การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้น ได้ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ในด้านเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง ทั้งรูปแบบการดำเนินชีวิต พฤติกรรมผู้บริโภค การใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น เพื่อจับจ่ายสินค้าบนโลกออนไลน์ รวมไปถึงการทำธุรกรรมต่างๆ โดยเฉพาะทางด้านการเงิน ที่ออนไลน์แบงกิ้ง และยังมีการเว้นระยะห่างทางสังคมจะยังคงอยู่ จากความกังวล ระมัดระวังการใช้พื้นที่สาธารณะ ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น จนทำให้เกิดการดำเนินชีวิตปกติรูปแบบใหม่ หรือ นิวนอร์มอล
ทำให้ทุกภาคส่วนต้องปรับตัวเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนธุรกิจในนิวนอร์มอล โดยเฉพาะกลุ่มค้าส่ง-ปลีก ต้องพลิกโฉมกันครั้งใหญ่ ซึ่งหากเป็นกลุ่มค้าปลีกขนาดใหญ่ก็ไม่น่าเป็นห่วง เพราะที่ผ่านมานั้นมีความพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อรองรับ หลายๆ แห่งต่างพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในแพลตฟอร์มเว็บไซต์ เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า
สำหรับรายเล็กอย่างร้านโชห่วยที่ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญในยุค New normal ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกต้องปรับตัวเพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าและทำหน้าที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป
ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์จึงช่วยธุรกิจค้าส่งค้าปลีกเตรียมรับมือวิถีใหม่ในยุคนิวนอร์มอล พร้อมกิจกรรมยกระดับโชห่วยไทยในยุคนิวนอร์มอล เพื่อเสริมองค์ความรู้ ศึกษาดูงานและมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาเชิงลึกเพื่อเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย หวังให้ร้านค้าส่งค้าปลีกเข้าร่วมโครงการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน โดยสมัครด่วน! หมดเขต 15 มีนาคม 2564 นี้
ซึ่งวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ ย้ำอย่างชัดเจนว่า ธุรกิจค้าส่งค้าปลีกถือว่ามีความสำคัญในการกอบกู้วิกฤติ เนื่องจากเป็นผู้จัดหาสินค้าจำเป็นให้กับประชาชนทั่วไป ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเปรียบเสมือนเส้นเลือดหลักที่หล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจ รวมถึงช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศผ่านการจ้างงานคนในชุมชนให้มีงานทำ และยังช่วยเหลือผู้ผลิตสินค้าชุมชนให้มีที่จำหน่ายผ่านร้านโชห่วยได้อีกด้วย แต่เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายก็ต้องปรับตัว เพื่อก้าวต่อไปข้างหน้าและทำหน้าที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจท้องถิ่นต่อไป
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมานั้นกระทรวงพาณิชย์ได้จัดกิจกรรม "ยกระดับโชห่วยไทย ในยุค New normal” เป็นการดำเนินงานโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งในกิจกรรมย่อยจะเป็นการให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกพร้อมกับการประเมินร้านค้าส่งค้าปลีกผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้านค้าส่งค้าปลีกซึ่งครอบคลุมตั้งแต่กลยุทธ์ธุรกิจ การตลาด ข้อมูลและสารสนเทศ การบริหารจัดการหน้าร้านและหลังร้าน อาชีวอนามัยและความปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีการอบรมให้ความรู้และศึกษาดูงานเชิงลึก ณ ร้านค้าส่งค้าปลีกต้นแบบ เพื่อนำองค์ความรู้และแนวปฏิบัติมาปรับใช้ในร้านของตนเองได้อย่างเหมาะสม สำหรับวันนี้นอกจากจะเป็นการเปิดตัวกิจกรรมอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีการบรรยายในหัวข้อ “จับสัญญาณธุรกิจโชห่วยไทย จะรุ่งอย่างไร?” และหัวข้อ “ยกระดับโชห่วยด้วยเกณฑ์คุณภาพ” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกให้เกียรติเป็นวิทยากร”
“ที่ผ่านมามีการพัฒนาร้านค้าส่งค้าปลีกให้เป็นร้านค้าต้นแบบแล้วกว่า 213 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ การเติบโตของธุรกิจค้าส่งค้าปลีกในช่วงที่ผ่านมานับว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างมาก โดยเฉพาะปัจจุบันการออกมาตรการของรัฐบาลในการช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนในประเภทต่างๆ อาทิ โครงการคนละครึ่ง, เราชนะ และเรารักกัน เป็นต้น"
ซึ่งโครงการเหล่านี้ได้ส่งเสริมให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าและบริการจากร้านโชห่วยหรือร้านค้าปลีกผ่านทางเทคโนโลยีมากขึ้น จึงทำให้ร้านค้าจำเป็นต้องปรับปรุงระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้รองรับการใช้บริการและแข่งขันได้ ซึ่งกิจกรรมการพัฒนาร้านโชห่วยในครั้งนี้ที่ส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีมาใช้ในร้านจะช่วยยกระดับให้มีการบริหารจัดการได้ดีขึ้นตามมา”
ดังนั้น ในช่วงนี้จึงเป็นโอกาสดีสำหรับร้านโชห่วยค้าส่งค้าปลีกที่จะมาอัพเกรดตัวเอง เพื่อก้าวสู่ยุคนอร์มอล แสดงให้ทุกคนเห็นว่าร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นสามารถแข่งขันได้ มีการนำเทคโนโลยีไปใช้ในร้านค้าอย่างเหมาะสม มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ที่สำคัญสร้างการรวมกลุ่มและเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง เพื่อจับมือพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืนต่อไป”.
บุญช่วย ค้ายาดี
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |