับตำแหน่งแน่นอน? เพียงแต่ทราบจากข่าวว่าพรรค พปชร.ได้เสนอชื่อให้นายกฯ ได้พิจารณา? ส่วนจะได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของนายกฯ? ขอย้ำไม่ได้พูดว่าจะได้ตำแหน่งแน่นอน? และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใหญ่แจ้งอะไร?มา? แต่หากผู้ใหญ่มอบหมาย? ไม่ว่าอยู่ตรงไหนพร้อมทำงานเต็มที่ทุกบทบาทอยู่แล้ว
แบ่งรับแบ่งสู้สลับเก้าอี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความคืบหน้าในส่งชื่อรัฐมนตรีใหม่ในส่วนพรรคว่า จะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. เวลา 14.00 น. ก่อนประชุมร่วมกับ ส.ส.พรรค ส่วนโควตาพรรคนั้นยังคงเหมือนเดิม ซึ่งรายชื่อที่จะเสนอให้กับนายกฯ พิจารณานั้นก็คงต้องรอการประชุมพรรคก่อน ซึ่งพรรคไม่ได้ปิดกั้นบุคคลที่จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรี หากเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีศักยภาพเข้ามาทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ส่วนการสลับเก้าอี้ในรัฐมนตรีกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) หรือไม่นั้น มอบให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคเป็นผู้พิจารณา แต่ขณะนี้ยังคงจำนวนที่นั่งเท่าเดิม
เมื่อถามย้ำว่า ข่าวนายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ของ ภท. จะสลับเก้าอี้ไปยังกระทรวงอื่น และให้โควตา ปชป.มานั่งเก้าอี้นั้น นายจุรินทร์ปฏิเสธว่า ยังไม่สามารถตอบได้ แต่ที่ผ่านมาการทำงานร่วมกับนายวีรศักดิ์ ทำงานอย่างใกล้ชิด และไม่มีปัญหา ได้มอบหมายให้ดูแลงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์หลายหน่วยงาน ซึ่งก็ทำงานกันได้อย่างราบรื่น
ด้านนายวีรศักดิ์กล่าวในประเด็นนี้ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง และยังไม่มีการคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งการพิจารณาหรือตัดสินใจสลับเก้าอี้นั้น ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคพิจารณาดูเหมาะสม แต่หากต้องย้ายไปทำงานกระทรวงอื่นก็ไม่มีปัญหา พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ร่วมกับพรรคเดียวกันหรือพรรคอื่น แต่หากอยู่ที่เดิมก็สามารถสานงานต่อได้ทันที และรู้สึกรักกระทรวงพาณิชย์ เพราะการทำงานที่ผ่านมาไม่มีปัญหา มีความสุขดี เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือประชาชน
ส่วนนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค ปชป. กล่าวถึงการพิจารณาบุคคลไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในส่วนของพรรคว่า นายจุรินทร์และนายเฉลิมชัยได้นัดประชุม กก.บห.ในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. เวลา 14.00 น. จากนั้นเวลา 16.00 น. จะประชุมร่วมระหว่าง กก.บห.กับ ส.ส.พรรค เพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะทำหน้าที่รัฐมนตรี ซึ่งจะมีใครได้รับการเสนอชื่อบ้าง เป็นเรื่องของคณะ กก.บห.จะพิจารณา โดยพรรคมีบุคลากรที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถและพร้อมทำงานให้ประชาชน ไม่ต้องกังวลว่าจะมีปัญหาภายในเกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านกระบวนการคัดเลือกตัวบุคคลให้เป็นรัฐมนตรีแล้ว เชื่อว่าทุกคนยอมรับกระบวนการที่เกิดขึ้นตามข้อบังคับพรรค
เขย่าเก้าอี้'คุณหญิงกัลยา'
“ที่มีกระแสข่าวระบุว่าส่งชื่อนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ถึงมือนายกฯ แล้วนั้น ยืนยันว่าไม่จริง พรรคมีกระบวนการพิจารณา ส่วนกระแสข่าวว่าแลกกระทรวงกับพรรคภูมิใจไทยนั้น ไม่ทราบ เพราะขึ้นอยู่กับนายจุรินทร์และนายเฉลิมชัย ซึ่งนายจุรินทร์ได้มอบให้นายเฉลิมชัย และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ในฐานะรองหัวหน้าพรรค เป็นผู้ประสานเรื่องเหล่านี้ และหากจะแลกจริง เลขาธิการพรรคต้องชี้แจงเหตุผลในการสลับตำแหน่งก่อนกำหนดตัวบุคคลไปดำรงตำแหน่ง โดยเมื่อเริ่มต้นประชุม กก.บห. เลขาธิการพรรคต้องแจ้งว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้มีตำแหน่งใดบ้างที่จะปรับปรุง และมีบุคคลใดบ้างที่ที่ประชุม กก.บห.เสนอ” นายราเมศระบุ
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งซ่อมจะเป็นปัจจัยคัดเลือกบุคคลไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ โฆษกพรรค ปชป.กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคไม่ได้ขัดแย้งอะไร ความเห็นไม่ตรงกันคือความเป็นประชาธิปไตยของประชาธิปัตย์ การที่บุคคลใดจะเข้าไปดำรงตำแหน่งก็ไม่ได้ไปรับตำแหน่งเพื่อตัวเอง แต่ไปทำหน้าที่ให้กับประชาชน โดยผ่านการคัดเลือกของพรรค ซึ่งถือเป็นหลักการ เพราะ ปชป.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ หรือพรรคที่ตั้งขึ้นมาแล้วจะให้คนใดคนหนึ่งสั่งการได้ ซึ่งรัฐมนตรีเป็นตำแหน่งที่สำคัญ ที่ข้อบังคับระบุไว้ว่าให้สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมพิจารณาบุคคล
แหล่งข่าวจาก ปชป.แจ้งถึงการสลับเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยว่า เป็นเรื่องจริง โดยจะแลก รมช.คมนาคมกับ รมช.พาณิชย์ ขณะเดียวกันยังเกิดแรงกระเพื่อมในพรรค ที่ ส.ส.บางกลุ่มที่เห็นว่าน่าจะถึงรอบของการประเมินผลงานของรัฐมนตรีของพรรคที่ไม่ปรากฏผลงานเป็นรูปธรรมจับต้องได้ โดยพุ่งเป้าไปที่ตำแหน่ง รมช.ศึกษาธิการ ที่มีคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รับผิดชอบอยู่ โดย ส.ส.ของพรรคส่วนหนึ่งพูดคุยกันว่านอกจากไม่มีผลงานแล้ว ยังไม่ดูแล ส.ส.เขต อีกทั้งในการลงพื้นที่ไปช่วยรณรงค์หาเสียงก็จำชื่อ ส.ส.ของพรรค หรือจำจังหวัด ส.ส.เขตสลับจังหวัด ดังนั้นจึงมีการกดดันไปถึงผู้บริหารพรรค เพื่อให้พิจารณาปรับ ครม.ของพรรคไปในคราวเดียวกันทั้งหมด จึงขึ้นอยู่กับที่ประชุม กก.บห.ในวันที่ 12 มี.ค.นี้ ว่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาด้วยหรือไม่
สำหรับความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์นั้น เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 1/2564 ต่อมาหลังการประชุม พล.อ.ประยุทธ์เดินกลับขึ้นห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด เพียงแต่หันมาโบกมือพร้อมพูดว่า “บ๊ายบาย” กับสื่อมวลชนเท่านั้นหลังถามว่ามีอะไรจะพูดหรือไม่
จากการสอบถามคณะทำงานนายกฯ ถึงสาเหตุที่นายกฯ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นเพราะกรณีเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ใส่ผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 9 มี.ค.หรือไม่ โดยทีมงานนายกฯ ระบุว่า นายกฯ ไม่ได้งอนอะไร เพียงแต่นายกฯ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจเป็นผู้แถลงผลการประชุม
ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ ได้ปรารภกับคนใกล้ชิดว่า "แค่จะเล่นกับสื่อ เป็นเรื่องจนได้”
โรยเกลือ“ประยุทธ์-จุรินทร์”
ส่วนที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.), น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรค พท. และนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้เดินทางมาร่วมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.เอาผิด พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ กรณีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตการซื้อขายถุงมือยางขององค์การคลังสินค้า (อคส.) มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยนายประเสริฐกล่าวว่า นำหลักฐานกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ 32 หน้า พร้อมเอกสารประกอบ 47 รายการ ยื่นต่อ ป.