ต้องถือว่า “พลาด” แบบ ตายน้ำตื้นของแท้กับ “อารมณ์” พาไปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับการเอาแอลกอฮอล์สเปรย์ฉีดใส่สื่อมวลชน ในการแถลงข่าวหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อถูกจี้ถามถึง “รัฐมนตรีใหม่” ในรัฐนาวาประยุทธ์ 2/4 เพราะสื่อต่างประเทศต่างนำไปพาดหัวกันอย่างครึกโครม และ บางสำนักถึงขั้นทำคลิปลงในสื่อออนไลน์เข้าไปอีก ที่สำคัญต้องบอกว่า 99% มองไปทางลบเสียด้วย...๐

งานนี้เลยทำให้บรรดา “ฝ่ายแค้น” ทั้ง “เหวง โตจิราการ” แกนนำ นปช. หรือแม้แต่ “หมอหลังม็อบ” อย่าง “ทศพร เสรีรักษ์” อดีต ส.ส.สอบตกพรรคเพื่อไทย ก็ยังออกมาตำหนิติติงกันเป็นทิวแถว แล้วยิ่งได้ “ปารีณา ไกรคุปต์” ส.ส.ราชบุรี ดันออกมาแก้ต่างแทน “ลุงตู่” ว่าเป็นการหยอกเย้า ก็ทำให้เรื่องยิ่งกลายเป็น “โกโซบิ๊ก” เข้าไปอีก แทนที่เรื่องจะเงียบๆ ลง...๐

“น้องเอ๋” เองไม่รู้ว่าเข้าทำนอง “3 วันดี 4 วันไข้” หรือไม่อย่างไร เพราะ “โพสต์” สื่อสังคมออนไลน์มักเรียกแขกได้เสมอๆ แต่ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือแม้แต่ การทำประชุมรัฐสภา “ส.ส.ปารีณา” กลับทำบทบาทได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะการประท้วงแต่ละครั้งเรียกว่า “เข้าตา” และมีเนื้อหาสาระมากกว่า “กูรู” บางคนเสียด้วยซ้ำ...๐ แล้วก็เหมือน “พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก” เสียนี่กระไร เพราะในวันที่ 11 มี.ค. “นิวัติไชย เกษมมงคล” รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.ระบุว่า จะยื่นต่อศาลเอาผิดทางจริยธรรมกับ “ปารีณา” กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน แล้ว หรืออย่างช้าก็ช่วงต้นสัปดาห์หน้า...๐

พูดถึง “ขาลง” ของ “น้องเอ๋” ก็ต้องพูดถึงขาขึ้นของ “บิ๊กโจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรีที่ถูกโอนย้ายกลับไปสำนักงานตำรวจแห่งชาติกันบ้าง เพราะในวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นผู้ออกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้าย “บิ๊กโจ๊ก” จะนั่งเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เพื่อเคาะเก้าอี้ให้ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” มาดำรงตำแหน่ง!...๐

แต่ก่อนจะถึงวันศุกร์ที่ 12 มี.ค. คงต้องลุ้นระทึกในวันที่ 11 มี.ค. เมื่อศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัยคำร้องของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” และ “สมชาย แสวงการ” สมาชิกรัฐสภา ที่ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดอำนาจรัฐสภาในการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งไม่ว่า “หวย” จะออก “เต็ง” “โต๊ด” หรือกินเรียบ ก็บอกได้ว่าจะกลายเป็น “บรรทัดฐาน” และเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองและรัฐธรรมนูญ ไทยอีกคราหนึ่ง...๐

เอ่ยถึงเรื่องตีนโรงตีนศาล ไม่กล่าวถึงคดีที่ “ม.ร.ว.ปรียนันทนา รังสิต” หลานสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาชัยนาทนเรนทร ได้ฟ้องแพ่ง 6  จำเลย อาทิ “ณัฐพล ใจจริง” รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, “กุลลดา เกษบุญชู มี้ด” อดีตอาจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, “ชัยธวัช ตุลาธน” เลขาธิการพรรคก้าวไกล, และ “ธนาพล อิ๋วสกุล” บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาทไม่ได้ เพราะ “ม.ล.ชัยนิมิตร นวรัตน” ทายาท ม.ร.ว.นิมิตรมงคล นวรัตน อดีตนักโทษการเมืองในคดีกบฏบวรเดชได้ไปหาเรื่องราวการต่อสู้ของ “ม.ร.ว.ปรียนันทนา“ มา ซึ่งพบว่าเคยต่อสู้ในศาลอินเดียกับราชวงศ์ชัยปุระเพื่อรักษามรดกราชบุตรราชธิดา โดยใช้เวลากว่า 8 ปี ได้รับชัยชนะมาแล้ว!!!...๐

พูดถึงศาลก็ต้องเอ่ยถึง “แก๊ง 3 นิ้ว” กันบ้าง โดยเฉพาะบรรดาสาวกและเอฟซีทั้งหลายที่เรียกว่า “ลามปาม” และไม่รู้เหนือรู้ใต้เอามันส์ปีนเกลียว งานนี้ได้มีหนาวสะท้านแน่ๆ แม้ “สุริยันต์ หงษ์วิไล” โฆษกศาลยุติธรรมจะบอกว่าศาลยุติธรรมจะใช้ความอดทน เพราะไม่ต้องการไปเป็นคู่ความกับประชาชนผู้ชุมนุม อะไรที่ไม่มากเกินไปก็จะปล่อยผ่าน แต่ดูเหมือนฟากฝั่งตำรวจอย่าง “พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย” รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) มองว่ามีการทำกิจกรรมบางอย่างที่มีผลกระทบต่อการละเมิดอำนาจศาล โดยจะหารือกับศาลก่อนจะลงดาบอีกคราหนึ่ง แต่ดูเหมือน “บรรดาสาวก” จะไม่ตระหนัก เพราะในวันที่ 10 มี.ค. ก็มีการจัดกิจกรรมลายจุดหลายพื้นที่ ซึ่งก็ เรียกว่า “ไม่สำเหนียก” นั่นแล ความอดทนของศาลบางทีอาจคงต้องเปลี่ยนมาเป็นการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” ก็น่าจะดี จะได้ทำให้สังคมส่วนใหญ่เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ถึงกระบวนการยุติธรรมไทย...๐

  ...ท.ศักดิ์