เอกสารที่ยื่นต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยว่า รัฐบาลทหารเมียนมาทำสัญญาว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ชาวอิสราเอล-แคนาดาเป็นเงิน 2 ล้านดอลลาร์ (61.4 ล้านบาท) เพื่อ "ช่วยอธิบายสถานการณ์จริง" ของการก่อรัฐประหารต่อรัฐบาลสหรัฐและประเทศอื่นๆ หวังให้ยกเลิกการคว่ำบาตร

    ทหารเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนภายใต้การนำของนางอองซาน ซูจี เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และควบคุมตัวนางซูจี, ประธานาธิบดีวิน มยิน และแกนนำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยและผู้เห็นต่างไว้จำนวนมาก ชาวเมียนมาออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านทุกวันในเมืองต่างๆ เพื่อทวงคืนระบอบประชาธิปไตย การใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 60 ราย และมีคนถูกจับกุมเกือบ 2,000 คน

    มีรายงานของรอยเตอร์และเอเอฟพีเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลทหารเมียนมาได้ว่าจ้างอารี เบน-เมนาเช นักล็อบบี้เชื้อสายอิสราเอล-แคนาดา และบริษัท ดิกเคนส์แอนด์แมดสันแคนาดา ของเขา เป็นตัวแทนรัฐบาลทหารเมียนมาในกรุงวอชิงตันเพื่อวิ่งเต้นปกป้องผลประโยชน์ของรัฐบาลทหารและหาทางผ่อนคลายการคว่ำบาตร โดยสองฝ่ายลงนามสัญญากันเมื่อวันที่ 4 มีนาคม หรือราวเดือนเศษนับแต่รัฐประหาร

    เอกสารที่บริษัทจากเมืองมอนทรีออลยื่นต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเมื่อวันจันทร์ เพื่อเป็นไปตามกฎหมายจดทะเบียนตัวแทนต่างชาติของสหรัฐ กล่าวว่า บริษัทจะเป็นตัวแทนเมียนมาล็อบบี้สหรัฐอเมริกา, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อิสราเอล, รัสเซีย และประเทศอื่นๆ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติและสหภาพแอฟริกา โดยบริษัทจะช่วยคิดและดำเนินนโยบายเพื่อพัฒนาการที่เป็นประโยชน์ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และยังจะช่วยอธิบายสถานการณ์ที่แท้จริงในประเทศนี้

    "ข้อตกลงระหว่างสองฝ่ายมีไว้สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเป็นเงินจำนวน 2,000,000.00 ดอลลาร์สหรัฐ ที่ผู้ว่าจ้างต่างชาติจะจ่ายให้แก่ผู้จดทะเบียนเมื่อได้รับอนุญาตตามกฎหมายจากเขตอำนาจศาลที่ควบคุม" เอกสารที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐเผยแพร่ทางออนไลน์กล่าว

    เอกสารฉบับอื่นๆ ที่เบน-เมนาเชยื่นต่อทางการสหรัฐเผยด้วยว่า ความตกลงฉบับนี้ลงนามโดยพลเอกเมีย ตุน อู รัฐมนตรีกลาโหมเมียนมา รายงานรอยเตอร์กล่าวว่า นายพลผู้นี้โดนกระทรวงการคลังสหรัฐและรัฐบาลแคนาดาแซงก์ชันเช่นเดียวกับนายพลเมียนมาอีกหลายราย เอกสารจึงระบุไว้ว่า เมียนมาจะจ่ายค่าจ้างให้ "เมื่อได้รับอนุญาตตามกฎหมาย"

    เบน-เมนาเชเคยกล่าวกับรอยเตอร์ก่อนหน้านี้ว่า เขาได้รับว่าจ้างจากรัฐบาลทหารเมียนมาเพื่อวิ่งเต้นเกลี้ยกล่อมให้สหรัฐเชื่อว่า พวกนายพลเมียนมาต้องการสร้างสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับโลกตะวันตกและถอยห่างจากจีน เขายังคุยด้วยว่าพวกนายพลต้องการนำชาวมุสลิมโรฮีนจาที่หลบหนีการปราบปรามของกองทัพเมื่อปี 2560 กลับมาตั้งถิ่นฐานใหม่ในเมียนมา คำกล่าวของเขาถูกตั้งข้อกังขาอย่างกว้างขวาง

    เอเอฟพีกล่าวว่า ล็อบบี้ยิสต์รายนี้เคยโฆษณาสรรพคุณว่าเขาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอิสราเอลและมีประวัติอื้อฉาว เขาเคยโดนจับกุมเมื่อปลายทศวรรษ 1980 จากคำกล่าวหาของสหรัฐว่าเขาขายอากาศยานทางทหารให้แก่อิหร่าน เขาถูกพิจารณาคดีแต่ภายหลังพ้นข้อกล่าวหา

    ช่วงต้นทศวรรษ 2000 เขาเป็นตัวการสำคัญในคดีก่อกบฏที่ผู้นำฝ่ายค้านซิมบับเวถูกกล่าวหา และในปี 2562 บริษัทของเขาลงนามสัญญามูลค่า 1 ล้านดอลลารเพื่อล็อบบี้ให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีตูนิเซียที่โดนจำคุก เขายังพัวพันเรื่องอื้อฉาวในแคนาดาที่นำไปสู่การลาออกจากตำแหน่งของประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่รับผิดชอบด้านการเฝ้าตรวจหน่วยงานจารกรรมของแคนาดา.