ป.ช.ให้ไต่สวนเป็นกรณีเร่งด่วน กรณีการทำสัญญาลวงซื้อขายถุงมือยางของ อคส.ตามที่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจไป ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ในฐานะประธานกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ แต่จงใจร่วมกับนายจุรินทร์ปกปิดการกระทำทุจริตในหน่วยงานและไม่ยับยั้งความเสียหายจากการทุจริต ทำให้ผู้กระทำผิดยักย้ายถ่านโอนเงินทุจริต 2,000 ล้านบาทไปจนเสร็จสิ้น ทั้งที่อยู่ในอำนาจจะยับยั้งได้ แต่ละเว้นไม่ทำ
นายประเสริฐกล่าวถึงความผิดของนายจุรินทร์ว่า มีความผิดกรณีเอื้อประโยชน์แต่งตั้งคนสนิทที่ไม่มีคุณสมบัติมาเป็นประธาน อคส. โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิปการประชุมคณะกรรมการ อคส. เป็นเสียงนายสุชาติ เตชจักรเสมา ประธาน อคส. พาดพิงถึงนายจุรินทร์ อีกทั้งนายจุรินทร์ยังมีพฤติกรรมร่วมปกปิดการทุจริตที่ป.ป.ช.ต้องสอบว่านายจุรินทร์รู้เห็นเป็นใจกับประธาน อคส.ในการทุจริตหรือไม่ รวมทั้งได้ยื่นเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์และนายจุรินทร์ข้อหาทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย และในสัปดาห์หน้าจะยื่นเอาผิดนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีต รมว.ศึกษาธิการ กรณีแต่งตั้งผู้ขาดคุณสมบัติเป็นเลขาธิการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) โดยจะทยอยยื่นรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายให้เสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้
นายมงคลกิตติ์ที่มาร่วมยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ชี้แจงถึงบทบาทที่ผ่านมาไม่เคยไปร่วมประชุมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเลย ว่าช่วงที่ผ่านมาเอ็นฉีก แต่ที่ผ่านมาได้ร่วมทำงานกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการไปแล้วในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และได้ยกมือไม่ไว้วางใจรัฐบาลไปแล้ว
เมื่อถามว่า แปลว่าการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านครั้งต่อไปจะเข้าร่วมประชุมด้วยใช่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์ตอบว่า ถ้าไม่ป่วยจะไปร่วมประชุมอย่างแน่นอน
นายราเมศกล่าวในเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องมาจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งนายจุรินทร์ในฐานะ รมว.พาณิชย์ได้ชี้แจงไปหมดแล้ว แต่เมื่อฝ่ายค้านไปยื่นที่ ป.ป.ช. ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งพรรคพร้อมที่จะชี้แจง เราเชื่อมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต และไม่มีสิ่งใดน่ากังวล เพราะข้อมูลที่นายจุรินทร์ชี้แจงไปตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญ และทีมกฎหมายของพรรคได้เตรียมข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆ เอาไว้มากพอสมควร จึงไม่กังวลใดๆ และน้อมรับการตรวจสอบ
วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ?การเลือกตั้ง? (กกต.) ?ได้มีการพิจารณาผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 จังหวัดนครศรีธรรมราช แทนตำแหน่งว่าง เมื่อวันที่ 7 มี.ค. โดยที่ประชุมได้มีมติ ประกาศรับรองนายกองตรีอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ จากพรรค พปชร. เป็น ส.ส. เนื่องจากไม่มีเรื่องร้องเรียน โดยนายกองตรีอาญาสิทธิ์ สามารถมารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. (ส.ส. 6/4) ที่สำนักงาน กกต. ได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อนำไปแสดงตนต่อสภาผู้แทนราษฎร.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |